xs
xsm
sm
md
lg

ในหลวงโปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ “พลเอก” ให้ "แม่ทัพกุ้ง" พร้อม 14 ทหารราชองครักษ์ ** คดีฮั้วเลือก สว. ถึงคิว “7 กกต.-เลขาฯ” ขึ้นเขียง!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


พล.อ.บุญสิน พาดกลาง – แสวง บุญมี - อิทธิพร บุญประคอง
ข่าวปนคน คนปนข่าว




++ ในหลวงโปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ “พลเอก” ให้ "แม่ทัพกุ้ง" พร้อม 14 ทหารราชองครักษ์

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานยศทหาร และพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เป็นกรณีพิเศษ ให้นายทหารราชองครักษ์พิเศษ 15 นาย ซึ่งหนึ่งในนี้คือ "แม่ทัพกุ้ง" พล.ท.บุญสิน พาดกลาง อดีตแม่ทัพภาค 2 ที่คนไทยยกย่องเป็น "ผู้พิทักษ์แผ่นดิน" ในการทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย และทวงคืนแผ่นดินไทยบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่รับผิดชอบอยู่

โดยพิธีเข้ารับพระราชทานประดับเครื่องหมายยศ และพิธีเข้ารับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ กำหนดให้มีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 28 ธันวาคม 2568 นี้ ณ อาคาร 606 สนามเสือป่า พระราชวังดุสิต

พล.อ.บุญสิน พาดกลาง
สำหรับประวัติและผลงานของ "แม่ทัพกุ้ง" พล.ท.บุญสิน พาดกลาง ก็ต้องบอกว่า เป็นเรื่องราวที่กินใจ และสร้างแรงบันดาลใจ ให้กับคนไทยที่รักชาติ รักแผ่นดินอย่างแท้จริง

เริ่มต้นจาก “ลูกอีสาน” ผู้สอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 26 และโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 37 ด้วยความมุมานะ ยึดถือ “ระเบียบสร้างนิสัย วินัยสร้างศักดิ์ศรี” พิสูจน์ให้เห็นว่า คนธรรมดาสามารถก้าวขึ้นมายืนในตำแหน่งสูงสุดของกองทัพภาคที่ 2 ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญที่สุดของประเทศได้

ตลอดชีวิตราชการ "บิ๊กกุ้ง" สั่งสมประสบการณ์จากงานภาคสนามอย่างโชกโชน

ทั้งการปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

และการดำรงตำแหน่งสำคัญหลากหลายภายในกองทัพภาคที่ 2 ทำให้เขาเข้าใจ “พื้นที่” และ “ผู้คน” อย่างลึกซึ้ง
ความเด็ดขาดในการทำงาน

ผสานกับบุคลิกอ่อนโยน และรอยยิ้มที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้ได้รับฉายาว่า “แม่ทัพมนต์แคน” จากความละม้ายคล้ายนักร้องลูกทุ่งดัง และกลายเป็นนายทหารที่เข้าถึงง่าย เป็นที่รักของกำลังพลและประชาชนทุกเพศ ทุกวัย

หลังเกษียณอายุราชการไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ถอดเครื่องแบบลงจากตำแหน่งแม่ทัพภาคสอง "แม่ทัพกุ้ง" ก็ยังคงทำหน้าที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ และประชาชนอย่างต่อเนื่อง

เมื่อทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานยศทหาร และพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เป็นกรณีพิเศษ ให้นายทหารราชองครักษ์พิเศษครั้งนี้ ถือเป็นเกียรติสูงสุดของชีวิต "แม่ทัพ" ผู้ทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อแผ่นดิน

แสวง บุญมี
++ คดีฮั้วเลือก สว. ถึงคิว “7 กกต.-เลขาฯ” ขึ้นเขียง!!

“คดีฮั้วเลือกสว.” ที่เคยเป็นสงครามการเมือง ที่ “ขั้วสีน้ำเงิน” ตกเป็นเป้าโจมตีของ “ขั้วสีแดง” โดยมีกลุ่ม“สว.สำรอง” เป็นแนวร่วม เริ่มงวดเข้ามาแล้ว

ในช่วงเริ่มต้น คดีนี้อยู่ในความรับผิดชอบของ คณะกรรมการสืบสวนและไต่สวน ส่วนกลาง ชุดที่ 26 ซึ่งเป็นคณะทำงานร่วม ระหว่าง “กกต. กับ ดีเอสไอ” ที่มี “ร.ต.อ.ชนินทร์ น้อยเล็ก” รองเลขาธิการ กกต. เป็นประธาน

มีการเรียกทั้ง สว.สายสีน้ำเงิน - สส.-รัฐมนตรี -นักการเมืองท้องถิ่น – แกนนำพรรคภูมิใจไทย ตั้งแต่ระดับหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค ไปจนถึงเครือข่าย นักการเมืองท้องถิ่น เข้ารับทราบ และชี้แจงข้อกล่าวหาไปแล้วหลายระลอก ...
ระดับบิ๊กเนมทั้งนั้น !!

