สถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย ปฎิเสธมีชาวรัสเซียเป็นทหารรับจ้าง ชี้ข่าวปล่อยสร้างความเสียหายต่อมิตรภาพไทย-รัสเซีย ย้ำจุดยืนเป็นมิตรทั้งไทยและกัมพูชา สนับสนุนสันติวิธี ขณะที่ตำรวจทั้งภูธรโคราชและส่วนกลางเฝ้าระวัง หลัง สภ.พลกรัง ระบุ มีทหารรับจ้างชาวรัสเซีย กัมพูชาเป็นผู้ว่าจ้าง บินโดรนโจมตีกองบิน 1
.
วันนี้ (15 ธ.ค.) สถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย ชี้แจงระบุว่า สถานทูตฯ ทราบว่ามีการเผยแพร่ข่าวจากสื่อบางแห่งในประเทศไทยเกี่ยวกับความเป็นไปได้ว่าจะมีพลเมืองชาวรัสเซียเข้ามาพัวพันในฐานะทหารรับจ้างที่ถูกฝ่ายกัมพูชาว่าจ้างให้มาเข้าร่วมในความขัดแย้งบริเวณชายแดนประเทศไทยและกัมพูชานั้น
.
ข่าวดังกล่าวไม่มีมูลความจริงและมีแนวโน้มว่าจะถูกสร้างขึ้นจากแหล่งข้อมูลนอกภูมิภาค มีเป้าหมายเพื่อบั่นทอนสิทธิพลเมืองชาวรัสเซียที่พำนักอยู่ในประเทศไทยในฐานะนักท่องเที่ยวหรือประกอบธุรกิจ เป็นการสร้างความเสียหายต่อมิตรภาพอันยาวนานระหว่างประเทศรัสเซียและไทย
.
กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียมีจุดยืนที่ชัดเจนต่อประเด็นความขัดแย้งชายแดนไทยและกัมพูชา และในประเด็นดังกล่าวได้มีการแจ้งให้ทราบแล้วโดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2568 ความว่า “ประเทศรัสเซียมีความสัมพันธ์อันเป็นมิตรและมีความร่วมมือกับประเทศไทยและกัมพูชา เราขอยืนยันและสนับสนุนการแก้ไขข้อพิพาทนี้โดยสันติวิธีเท่านั้น”
.
ก่อนหน้านี้มีการแชร์ข่าวระบุว่า สถานีตำรวจภูธรพลกรัง จ.นครราชสีมา ประชาสัมพันธ์ว่า อาจจะมีทหารรับจ้างชาวรัสเซีย (กัมพูชาเป็นผู้ว่าจ้าง) เข้ามาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เป้าหมายในการบินโดรนโจมตีพื้นที่ยุทธศาสตร์ในพื้นที่ จว.นครราชสีมา (กองบิน 1)
.
ทำให้เช้าวันนี้ พล.ต.ต.ณรงค์ศักดิ์ พรหมทา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เรียกประชุมผู้กำกับการสถานีตำรวจทุกแห่งใน อ.เมืองนครราชสีมา ตรวจตราบุคคลต้องสงสัยที่อาจเข้าข่ายกระทำการในลักษณะเป็นสายลับ รวมถึงการกระทำที่ผิดปกติ การครอบครองอุปกรณ์ต้องสงสัย และมาตรการป้องกันโดรนต้องสงสัย พร้อมกับ ให้เร่งสืบสวนหาข่าวบุคคลต้องสงสัยและบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดกับบุคคลที่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศ
.
ขณะที่ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงว่า เรื่องนี้เกิดจากการประชุมหน่วยงานความมั่นคง จังหวัดนครราชสีมา พบข้อมูลและแจ้งเตือนไปยังโรงพัก และแต่ละโรงพักก็มีการแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ เป็นการบูรณาการระหว่างหน่วยงานความมั่นคง ขณะนี้ตำรวจดำเนินการเข้มข้น ฝากเตือนประชาชน ช่วยกันเป็นหูเป็นตา ตรวจสอบ คนกลุ่มบุคคล ยานพาหนะ โดรน หากพบรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ 24 ชม.
.
ส่วนการคัดกรองบุคคลเข้าประเทศ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) มีการดำเนินการอย่างเข้มข้น ทั้งทางอากาศ สนามบินนานาชาติ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเข้มข้น ทางน้ำ พื้นดิน ช่องทางธรรมชาติต่างๆ บูรณาการกับกำลังฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครอง และตำรวจในพื้นที่ระมัดระวังป้องกันชาวต่างชาติที่ไม่หวังดีเข้ามาก่อเหตุในประเทศไทย
......
Sondhi X