บุรีรัมย์- หลายหน่วยงาน รุดเยี่ยมให้กำลังใจพร้อมช่วยเหลือซ่อมสร้างบ้านชำรุดให้กับครอบครัว “จ่าเหิน” ทหารกล้าบุรีรัมย์ เหยียบกับระเบิดขาขาดรายที่ 8 ที่สนามรบบ้านสามหลัง จ.ตราด สุดเศร้าไม่กล้าบอกข่าวร้ายแม่ป่วยติดเตียงหวั่นช็อก รมช.กลาโหมจัดรถพาครอบครัวไปเยี่ยม “จ่าเหิน” รพ.จันทบุรี พ่อและพี่ชายลั่นจัดการให้เขมรสิ้นสภาพจบโดยเร็ว ไม่ต้องเจรจา ชี้ไม่อยากให้ใครสูญเสียอีก
วันนี้ (22 ธ.ค.68) นายปิยะ ปิจนำ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้มอบหมายให้ นางปิยนาฏ เสงี่ยมศักดิ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วย นายประสงค์ จันทร์กระจ่าง ปลัดอำเภอเมืองบุรีรัมย์ ในฐานะผู้แทนนายอำเภอ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านโคกเจริญ ต.สะแกซำ อ.เมืองบุรีรัมย์ เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวของ จ่าเอก เทอดพงษ์ ผมนะรา หรือ “จ่าเหิน” ทหารช่าง หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด ที่เหยียบกับระเบิด PMN-2 ขาขวาขาด ขณะกำลังปรับปรุงแนวตั้งรับให้กับ ทหารราบ นย. เพื่อเข้าวางกำลังคุมพื้นที่บ้านสามหลัง ที่บ้านหนองรี อ.เมือง จ.ตราด เมื่อวานนี้ (21 ธ.ค.68) ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพระปกเกล้าจันทบุรี
ทั้งนี้ยังได้นำนม และผ้าอ้อมสำเร็จรูปไปมอบให้กับนางปารวี อายุ 59 ปี แม่ของจ่าเหิน ซึ่งป่วยติดเตียงมากว่า 3 ปี พร้อมทั้งให้กำลังใจด้วย แต่เนื่องจากผู้เป็นแม่ป่วยติดเตียง ทั้งหน่วยงานราชการ ญาติและคนในครอบครัว จึงไม่ได้บอกข่าวร้ายที่ลูกชายสูญเสียขาให้ทราบ เพราะเกรงกระทบสภาพจิตใจอาจเกิดภาวะช็อกได้
นางปิยนาฏ เสงี่ยมศักดิ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด กล่าวว่า ภายหลังทราบข่าวจ่าเทิดพงษ์ เหยียบกับระเบิดขาขวาขาด ทางผู้ว่าราชการจังหวัด ก็ได้มอบหมายให้ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจครอบครัว พร้อมหาแนวทางช่วยเหลือในด้านต่างๆ อาทิ การนำสิ่งของเครื่องที่จำเป็นไปมอบ โดยเฉพาะผู้เป็นแม่ซึ่งป่วยติดเตียงมา 3 ปีแล้ว แต่ยังไม่ได้รับเบี้ยผู้พิการ ในส่วนนี้ก็จะเร่งดำเนินการให้อย่างรวดเร็ว รวมถึงสภาพบ้านชั้นสองที่ชำรุดก็จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดหางบประมาณดำเนินการซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัยมากขึ้น อีกทั้งจะได้ดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปเยี่ยมจ่าเหิน ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่ รพ.จันทบุรีด้วย
อย่างไรก็ตามเบื้องต้นวันนี้ พล.ท.อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ได้จัดรถตู้มาให้บริการพาครอบครัวไปเยี่ยมจ่าเหิน โดยจะออกเดินทางกลางดึกคืนนี้ ส่วนการช่วยเหลืออย่างอื่นก็จะได้ตรวจสอบและพิจารณาเพิ่มเติมอีก
ด้าน ร้อยตรีวิสิฐศักดิ์ ผมนะรา อายุ 65 ปี อดีตทหารสังกัดค่าย ร.23 พัน 4 บุรีรัมย์ พ่อของจ่าเหิน บอกว่า ในฐานะที่พ่อเป็นทหารก็ทำใจไว้อยู่แล้ว แม้จะไม่ได้อยากให้เกิดกับลูกชายตัวเอง ก็ตั้งใจจะเดินทางไปเยี่ยมลูกชายด้วยตัวเองที่ รพ.จันทบุรี ส่วนสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ส่วนตัวพ่อไม่อยากให้เจรจา อยากให้จัดการรบให้จบเบ็ดเสร็จไปเลย ให้สิ้นสภาพเป็นภัยคุกคามกับไทยอีก
ขณะที่ ดาบตำรวจภาคภูมิ พี่ชาย จ่าเหิน บอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีใครกล้าบอกแม่ เพราะแม่ป่วยติดเตียงร่างกายแม่ไม่แข็งแรง ก็กลัวว่าแม่จะเสียใจจนช็อก เพราะแม่รักและห่วงน้องชายมาก เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.68 ที่ผ่านมาน้องก็ได้กลับมาหาพ่อแม่ที่บ้าน ส่วนตัวไม่อยากให้สถานการณ์ยืดเยื้ออยากให้จบเร็วๆ เพราะทหารไทยก็เสียชีวิตและสูญเสียอวัยวะหลายนายแล้ว ไม่อยากให้ต้องเกิดการสูญเสียอีก แต่ไม่อยากให้เจรจาอยากให้เปิดให้เต็มที่ และเหตุการณ์ที่น้องเหยียบกับระเบิดขาขาดไม่ใช่อุบัติเหตุ เกิดจากการจงใจวางทุ่นระเบิดของฝ่ายกัมพูชาแน่นอน

