รัฐบาลไทยออกแถลงการณ์ 6 ภาษา ประณามกัมพูชายิงจรวด BM-21 พุ่งเป้าใส่พลเรือนผู้บริสุทธิ์ ชี้เป็นการกระทำโหดร้าย ไร้มนุษยธรรม และละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง เรียกร้องให้ยุติทันทีและรับผิดชอบ
สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทยกับกัมพูขา ยังคงมีการปะทะกันตามปกติ แม้ว่า นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ระบุว่าในเวลา 22.00 น.ก็ตาม โดยเพจ ‘Army Military Force’ รายงานสถานการณ์ในวันดังกล่าวว่า เวลา 22.12 น. แนวรบตราดยังคงดุเดือด เรือรบหลวงระดมยิงปืนเรือจากอ่าวไทย โจมตีตำแหน่งฐานปืนใหญ่กัมพูชา ขณะนาวิกฯ ปฎิบัติการในพื้นที่ ระดมยิงปืนใหญ่ใส่ตำแหน่งทหารกัมพูชาเช่นกัน
ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยืนยันว่า กรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย โพสต์ข้อความระบุว่าในเวลา 22.00น. ประเทศไทย และกัมพูชาจะเริ่มกระบวนหยุดยิง คาดว่าน่าจะเป็นความเข้าใจผิด ซึ่งขณะนี้มีการสื่อสารเยอะไปหมด จึงขอให้ฟังการแถลงของกองทัพใน 2 ช่วงเวลาจะดีที่สุด และขณะนี้ยังไม่มีการเจรจาหยุดยิง และยังไม่ถึงเวลานั้น
ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ได้เผยแพร่เอกสารข่าว รัฐบาลไทยประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชา ที่ยิงจรวด BM-21 มุ่งเป้าที่ประชาชนคนไทยผู้บริสุทธิ์ ความว่า
ขณะที่ รัฐบาลไทย ออกแถลงการณ์ 6 ภาษา (ไทย จีน รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส กัมพูชา) ประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชาที่ยิงจรวด BM-21 มุ่งเป้าที่ประชาชนคนไทยผู้บริสุทธิ์ ความว่า รัฐบาลไทยขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำอันโหดร้ายและไร้มนุษยธรรมของฝ่ายกัมพูชา จากการใช้อาวุธจรวด BM-21 ยิงตกเข้ามาในพื้นที่พลเรือนในเขตแดนไทย บริเวณด้านหน้า บังเกอร์หลบภัย หมู่ที่ 1 ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งส่งผลให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับบาดเจ็บสาหัส สูญเสียอวัยวะ ทรัพย์สินเสียหาย และก่อให้เกิดความหวาดกลัวต่อความปลอดภัยในชีวิตของประชาชน
การโจมตีดังกล่าวเป็นการกระทำที่ละเมิดหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง โดยเฉพาะหลักการคุ้มครองพลเรือน (Principle of Civilian Protection) และหลักการจำแนก เป้าหมายทางทหารและพลเรือน (Principle of Distinction) ซึ่งเป็นพันธกรณีที่รัฐทุกประเทศต้องยึดถือ ประเทศไทยขอยืนยันว่า พลเรือนและชุมชนที่ได้รับผลกระทบ มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการทางทหารใดๆ และการใช้อาวุธโจมตีพื้นที่พลเรือนเช่นนี้ไม่อาจยอมรับได้ภายใต้หลักสากล
รัฐบาลไทยเรียกร้องให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง 1.ยุติการใช้กำลังต่อพลเรือนโดยทันที 2.เคารพพันธกรณีตามกฎหมายระหว่างประเทศและหลักมนุษยธรรม 3.แสดงความรับผิดชอบต่อความสูญเสีย ที่เกิดขึ้นกับประชาชนผู้บริสุทธิ์ ประเทศไทยขอยืนยันว่าจะใช้ทุกกลไกที่มีอยู่ในการดำเนินการภายใต้กรอบที่เหมาะสม เพื่อปกป้องชีวิต ความปลอดภัย และศักดิ์ศรีของประชาชนไทย พร้อมทั้งขอเรียกร้องต่อประชาคมโลกให้ร่วมกันติดตาม ตรวจสอบ และยืนหยัดปกป้องหลักมนุษยธรรมอย่างถึงที่สุด