xs
xsm
sm
md
lg

ประชุมจีบีซี 24 ธ.ค. เคลียร์หยุดยิงไทย-กัมพูชา 'สีหศักดิ์' หวังความจริงใจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



จับตาประชุมจีบีซี 24 ธ.ค. ชี้ชะตาหยุดยิงไทย-กัมพูชา ท่ามกลางเสียงปืนที่ชายแดน 'สีหศักดิ์' ลั่น หวังเห็นความจริงใจ ไม่ใช่สันติภาพบนกระดาษ

สถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชายังคงเป็นประเด็นที่นานาชาติจับตา หลังอาเซียนจัดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศสมัยพิเศษที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เพื่อหารือแนวทางคลี่คลายความขัดแย้ง ขณะที่รัฐบาลไทยย้ำจุดยืนแสวงหาสันติภาพอย่างจริงใจ แต่ต้องตั้งอยู่บนความมั่นคง อธิปไตย และความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ ท่ามกลางสถานการณ์ปะทะในพื้นที่ชายแดนที่ยังดำเนินต่อเนื่อง

กระทรวงการต่างประเทศ ออกแถลงการณ์การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนสมัยพิเศษ (Special ASEAN Ministers’ Meeting: Special AMM) วันที่ 22 ธันวาคม 2568 กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย ระบุว่า ตามที่เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2568 นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน สมัยพิเศษ ว่าด้วยสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยมี ดาโตะ เซอรี อูตามา ฮาจี โมฮามัด บิน ฮาจี ฮาซัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน เป็นประธาน นั้น

1. ไทยขอขอบคุณมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน ที่เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนสมัยพิเศษครั้งนี้ ซึ่งไทยได้แสดงความพร้อมที่จะเข้าร่วมตั้งแต่ต้น ด้วยเห็นว่า อาเซียนจะสามารถมีบทบาทที่สร้างสรรค์ในเรื่องนี้บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง รวมถึงขอขอบคุณความปรารถนาดีของประเทศสมาชิกอาเซียนที่ร่วมหารืออย่างสร้างสรรค์ และแสดงความประสงค์อย่างแรงกล้าให้ไทยและกัมพูชากลับสู่กระบวนการเจรจา รวมถึงผ่านกลไกทวิภาคี และดำเนินการเพื่อนำไปสู่การยุติการสู้รบทุกรูปแบบ

2. ไทยได้ใช้โอกาสนี้ ยืนยันความมุ่งมั่นของไทยในการบรรลุสันติภาพที่แท้จริง ยั่งยืน และตั้งอยู่บนการดำเนินการที่เป็นรูปธรรม ที่ผ่านมา ไทยได้ใช้ความอดกลั้นอย่างถึงที่สุด แต่ไทยไม่อาจเพิกเฉยต่อการละเมิดข้อตกลงในแถลงการณ์ร่วมระหว่างไทยกับกัมพูชาที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้ รวมถึงการวางทุ่นระเบิด ซึ่งยังก่อให้เกิดความสูญเสียและเป็นภัยต่อพลเรือนและทหารอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเหตุการณ์ล่าสุดเมื่อวานนี้ (21 ธันวาคม 2568) ที่ทหารไทยสูญเสียขา เป็นครั้งที่ 8 จากการลอบวางทุ่นระเบิดใหม่ของฝ่ายกัมพูชา

3. ไทยได้ชี้แจงให้ประเทศสมาชิกอาเซียนทราบถึงข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและแจ้งจุดยืนของไทย โดยเฉพาะเงื่อนไขสำคัญ 3 ประการที่จะนำไปสู่การหารือเพื่อลดระดับความตึงเครียดที่จะนำไปสู่สันติภาพ ได้แก่ (1) กัมพูชาจะต้องเป็นฝ่ายประกาศหยุดยิงก่อน (2) การหยุดยิงของฝ่ายกัมพูชาจะต้องเกิดขึ้นจริงและต่อเนื่อง โดยจะต้องมีการตรวจสอบโดยฝ่ายทหารตามความเป็นจริงในพื้นที่ และ (3) ฝ่ายกัมพูชาจะต้องร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิดกับฝ่ายไทยอย่างจริงจัง

4. ที่ประชุมฯ ยินดีที่ทั้งสองฝ่ายจะหารือเพื่อนำไปสู่การกลับมาหยุดยิงและการยุติการเป็นปรปักษ์ โดยจะมีการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ในวันที่ 24 ธันวาคม 2568 เพื่อหารือเกี่ยวกับการดำเนินการ ขั้นตอน และการตรวจสอบการหยุดยิงในรายละเอียดต่อไป ทั้งนี้ สอดคล้องกับท่าทีของฝ่ายไทย ที่ย้ำว่า การหยุดยิงไม่สามารถเกิดขึ้นจากการประกาศฝ่ายเดียว ต้องเกิดจากเจตนารมณ์ที่แน่วแน่ เพื่อให้การหารือที่จะนำไปสู่การหยุดยิง สะท้อนความเป็นจริงในพื้นที่และมีความยั่งยืน

