พนักงานไทยพีบีเอสแฉทุจริตในองค์กรมีอีกเพียบ หัวหน้าศูนย์ข่าวภาคไทยพีบีเอส เคยใช้รถหลวงไป-กลับบ้านตัวเอง พนักงานวิศวะขโมยแบตเตอรี่ถูกคณะกรรมการมีมติให้ออกแต่กลับมีการสั่งให้ตั้งกรรมการสอบสวนใหม่ ตั้งคําถามทําไม ผอ.ไทยพีบีเอสไม่ชี้แจงเรื่องใช้รถหลวงไปอบรมส่วนตัว แต่กลับเตรียมเสนอเป็นรอง ผอ.ไทยพีบีเอสต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร
หลังมีข่าว 3 ผู้บริหารไทยพีบีเอสถูกพนักงานร้องเรียนเรื่องการใช้รถหลวงในงานส่วนตัว ล่าสุด แหล่งข่าวเปิดเผยว่าก่อนหน้านี้ในยุคของอดีตผู้อํานวยการไทยพีบีเอส รศ.วิลาสินี พิพิธกุล มีกรณีพนักงานระดับหัวหน้าศูนย์ข่าวภาคถูกตั้งกรรมการสอบเรื่องการใช้รถหลวงไปกลับบ้านพักตัวเองด้วยเช่นเดียวกัน โดยภายหลังมีการตั้งกรรมการสอบมีเพียงแค่การลงโทษตักเตือนเท่านั้น โดยไม่มีการเอาผิดทางวินัยร้ายแรงแต่อย่างใด ซึ่งเรื่องดังกล่าวใกล้เคียงกับกรณีของนายก่อเขต จันทเลิศลักษณ์ ผู้อํานวยกสํานักข่าวที่ใช้รถไปอบรมส่วนตัวในการศึกษาหลักสูตร บยสส.ที่มีการขอรถไปรับส่งสนามบิน ซึ่งกรณีดังกล่าวไม่ใช่หน่วยงานส่งไปอบรมแต่อย่างใด
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังมีพนักงานร้องเรียนกรณีของนายก่อเขตใช้รถหลวงดังกล่าวแล้วนายวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ ผู้อํานวยการไทยพีบีเอสได้มีการให้สัมภาษณ์กับ “สํานักข่าวอิศรา” โดยนายวันชัยพูดในประเด็นการใช้รถหลวงที่มีการร้องเรียนกรณีการไปพบแหล่งข่าวและงานศพแต่กลับไม่มีการพูดถึงกรณีการใช้รถหลวงไปในงาน “อบรมส่วนตัว” ที่จัดอบรมหลักสูตร บยสส.เป็นหนึ่งในหลักสูตรที่ "สํานักข่าวอิศรา” เป็นผู้จัดขึ้น โดยในการเดินทางไปอบรมดังกล่าวนั้นเป็นการไปศึกษาดูงานที่ เชียงใหม่ของผู้เข้าอบรมหลักสูตร บยสส. รุ่นที่ 4 จัดขึ้นเมื่อวันที่ศุกร์ที่ 3 ถึงวันที่ 5 วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2568 มีการขอรถหลวงไปส่งขึ้นเครื่องบินที่สนามบิน บน.6 โดยยังมีการตั้งขอสังเกตเพิ่มเติมว่านายก่อเขตได้ขอลางานในวันศุกรที่ 3 ตุลาคมด้วยหรือไม่
รายงานข่าวแจ้งว่านอกจากนายวันชัยจะไม่ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวแล้วยังมีการเตรียมเสนอตั้งนายก่อเขตเป็นรอง ผอ.ไทยพีบีเอสในวันพฤหัสบดีนี้ต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารไทยพีบีเอสอีกด้วย ซึ่งคงต้องจับตาดูว่า คณะกรรมการบริหารฯจะให้นายกอเขตที่ยังมีเรื่องร้องเรียนค้างอยู่เป็นรอง ผอ.ฯ หรือไม่
แหล่งข่าวจากพนักงานไทยพีบีเอสยังให้ข้อมูลด้วยว่าที่ผ่านมายังมีกรณีพนักงานสํานักวิศวกรรมจํานวน 18 ราย ถูกตั้งกรรมการสอบกรณีการนําแบตเตอรี่อุปกรณ์ของศูนย์สุโขทัยและจังหวัดแพร่ไปขาย และต่อมาอดีตรองผู้อําานวยการไทยพีบีเอส รศ.วิลาสินี ได้ทําหนังสือบันทึกเพื่อให้พนักงานที่มีการทุจิรตให้โอนเงินคืนองค์กรและจบเรื่องดังกล่าว แต่ทว่า รศ.วิลาสินีซึ่งทราบเรื่องดังกล่าวในเวลาต่อมาได้สั่งตั้งคณะกรรมการสอบที่เป็นบุคคลภายนอกและผลสอบพบว่าพนักงานมีความผิดจริงโดย หลักฐานสําคัญคือการโอนเงินคืนซึ่งเท่ากับการยอมรับว่ามีการกระทําความผิดจริง คณะกรรมการสอบจึงมีความเห็นให้ไล่ออกตั้งแต่ระดับผู้อํานวยการสํานักวิศวกรรมและระดับหัวหน้าศูนย์รวมถึงพนักงานเกี่ยวข้องรวม 18 ราย แต่เมื่อนายวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ มารับช่วงต่อ กลับสั่งการให้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนใหม่อีกครั้ง
รายงานข่าวแจ้งว่าการทุจริตในไทยพีบีเอสยังมีอีกหลายกรณี ที่เป็นการกระทําความผิดอย่างชัดเจน โดยจะมีการเปิดเผยอย่างต่อเนื่องในเร็วๆ นี้

