xs
xsm
sm
md
lg

ภารกิจหลังรบ! กรมศิลป์ฯ ยัน บูรณะ "ปราสาทตาควาย" ได้แน่ รอเพียง "ชายแดนสงบ"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



เพจ “หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ ร.๙ นครราชสีมา“ เผยภารกิจหลังรบ โดยกรมศิลปากรยืนยันบูรณะกอบกู้ "ปราสาทตาควาย" โบราณสถานสำคัญที่เสียหายจากเหตุปะทะชายแดน แต่รอให้สถานการณ์สงบก่อน

เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. เพจ “หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ ร.๙ นครราชสีมา” โพสต์เผยภารกิจบูรณะปราสาทตาควายของกรมศิลปากร พร้อมยืนยันสามารถบูรณะ แต่ต้องรอสถานการณ์ชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชาสงบก่อน

โดยระบุว่า “ภารกิจหลังรบ : กรมศิลปากรกับการกอบกู้ “ปราสาทตาควาย”

หอสมุดแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ ร.๙ นครราชสีมา โดย “ห้องค้นคว้า” ขอเชิญชวนประชาชนร่วมเรียนรู้และทำความเข้าใจภารกิจด้านการอนุรักษ์และบูรณะปราสาทหินในประเทศไทย ซึ่งมิใช่เพียงงานช่าง หากเป็นการคุ้มครองมรดกทางวัฒนธรรมและอธิปไตยของชาติ

หลักการบูรณะปราสาทหิน: ศาสตร์และศิลป์แห่งการอนุรักษ์ การบูรณะปราสาทหินเป็นงานที่ต้องอาศัยองค์ความรู้จากหลากหลายสาขา ทั้งโบราณคดี สถาปัตยกรรม วิศวกรรม และการอนุรักษ์ โดยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกรมศิลปากร ตามพระราชบัญญัติโบราณวัตถุ โบราณสถาน ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. 2504

หลักการสำคัญที่สุดในการบูรณะคือการคงไว้ซึ่ง “คุณค่าดั้งเดิม” และ “ความเป็นของแท้” (Authenticity) ของโบราณสถาน โดยยึดแนวปฏิบัติที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล วิธีการบูรณะหลักที่ใช้กับปราสาทหินในประเทศไทย คือการบูรณะแบบ อนัสติโลซิส (Anastylosis) ซึ่งเป็นการนำชิ้นส่วนหินเดิมที่พังทลายกลับไปประกอบในตำแหน่งเดิมให้มากที่สุด หากจำเป็นต้องเสริมชิ้นส่วนใหม่ จะต้องแยกแยะจากของเดิมได้อย่างชัดเจน เพื่อให้สามารถตรวจสอบและทำความเข้าใจการบูรณะในอนาคต

ก่อนการดำเนินงานบูรณะ จำเป็นต้องมีการขุดค้นและศึกษาทางโบราณคดีอย่างละเอียด มีการจัดทำผัง บันทึก และวิเคราะห์ชิ้นส่วนที่พังทลาย เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการถอดแบบและฟื้นฟูรูปแบบดั้งเดิม ควบคู่กับการเสริมความมั่นคงของโครงสร้าง เพื่อป้องกันการทรุดตัวและการเสื่อมสภาพของวัสดุตามกาลเวลา
ผู้สนใจสามารถศึกษาวิธีการบูรณะแบบอนัสติโลซิสเพิ่มเติมได้ที่ https://youtu.be/idtIw7enmyk?si=VEPxpQO92J2p2N-N

ปราสาทตาควาย: โบราณสถานกับมิติอธิปไตยและความมั่นคง
ปราสาทหินตาควายตั้งอยู่ในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา และได้รับความเสียหายจากเหตุปะทะทางทหารในช่วงความขัดแย้งที่ผ่านมา จากการให้สัมภาษณ์ของ นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ยืนยันว่า โบราณสถานในเขตชายแดน รวมถึงปราสาทตาควาย สามารถบูรณะซ่อมแซมได้ตามหลักวิชาการ และมิใช่สิ่งที่เกินขีดความสามารถของกรมศิลปากร อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานต้องคำนึงถึงความมั่นคงของพื้นที่และความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่เป็นสำคัญ

ในฐานะที่โบราณสถานเหล่านี้ตั้งอยู่ในเขตอธิปไตยของราชอาณาจักรไทย กรมศิลปากรมีหน้าที่โดยตรงในการคุ้มครองและอนุรักษ์ พร้อมทั้งประสานความร่วมมือกับหน่วยงานด้านความมั่นคง การบูรณะจะสามารถดำเนินการได้เมื่อสถานการณ์ตามแนวชายแดนกลับสู่ความสงบ

การดูแลของสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา
ปราสาทหินตาควายอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา นายทศพร ศรีสมาน ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 10 ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อต่าง ๆ ว่า ปราสาทตาควายสามารถบูรณะให้กลับสู่สภาพเดิมได้ โดยใช้กระบวนการมาตรฐานเช่นเดียวกับโบราณสถานอื่น ได้แก่ การสำรวจ ขุดค้น จัดทำแบบ และจัดทำรายการบูรณะ ทั้งนี้ การดำเนินงานจำเป็นต้องรอให้สถานการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนยุติลง เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างปลอดภัยและถูกต้องตามหลักวิชาการ

ภารกิจกรมศิลปากรหลังความขัดแย้ง
ภายหลังเหตุการณ์สงครามหรือความขัดแย้ง ภารกิจหลักของกรมศิลปากรคือการคุ้มครอง อนุรักษ์ และฟื้นฟูมรดกศิลปวัฒนธรรมของชาติ การสำรวจและประเมินความเสียหายของโบราณสถาน รวมถึงการดำเนินการอนุรักษ์ฉุกเฉินเพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม โดยต้องประสานงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานด้านความมั่นคง

การบูรณะปราสาทหินตาควายจึงมิใช่เพียงการฟื้นฟูโบราณสถานที่ได้รับความเสียหายจากสงคราม หากเป็นบทพิสูจน์ถึงบทบาทของกรมศิลปากรและสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา ในการใช้หลักวิชาการคุ้มครองมรดกทางวัฒนธรรม และยืนยันอำนาจหน้าที่ในการดูแลโบราณสถานบนผืนแผ่นดินอธิปไตยของไทย

เรียบเรียงข้อมูลและแนะนำโดย นางแพรว ธนภัทรพรชัย เจ้าพนักงานห้องสมุดชำนาญงาน
ออกแบบกราฟิกโดย นายพีรยุทธ กษิติบดินทร์ชัย บรรณารักษ์ปฏิบัติการ”


กำลังโหลดความคิดเห็น