ต่อมา คณะกรรมการสืบสวนไต่สวนชุดนี้ ได้สรุปสำนวนการสอบสวนเสนอ กกต. เห็นควรดำเนินคดี ต่อผู้ถูกกล่าวหา จำนวน 229 ราย แบ่งเป็น สว.138 คน กรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย และเครือข่ายอีก 91 คน ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา 2561

ด้วยเห็นว่า การกระทำของผู้ถูกกล่าวหา เข้าข่ายมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า ทำให้ได้รับเลือกมาเป็นสว. โดยไม่สุจริต เที่ยงธรรม และขัดรธน. มาตรา113

อิทธิพร บุญประคอง
สำนวนสรุปการสอบสวนถูกส่งไปให้ เลขาธิการ กกต. พิจารณา เพื่อเสนอความเห็นต่อ กกต.ชุดใหญ่ และถ้าที่ประชุม กกต. มีมติให้ดำเนินการเอาผิดกับผู้ถูกกล่าวหาดังกล่าว ก็จะทำเรื่องเสนอศาลฎีกา พิจารณาตัดสิน

ขณะที่“สว.สำรอง” ก็ได้ยื่นฟ้องต่ออาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางให้เอาผิด “อิทธิพร บุญประคอง” ประธาน กกต. กับพวกรวม 7 คน และ “แสวง บุญมี” เลขาธิการ กกต. ว่าใช้อำนาจมิชอบในการฮั้วเลือก สว. อีกทางหนึ่งด้วย

ส่วน “ดีเอสไอ” ก็รับคดีที่เกี่ยวข้องเป็นคดีพิเศษ คือ "คดีอั้งยี่-ฟอกเงิน”!!

สำหรับข้อกฎหมายหลักๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ คือ พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561 มาตรา 76 เป็นบทบัญญัติที่ กำหนด ห้ามกรรมการบริหารพรรคการเมือง ผู้ดำรงตำแหน่งอื่นใดในพรรคการเมือง สส. ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กระทำการใดที่เป็นการช่วยให้ผู้สมัครผู้ใด ได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา หรือทำให้ผู้สมัครผู้ใด ไม่ได้รับเลือก รวมถึงถ้าผู้สมัครใดยินยอมให้บุคคลดังกล่าวช่วยเหลือ เพื่อให้ได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา ต้องระวังโทษจำคุก ตั้งแต่ 1 - 10 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท และ ให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น

สรุปง่ายๆว่า หาก สว.-สส.-รัฐมนตรี ถูกตัดสินว่าผิด ก็ต้องพ้นจากตำแหน่ง ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ส่วนพรรคการเมือง ที่มีส่วนร่วมในการทำผิด ทางกกต.ก็สามารถตั้งเรื่องตาม มาตรา 113 ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้สั่งยุบพรรคได้

แม้วันนี้ สำนวนคดีฮั้วเลือกสว. ยังอยู่แค่ชั้นการพิจารณาของ “เลขากกต.” ยังไปไม่ถึง กกต.ชุดใหญ่เสียที แต่คดีที่เกี่ยวเนื่อง ก็มีความคืบหน้า ให้เห็นบ้างแล้ว

โดยเมื่อวันก่อน "ดีเอสไอ" สรุปสำนวน "คดีอั้งยี่-ฟอกเงิน สว." ส่งให้อัยการคดีพิเศษแล้ว โดยมี "8 ผู้ต้องหา" ประกอบด้วย 2 สว.ตัวจริง และ 6 เครือข่ายพรรคการเมือง หลังสอบสวนคดีนี้มานานถึง 9 เดือน และพบเส้นทางการเงินของบุคคล ที่เกี่ยวโยงทั้ง 8 ราย ทั้งในช่วงก่อนการเลือกสว. ระหว่างเลือกสว. และหลังการเลือก สว. ในเชิง “ต่างตอบแทน” ที่ถี่ และบ่อยครั้งผิดปกติ
ล่าสุด ยังมีความคืบหน้าในส่วนของ กกต.ด้วย โดยเมื่อวานนี้ (23 ธ.ค.) ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถนนเลียบทางรถไฟ รับฟ้องคดี ที่ “กลุ่มสว.สำรอง” ฟ้อง “7 กกต.” ชุดที่มี “อิทธิพร บุญประคอง” เป็นประธาน รวมทั้ง “แสวง บุญมี” เลขาฯ กกต.

“อัครวัฒน์ พงศ์ธนาชลิตกุล” และกลุ่ม สว.สำรอง
ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ ใช้อำนาจมิชอบในการฮั้วเลือกสว.!!

“อัครวัฒน์ พงศ์ธนาชลิตกุล” สว.สำรอง ที่เป็นผู้ยื่นฟ้องคดีนี้ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 1 ปี 5 เดือน เราได้ต่อสู้ พยายามนำความจริง นำความเที่ยงธรรม ความยุติธรรม มาปรากฏให้กับประชาชนคนไทยได้รับทราบว่า กระบวนการนี้มีการรวมหัวกัน มีการใช้โพย ใบสั่ง และจัดตั้งกลุ่ม เพื่อกระทำการใดกับการเมืองไทย เราต่อสู้เพื่อให้เกิดความสุจริต เที่ยงธรรม กับทุกภาคส่วน

เมื่อศาลคดีทุจริตฯ ได้รับคำฟ้องไว้พิจารณาแล้ว ตามขั้นตอนหลังจากนี้ ก็จะมีหนังสือ ไปถึงจำเลยทั้งหมด ที่ถูกกล่าวหา โดยประกอบด้วย กกต. 7 คน และเลขาธิการกกต. 1 คน เพื่อให้ส่งเอกสารชี้แจงในสิ่งที่ถูกกล่าวหา ว่ากระทำความผิด ในครั้งเลือกสว.ที่ผ่านมา มีกำหนดระยะเวลา ภายใน 30 วันจากนั้น ศาลจะพิจารณาเรื่องดังกล่าวทันที

ตอนนี้ ผู้ที่เกี่ยวข้อง กับขบวนการ “ฮั้วเลือกสว.” เริ่มมีบางส่วนถึงมืออัยการ ถึงมือศาลแล้ว

และเชื่อว่า อีกไม่นานคงถึงคิว สว.138 คน และ กรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย พร้อมเครือข่ายอีก 91 คน จะถึงมือศาลเช่นกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น