อนุทินยัน“กัมพูชาละเมิดก่อน” ตอบโต้ให้รู้“อย่าทำแบบนี้” ฝากทรัมป์บอกให้หยุดยิง-ถอนกำลัง-กู้ระเบิด

วันนี้ (12 ธ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลาประมาณ 22.15 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ และ นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ แถลงข่าวหลังการหารือกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ระบุว่า การพูดคุยทางโทรศัพท์เป็นไปด้วยบรรยากาศที่ดี ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีความเป็นห่วงในสถานการณ์ และอยากให้ทุกอย่างกลับไปยังจุดที่เคยเป็นอยู่ คือปฎิญญาร่วมซึ่งลงนามที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
.
ทั้งนี้ ตนได้ยืนยันกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่าประเทศไทยปฎิบัติตามเงื่อนไขที่อยู่ในปฎิญญาร่วมฯ (Joint Declaration) มาตลอด ไม่เคยที่จะออกนอกเงื่อนไขเลยแม้แต่น้อย แต่ว่าทางฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้ที่ละเมิด ถ้าเป็นการละเมิดด้วยการปฎิบัติที่เกิดจากความล่าช้า ไม่มีการทำให้เกิดการสูญเสียชีวิต ก็จะต้องมาพูดคุยเพื่อให้กัมพูชาปฎิบัติ แต่ถ้ามีการละเมิดโดยทำให้ฝ่ายไทยเกิดความสูญเสียอวัยวะ ชีวิต และทรัพย์สินแบบนี้ ประเทศไทยมีความจำเป็นที่จะต้องตอบโต้ ในสิ่งที่เราต้องป้องกันอธิปไตย ดินแดน ทรัพย์สินของคนไทย และที่ต้องดำเนินการอย่างสูงสุด คือ ป้องกันชีวิตของประชาชน
.
"นี่คือเหตุที่ผมต้องอธิบายท่านประธานาธิบดีทรัมป์ ไม่งั้นท่านก็เข้าใจว่าเราเป็นฝ่ายจู่โจม เป็นฝ่ายรุกรานประเทศกัมพูชา ซึ่งไม่ใช่เลย เราตอบโต้ แต่เวลาตอบโต้ในบางครั้งก็ต้องทำให้เขาได้ยิน ทำให้เขาเห็นว่า อย่ามาทำอย่างนี้กับเรา เราไม่ใช่ประเทศที่คุณอยากจะทำอะไร คุณก็มาทำได้" นายอนุทิน กล่าว และเชื่อว่า คนที่ไม่ได้เป็นคู่สัญญาอย่างไทย-กัมพูชา ถ้าจะพูดกับใครก็คงใช้ข้อมูลฝ่ายเดียวไม่ได้ เขาก็ต้องฟังข้อมูลจากฝ่ายไทย ซึ่งเป็นฝ่ายที่ถูกกระทำก่อน
.
นายกรัฐมนตรี ถามกลับผู้สื่อข่าวถึงเรื่องที่ว่าประเทศไทยจะมีการเลือกตั้ง ว่า เป็นเรื่องของประเทศไทยไม่เกี่ยวกัน ทำไมต้องเอาเรื่องการเลือกตั้งมาเกี่ยวกับเรื่องของการปกป้องอธิปไตยหรือป้องกันประเทศ ตอนนี้ต้องพูดถึงเรื่องที่ว่า ทำอย่างไรไม่ให้ทหาร ประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการรุกราน การยิงและระเบิดจากฝั่งกัมพูชา วันนี้เรื่องการเมืองกับการเลือกตั้งไม่มีความสำคัญกับตนแม้แต่น้อย เท่ากับลมหายใจ แม้กระทั่งคนๆ หนึ่งที่อยู่ตามแนวชายแดนที่เป็นคนไทย
.
เมื่อถามว่ามีคำตอบหรือมีคำพูดอะไรกลับมาถึงนายกฯ นายอนุทิน กล่าวว่า ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่าท่านเข้าใจ ถ้ามีเรื่องแบบนี้ขอให้ รมว.ต่างประเทศ ต่อสายตรงถึงนายมาร์โก รูบิโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ตลอดเวลา รวมทั้งมีอะไรให้โทร.หาท่าน แต่ตนก็เรียนว่าคงไม่ถึงขั้นนั้น เพราะประเทศไทยยังรับมือสถานการณ์ได้ และ รมว.ต่างประเทศได้พูดคุยกับสหรัฐฯ ในหลายระดับเป็นประจำอยู่แล้ว
.
ส่วนข้อตกลงหยุดยิง นายอนุทิน กล่าวว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อยากให้หยุดยิง ตนก็เรียนไปว่าขอให้ไปบอกกัมพูชาดีกว่า ว่าอย่าบอกว่าหยุดยิงเฉยๆ ต้องออกมาบอกให้โลกรู้ว่ากัมพูชาจะหยุดยิง ถอนกำลังออกไป และเก็บกู้วัตถุระเบิดที่วางเอาไว้ออกไปให้หมด แล้วทำให้เห็น เราไม่เคยเข้าไปเพื่ออยากจะได้อะไรของเขา ไม่มี แต่กัมพูชาต้องหยุดทุกอย่างก่อน
.
