xs
xsm
sm
md
lg

แห่แจ้งจับบริษัทพูลวิลล่าภูเก็ต สร้างไม่เสร็จ-หมกเม็ดสัญญาเสียหาย 100 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



เหยื่อแห่ร้อง บช.ก.ถูกบริษัทรับสร้างบ้านทายาทนักการเมืองดัง สร้างพูลวิวล่าหรูไม่เสร็จ-หมกเม็ดสัญญาเสียหายรวมกว่า 100 ล้าน


วันนี้ (24 ธ.ค.) ที่ บริเวณหน้าตลาดนัดเลียบด่วน-แดนเนรมิต มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาผู้เสียหาย 8 ราย ซึ่งเดินทางมาจากจังหวัดภูเก็ต เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนกองบัญชาการสอบสวนกลาง (บช.ก.) เพื่อเเจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของบริษัทรับสร้างบ้านพลูวิลล่าหรู ใน จ.ภูเก็ต หลังได้รับความเสียหายรวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท

นาย ธงชัย ทองจรัญ อายุ 45 ปี กล่าวว่า รู้จักโครงการดังกล่าวผ่านทางโซเชียลมีเดียจากโฆษณา จึงตัดสินใจเข้าเยี่ยมชมโครงการ โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายและกรรมการบริษัทเข้ามาพูดคุยกับตน ก่อนที่จะมีการตกลงทำสัญญามูลค่า 9 ล้านบาท โดยได้จ่ายไปส่วนหนึ่งแต่บ้านหลังนี้ก็ยังสร้างไม่เสร็จ และโครงการก็ได้นำเสนอบ้านหลังใหม่ให้กับตนมูลค่า 18 ล้านบาท เพื่อเปลี่ยนเป็นหลังใหม่ แต่ภายหลังก็ยังสร้างไม่เสร็จเช่นเดิม และที่ดินผืนดังกล่าวยังติดขายฝาก โดยมูลค่าที่ตนจ่ายไปแล้ว 9 ล้านบาท ทั้งนี้เจ้าของที่ดินและโครงการได้มีการจะทำสัญญาจัดซื้อจัดขายไว้ด้วย

นายธงชัย กล่าวต่อว่าเมื่อทวงถามกับโครงการว่าบ้านสร้างเสร็จเมื่อไหร่ แต่ทางโครงการดังกล่าวได้บ่ายเบี่ยงและบอกว่าที่ดินนี้ยังเป็นของเจ้าของโครงการอยู่ยังไม่หลุดขายฝากยังสามารถไถ่ถอนคืนได้ ทั้งนี้เคยมีการขอยกเลิกสัญญาแต่ทางนั้นไม่ยอมคืนเงินให้ หลังจากนั้นก็ไปทวงถามแต่ไม่สามารถติดต่อทางโครงการได้อีกเลย

ด้าน ทนายชาญชัย ฉายบุ ที่ปรึกษามูลนิธิรณรงค์ฯ กล่าวว่า กลุ่มผู้เสียหายที่มาในวันนี้แบ่งเป็นสามกลุ่มด้วยกันลักษณะความเสียหายแตกต่างกันไป กลุ่มที่หนึ่งคือผู้ที่ซื้อโครงการพูลวิลล่าที่สร้างไม่เสร็จและไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินได้ตามสัญญาที่ทำกัน กลุ่มที่สองคือผู้ที่ซื้อโครงการอื่นของบริษัทเดียวกันแต่เมื่อจ่ายเงินไปแล้วกลับสร้างบ้านไม่เสร็จ ซึ่งถูกโครงการบ่ายเบี่ยงให้มาซื้อโครงการแรก สุดท้ายเมื่อย้ายมาก็โอนกรรมสิทธิ์ไม่ได้แล้วยังสร้างไม่เสร็จเช่นเดิม กลุ่มที่สาม เป็นชาวต่างชาติซึ่งบริษัทดังกล่าวทำสัญญาเช่าที่ดิน 2 ปี แล้วให้ชาวต่างชาติมาซื้อโดยอ้างว่าจะทำสัญญาเช่าให้ 30 ปี รวม 3 ครั้ง 90 ปี เนื่องจากชาวต่างชาติไม่สามารถเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินภายในประเทศไทยได้ เเต่ก็ไม่เป็นตามสัญญา โดยปัจจุบันมีผู้เสียหายจากโครงการดังกล่าวหลายรายรวมเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท

ทนายชาญชัย กล่าวอีกว่าจากการที่กลุ่มผู้เสียหายตรวจสอบพฤติกรรมในลักษณะนี้ของโครงการเบื้องต้นพบว่ากรรมการบริษัทดังกล่าวนั้นเชื่อมโยงกับบริษัทอื่นที่มีทายาทนักการเมืองดังอีกด้วย จึงได้มาร้องที่ บช.ก. เพื่อให้ตรวจสอบว่าความผิดดังกล่าวเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชนและเป็นการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์หรือไม่




กำลังโหลดความคิดเห็น