กัมพูชาและฝรั่งเศส เห็นพ้องยกระดับความมสัมพันธ์ทวิภาคีสู่ระดับ "ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์" ในปี 2026 ส่งสัญญาณกระชับความร่วมมือทั้งด้านการทูต ความมั่นคงและเศรษฐกิจ ระหว่าง 2 ชาติ
เอกสารประชาสัมพันธ์ของกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ระบุว่าถ้อยแถลงดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการประชุมปรึกษาหารือทางการเมืองทวิภาคีเซสชั่นที่ 3 เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม ในกรุงพนมเปญ
การพูดคุยในครั้งนั้น ซึ่งรวมถึงการทบทวนความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นขึ้นระหว่าง 2 ชาติ นับตั้งแต่กษัตริย์นโรดม สีหมุนี เสด็จฯเยือนฝรั่งเศส แบบรัฐพิธี ในปี 2024 มีนายซุน โสวันนา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศและเบอนัวต์ กุยดี ผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชียและโอเชียแห่งกระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศส เป็นประธานร่วม
เอกสารประชาสัมพันธ์ระบุว่าความมั่นคงและเสถียรภาพในภูมิภาค เป็นหัวข้อสำคัญในการพูดคุยหารือ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสแสดงความชื่นชมบทบาทส่งเสริมสันติภาพของกัมพูชา และข้อตกลงหยุดยิงเมื่อเร็วๆนี้ และความพยายามเจรจาในเรื่องเกี่ยวกับความขัดแย้งตามแนวชายแดนกัมพูชาและไทย
บรรดาตัวแทนของฝรั่งเศส ยังเน้นย้ำจุดยืนของฝรั่งเศส ที่สนับสนุนให้กำลังพลกัมพูชาเข้าร่วมในภารกิจรักษาสันติภาพของสหประชาชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านการฝึกฝนทางยุทธวิถีและภาษา
ความร่วมมือด้านวัฒนธรรมและมรดกยังคงเป็นเสาหลักในความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ชาติ เอกสารประชาสัมพันธ์เน้นย้ำ โดยฝรั่งเศสยืนยันจะเดินหน้ามอบความช่วยเหลือฟื้นฟูโบราณวัตถุ ณ พิพิธภันฑ์แห่งชาติในพนมเปญ และแรงสนับสนุนที่มีมาอย่างยาวนานเกี่ยวกับการปกป้องสถานที่ทางประวัติศาสตร์สำคัญๆ ในนั้นรวมถึงปราสามพระวิหาร นอกจากนี้แล้ว บรรดาตัวแทนของกัมพูชาและฝรั่งเศส ยังหารือเกี่ยวกับการเตรียมการประชุมซัมมิต Francophonie ที่ทางกัมพูชามีกำหนดเป็นเจ้าภาพ
ในแง่ของเศรษฐกิจ การหารือมุ่งเน้นไปที่การนำพากัมพูชาโผล่พ้นจากกลุ่มประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุดโดยเร็ว บรรดาตัวแทนจากสำนักงานเพื่อการพัฒนาของฝรั่งเศส บอกว่าฝรั่งเศสจะให้ความสำคัญลำดับต้นๆกับการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานสีเขียว, เศรษฐกิจดิจิทัล และอำนวยความสะดวกด้านการค้า เช่นเดียวกับยกเครื่องศุลกากรให้มีความทันสมัย เพื่อดึงดูดนักลงทุนยุโรปมากขึ้น
เอกสารประชาสัมพันธ์ระบุว่า การปรึกษาหารือปิดฉากด้วยข้อตกลงหาข้อสรุปของโร้ดแมปร่วมในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า วางกรอบการทำงานสำหรับการเดินทางเยือนระดับสูงของรัฐในปี 2026 ซึ่งคาดหมายว่าจะใช้โอกาสดังกล่าวรับรองความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์อย่างเป็นทางการ
(ที่มา:แคมโบเดียเนสส์)

