xs
xsm
sm
md
lg

ยกแก๊งแน่! เส้นเงินขบวนการคุกวีวีไอพี "ทนาย" ตัวเชื่อมหมุนเวียนหลัก100 ล้าน! สอบลึกหาโยง "มานพ"…งานนี้ไม่เกี่ยวกลั่นแกล้ง-การเมือง ** ปลด “สจ.จอย” พ้นนายกอบจ. ต้องเลือกตั้งกันใหม่ การเมืองท้องถิ่นปราจีนฯเดือด!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


มานพ ชมชื่น - ณภาภัช อัญชสาณิชมน
++ ยกแก๊งแน่! เส้นเงินขบวนการคุกวีวีไอพี "ทนาย" ตัวเชื่อมหมุนเวียนหลัก100 ล้าน! สอบลึกหาโยง "มานพ"…งานนี้ไม่เกี่ยวกลั่นแกล้ง-การเมือง

ยิ่งสาวก็ยิ่งเห็นถึงความอหังการ ของขบวนการคุกวีวีไอพี แปลงคุณเป็นสถานบริการทางเพศ ที่เป็นข่าวสุดอื้อฉาวไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ราชทัณฑ์ไทย

หัวขบวนผู้ถูกกล่าวหา "มานพ ชมชื่น" อดีต ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ยืนยันเรื่องนี้ว่าเป็นการ "กลั่นแกล้ง" และมี "การเมือง" มาเกี่ยวข้อง แต่ทั้งหมดเชื่อได้ว่า เจตนาต้องการเบี่ยงประเด็น เพื่อให้สังคมสับสน

เพราะจากข้อเท็จจริงที่ค่อยๆ ถูกเปิดเผยออกมา ตอนนี้เห็นได้ชัดเลยว่า ไม่มีเรื่องดังกล่าวโดยสิ้นเชิง

ต้องบอกว่า เป็นความผิด "ส่วนบุคคล "ล้วนๆ!

มานพ ชมชื่น
ยิ่งการสืบสวนของดีเอสไอ ลึกลงไปขยายผล ฟังว่าดำเนินการสอบปากคำพยานซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ไปแล้วมากกว่า 20 ราย ยิ่งทำให้เห็นถึงบทบาทการแบ่งหน้าที่กันทำของกลุ่มคน

ขณะที่การตรวจสอบเส้นทางการเงิน มีทั้ง "คนใน" และ “คนนอก” โดยเฉพาะคนใกล้ชิดกับอดีต ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร พบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกันจริง ระหว่างกลุ่มคนจีนและเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร รวมถึงทนายความชื่อดัง จากจังหวัดสมุทรปราการ

ว่ากันว่า เงินหมุนเวียนในกลุ่มนี้กว่า 100 ล้านบาท เลยทีเดียว โดยมีทนายความสองคนเป็น "นกต่อ" หรือประสานระหว่างผู้ต้องหาต่างประเทศ กับเจ้าหน้าที่เครือข่าย อดีต ผบ.เรือนจำ

วงใน “ดีเอสไอ” บอกว่า พฤติการณ์ของสองทนายความ พบข้อมูลว่า มีความเชื่อมโยงกับการประสานคดีความของผู้ต้องหาชาวจีนในเรือนจำฯ ปรากฏอยู่ในทะเบียนประวัติการเยี่ยมญาติ ของผู้ต้องขังชาวจีน โดยทนายชื่อดังสมุทรปราการ มีมากกว่า 2,000 ครั้ง ส่วนอีกคน ก็หลายร้อยครั้ง ซึ่งถูกตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดจึงต้องเป็นทนายความสองรายนี้ ที่ถูกเลือกให้เป็นผู้ประสานงานทางคดีความของผู้ต้องขังชาวจีนตลอด

ส่วนประเด็นการเดินทาง เข้า-ออกราชอาณาจักรไทย ของ "มานพ" ที่เจ้าตัวไปมาเก๊า และปอยเปต บ่อยครั้งมากผิดปกติ พบว่า อดีตผบ.เรือนจำพิเศษ "ลาครั้งเดียว" นอกจากนั้น ไม่เคยแจ้งลาราชการต่อผู้บังคับบัญชาเลย