5. รัฐบาลไทยพร้อมที่จะหารือบนพื้นฐานของผลประโยชน์ อธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของชาติเป็นสำคัญ ไทยยังคงปรารถนาสันติภาพ แต่สันติภาพที่ยั่งยืนจะต้องมาพร้อมกับความมั่นคงและความปลอดภัยของประชาชนไทย ซึ่งฝ่ายไทยหวังที่จะเห็นความจริงใจของกัมพูชาที่สะท้อนผ่านการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม เพื่อสันติภาพที่แท้จริง ไม่ใช่เพียงสันติภาพที่อยู่บนกระดาษเท่านั้น

นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการะทรวงการต่างประเทศ แถลงผลประชุมว่า ไทยมีความปรารถนาดีต่อประเทศกัมพูชามาโดยตลอด ช่วงสงครามกลางเมือง ไทยก็สนับสนุนและช่วยเหลือเพื่อแก้ไขปัญหา ช่วงมีปัญหาก็ได้มีการเปิดชายแดนช่วยผู้อพยพเพื่อให้มีที่พักพิง และช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ เป็นการสะท้อนถึงการมีความปรารถนาดีที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสันติกับประเทศเพื่อนบ้าน การที่เรามาประชุมในครั้งนี้ ไม่ได้มาเพื่อแลกเปลี่ยนการกล่าวหาซึ่งกันและกัน เรามาเพื่อหารือและเดินหน้าต่อไปอย่างไร ทางฝ่ายกัมพูชาได้พูดเรื่องหยุดยิงกับทุกคน แต่ไม่เคยการพูดคุยกับไทยว่าจะทำอย่างไร การหยุดยิงจำเป็นต้องมีข้อตกลงกันว่าจะมีมาตรการอย่างไรและมีการตรวจสอบอย่างไร ที่ประชุมได้เห็นด้วยว่า การที่เราจะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงนั้น ไม่ได้มาจากการประกาศเพียงอย่างเดียว หากแต่ต้องมีการหารือข้อตกลงและพุดคุยกันถึงข้อเสนอกับทหารทั้งสองฝ่าย โดยเราได้บอกว่า ให้ทางฝั่งกัมพูชาเสนอว่าจะมีการประชุมเมื่อไหร่ ทางฝั่งกัมพูชาเสนอว่าจะมีการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ในวันที่ 24 ธันวาคม

นายสีหศีกดิ์กล่าวว่า การหยุดยิงจะเกิดขึ้นเมื่อทั้งสองฝ่ายมาคุยกัน ขณะนี้กำหนดเป็นวันที่ 24 ธันวาคม จะตกลงกันได้หรือไม่ได้ก็แล้วแต่ แต่ตอนนี้ต้องมาหารือกันก่อน ส่วนผลการหารือจะเป็นอย่างไรนั้น ส่วนตัวไม่สามารถบอกได้ โดยการประชุมจีบีซีจะเกิดขึ้นที่จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่บริเวณชายแดนของทั้งสองประเทศ

ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยภายหลังหารือกับเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย และผู้แทนพิเศษด้านกิจการเอเชียของจีน ว่า จีนในฐานะประเทศตัวกลางไม่ต้องการเห็นความขัดแย้งในภูมิภาค และได้หารือกับทั้งฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทยแล้ว โดยยืนยันว่าจีนไม่ได้กดดันให้ไทยตกลงใด ๆ แต่สนับสนุนการสร้างสันติภาพ ภายใต้เงื่อนไขที่ประเทศไทยยึดถืออยู่

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รายละเอียดการหารือไม่สามารถเปิดเผยได้ทั้งหมด เนื่องจากเป็นการพูดคุยระดับรัฐบาล แต่ยืนยันว่าจุดยืนของไทยยังคงชัดเจน และไม่มีประเด็นเหนือความคาดหมาย พร้อมขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในแนวทางที่รัฐบาลและกองทัพกำลังดำเนินการ

สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดน นายกรัฐมนตรีขอให้ประชาชนเป็นกำลังใจให้กับกำลังพลแนวหน้า ที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของประเทศอย่างทุ่มเทและเสียสละ พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของประชาชน โดยได้จัดศูนย์พักพิงชั่วคราว และดูแลการอพยพอย่างใกล้ชิด รวมถึงการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างเต็มที่

ด้านศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 รายงานสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ณ วันที่ 22 ธันวาคม 2568 ว่า เป็นวันที่ 15 ของการปฏิบัติภารกิจปกป้องอธิปไตย โดยยังมีการปะทะใน 3 พื้นที่หลัก ขณะที่กองทัพอากาศได้ปฏิบัติการโจมตีเป้าหมายทางทหารในฝั่งตรงข้ามตามแผนปฏิบัติการ

ทั้งนี้ มีรายงานการสูญเสียกำลังพล 1 นายจากเหตุปะทะในพื้นที่อำเภอตาพระยา และจังหวัดสระแก้วได้ประกาศอพยพประชาชนใน 4 อำเภอชายแดนไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวรวม 40 ศูนย์ มีประชาชนได้รับการดูแลแล้วกว่า 17,000 คน ท่ามกลางความพยายามของทุกฝ่ายที่จะเร่งคลี่คลายสถานการณ์และนำพาพื้นที่กลับสู่ความสงบโดยเร็วที่สุด
กำลังโหลดความคิดเห็น