ทั้งนี้ เป็นสิ่งที่ฝ่ายกองทัพได้รายงานถึงตนมาตลอดว่าได้เก็บกู้วัตถุระเบิด ถึงจุดที่พบทุ่นระเบิดจำนวนมาก แล้วกัมพูชาไม่ยอมให้ไทยเข้าไป คณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) ซึ่งเป็นสักขีพยานจากอาเซียนเข้ามาร่วมกับไทย วัตถุระเบิดและกับระเบิดที่ทำให้ทหารบาดเจ็บและเสียชีวิตก็ได้รับการยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรว่า เป็นระเบิดใหม่เพิ่งวาง ซึ่งชัดเจนในตัวอยู่แล้วว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายละเมิดสัญญา เพราะฉะนั้นคนที่ละเมิดสัญญาต้องแก้ไข ไม่ใช่คนที่ถูกกระทำมาแก้ไข เป็นหลักสากลที่ทุกคนต้องเข้าใจ
.
ส่วนที่กัมพูชาอ้างว่าเป็นพื้นที่ของตน ก็ไม่ยอมออกไป นายอนุทินยืนยันว่า แม้จะอ้างว่าเป็นพื้นที่กัมพูชา แต่ภายใต้ปฎิญญาร่วม ไทยและกัมพูชาต้องปฎิบัติการกู้ทุ่นระเบิดด้วยหลักมนุษยธรรม เพราะเป็นการกู้ทุ่นระเบิดที่เป็นอันตราย ไม่ใช่บอกว่าไม่ใช่ของกัมพูชา ไม่กู้ ซึ่งนายสีหศักดิ์ กล่าวเสริมว่า กัมพูชาอ้างว่าเป็นพื้นที่เป็นของเขา แต่ควรเก็บกู้วัตถุระเบิดร่วมกัน
.
ส่วนรายละเอียดปฎิบัติการทางทหารนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า จะไปยึดจุดไหน เป้าหมายเป็นอย่างไร ตนเข้าไปแทรกแซงไม่ได้ เพราะกองทัพมีแผนที่ มีแผนและการดำเนินการ ซึ่งฝ่ายยุทธการทุกเหล่าทัพก็มีการแถลงให้ประชาชนรับทราบทุกวัน ส่วนคณะรัฐมนตรีดูในเรื่องนโยบายและหาวิธีให้สถานการณ์ดีขึ้นได้ และประเทศไทยได้ประโยชน์ ไม่ใช่รบลูกเดียว ไม่มีใครอยากรบ ไม่มีใครอยากเห็นคนเสียชีวิตไม่ว่าคนไทยหรือต่างชาติ แต่อธิปไตย ดินแดนไทย และประชาชนคนไทย ถ้าตนเป็นนายกฯ อยู่ จะมาถูกกลั่นแกล้ง ถูกละเมิด ถูกลอบยิงเพราะฝ่ายผู้บริหารประเทศมีความขัดแย้งกัน ประชาชนไม่ได้รู้เรื่องอะไร ตนก็ยอมไม่ได้เหมือนกัน
.
ส่วนเรื่องมาตรการภาษีนำเข้าสหรัฐฯ นายอนุทิน กล่าวว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่ายังให้สัญญาอยู่ รับรองว่าจะให้ประเทศไทยดีกว่าประเทศอื่น วันนั้นลืมสั่งไปเพราะงานเยอะ ส่วนวางกรอบเมื่อไหร่ รัฐบาลก็ทำหน้าที่ของเรา ถึงเวลาเมื่อ รมว.พาณิชย์ไปเจรจา สิ่งที่ผู้นำทั้งสองประเทศได้พูดคุยไว้ก็ต้องถูกยกขึ้นมา ไม่ลืมแน่นอนเที่ยวนี้ เพราะพูดกันครั้งที่สองแล้ว เป็นแนวโน้มที่ดี ตนกล่าวว่ารอประธานาธิบดีลดภาษีให้อยู่ ก็ตอบกลับมาว่าขอโทษที จำได้แต่ลืมยุ่งมากเลย เดี๋ยวจะดำเนินการ ไม่ได้มีท่าทีกดดันหรือจะเอามาผูกกัน ส่วนตัวเลขเท่าไหร่ให้ รมว.พาณิชย์ต่อรองให้เยอะๆ
.
ส่วนสถานการณ์จะไปถึงจุุดใด นายอนุทิน กล่าวว่า ความขัดแย้งเป็นเรื่องของสองประเทศ สิ่งที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียต้องการให้ไม่มีการสูญเสียชีวิต ซึ่งเป็นจุดยืนเดียวกับไทย ไม่มีใครอยากเห็นการสูญเสียชีวิต
.
ส่วนการปฎิบัติหน้าที่ของทหารตามแนวชายแดน ยังคงปฎิบัติหน้าที่ต่อไป แต่การสู้รบหรือแข่งขันกับใคร ไม่สามารถบอกได้ว่าเราจะทำอะไร ทุกคนก็ต้องดำเนินการ สิ่งที่ยืนยันได้ก็คือ ทุกอย่างเป็นไปภายใต้กฎหมายไทยและกฎหมายสากล ไม่มีการละเมิดจากฝ่ายไทยแน่นอน สามารถยืนยันกับผู้นำทุกประเทศได้ เพราะประเทศไทยไม่เคยละเมิดสัญญาที่ลงไว้ และไม่เคยรุกรานดินแดนเพื่อนบ้าน วันนี้ได้ประชุมหารีอกับผู้บัญชาการเหล่าทัพและปลัดกระทรวงกลาโหม ทุกคนมีความมั่นใจและชัดเจน เราต่างคนต่างยินยันสนับสนุนซึ่งกันและกัน โดยมีเป้าหมายเดียวกัน
......
Sondhi X