บุรีรัมย์- เกิดเหตุสลดชายวัย 55 ปี ชาวอำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ เสียชีวิตขณะอพยพหนีการสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา เข้าไปยังศูนย์พักพิง แม้เจ้าหน้าที่จะพยายามปั๊มหัวใจอย่างเต็มที่แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ สร้างความเศร้าเสียใจให้กับครอบครัว ล่าสุดมีรายงานเสียงปืนใหญ่ดังไกลถึงห่างจากชายแดนกว่า 30 กม.
วันนี้ (8 ธ.ค.68) มีรายงานว่าได้เกิดเหตุสลด จากกรณีการอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่มีการยิงปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา ที่เปิดฉากยิงใส่ก่อน ซึ่งระหว่างที่ประชาชนหลายครอบครัวในพื้นที่อำเภอบ้านกรวด ซึ่งอยู่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในรัศมีการยิงปะทะ ต่างพากันอพยพไปยังศูนย์พักพิงที่ทางราชการจัดเตรียมไว้ และไปอยู่ตามบ้านญาติตามอำเภอและจังหวัดต่างๆ
แต่ระหว่างการอพยพ นายประหยัด ปาลี อายุ 55 ปี ชาวบ้าน ต.ปราสาท อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมีโรคประจำตัว คือ โรคหัวใจ ได้หมดสติขณะอพยพเข้าไปยังศูนย์พักพิงในตัวจังหวัดบุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันทำ CPR หรือปั๊มหัวใจ แต่ไม่พบชีพจร จึงได้รีบส่งต่อไปยังโรงพยาบาลบุรีรัมย์ ระหว่างทางก็ได้มีการปั้มหัวใจตลอด แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตผู้ป่วยรายดังกล่าวไว้ได้ ได้เสียชีวิตในที่สุด สร้างความเสียใจให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก
ขณะนี้ร่างผู้เสียชีวิตอยู่ที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ เพื่อให้แพทย์ชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความสะเทือนใจ
อย่างไรก็ตามจากข้อมูลรายงานความเคลื่อนไหว การยิงปะทะตามบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ พบว่าช่วงเช้าวันนี้ ได้มีเสียงกระสุนปืนใหญ่ของฝั่งกัมพูชา ยิงตกลงมาในพื้นที่ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ เสียงดังสนั่นไกลถึง อ.ประโคนชัย ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนไทย-กัมพูชา มากกว่า 30 กิโลเมตร ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ อ.ประโคนชัย ต่างตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ประชาชน และพ่อค้าแม่ค้าบางส่วนในพื้นที่ อ.ประโคนชัย เริ่มอพยพแล้ว อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีรายงานประชาชนได้รับบาดเจ็บ หรือมีบ้านเรือนเสียหายจากการปะทะแต่อย่างใด