วงใน ดีเอสไอ ระบุว่า ข้อมูลส่วนนี้จะถูกใช้สนับสนุนการสอบสวนประเด็นลงลึกเกี่ยวกับธุรกรรมการเงินของ "มานพ" ด้วย
จากนี้ “ดีเอสไอ” ก็จะวิเคราะห์เส้นทางการเงินทั้งหมดของกลุ่มคนผู้ร่วมขบวนการแปลงคุกเป็นสถานค้าประเวณี และ อำนวยความสะดวกสบายอื่นๆ ให้ผู้ต้องขังต่างชาติ อันจะทำให้เห็นภาพความเกี่ยวข้อง และเชื่อมโยงกันว่าสนับสนุนการทำอะไรกันบ้าง

งานนี้ก็ตัวใครตัวมัน!

พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล
ว่ากันว่า เบื้องหลังที่ขบวนการนี้ถูกทำลาย เพราะเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่รักองค์กร ทนไม่ได้กับการถูกนักโทษต่างชาติเหล่านี้หยาม และความเละเทะของเรือนจำพิเศษ ภายใต้การควบคุมดูแลของ "มานพ" จึงนำเรื่องร้องเรียน อธิบดีกรมราชทัณฑ์ "พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล" ซึ่งเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ เมื่อเดือนตุลาคม 2568

หลังจากนั้น ว่ากันว่า อธิบดีพ.ต.ท.ประวุธ ที่เคยเป็นมือสอบสวนสืบสวน เดินเกมเก็บข้อมูลในเชิงลึกอย่างเงียบๆ ก่อนจะลงมือปฏิบัติการเข้าตรวจค้น โดยขบวนการนี้ไม่ทันตั้งตัวตามที่เป็นข่าว

จากนั้นการขยายผลก็เริ่มต้นโดยมี “ดีเอสไอ” เข้ามาสืบสวนสอบสวน

ส่วนนักโทษต่างชาติที่มีปัญหา อธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้สั่งย้ายอย่างเฉียบขาด เห็นว่ากระจายไปตามเรือนจำต่างๆ อาทิ "เขาบิน" ที่รู้จักกันดีว่าเป็นเรือนจำโหดเป็นพิเศษ กับผู้ต้องโทษสถานหนัก เรือนจำคลองเปรม และ บางขวาง เพื่อไม่ให้นักโทษต่างชาติ ซึ่งส่วนใหญ่ "เงินหนา" ประเภทกระทำความผิดคดีสแกมเมอร์ และพนันออนไลน์ "สุมหัว" และ "ก่อเรื่อง" สร้างอิทธิพลขึ้นอีก

พฤติการณ์และคนที่เกี่ยวข้องกับขบวนการคุกวีวีไอพี จะถูกสรุปสำนวนสืบสวนส่งให้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไป เพราะ มีเจ้าหน้าที่รัฐ และคนนอกร่วมด้วยช่วยเจ้าหน้าที่รัฐกระทำผิด

งานนี้ บอกได้คำเดียว รอรับกรรม คนที่เคยอยู่อย่างราชา ถูกกระชากหน้ากากหมดแล้ว เหลือเพียงบทสรุปสุดท้ายว่าหนักหนาสาหัสเพียงใดเท่านั้น

ณภาภัช อัญชสาณิชมน
++ ปลด “สจ.จอย” พ้นนายก อบจ. ต้องเลือกตั้งกันใหม่ การเมืองท้องถิ่นปราจีนฯเดือด!!

หลังชนะเลือกตั้งเข้ามารับตำแหน่ง “นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี” ได้เพียง 11 เดือน "สจ.จอย" ณภาภัช อัญชสาณิชมน ก็ถูก “วีระพันธ์ ดีอ่อน” ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เซ็นคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่ง จากกรณี“ถือหุ้นสื่อ”

เนื่องจากเคยมีรายชื่อเป็นผู้เริ่มก่อตั้ง และผู้ถือหุ้นบริษัทสื่อ ซึ่งเป็นลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น โดยให้มีผลย้อนหลังไป ตั้งแต่ วันที่ 6 มิ.ย.67 ซึ่งช่วงนั้น “สจ.จอย” ดำรงตำแหน่ง สจ.ปราจีนบุรี เขต 2

แต่ล่าสุด “สจ.จอย” ดำรงตำแหน่ง นายกอบจ.ปราจีนบุรี ในวาระใหม่ ตามผลการเลือกตั้งต่างวาระ จึงต้องพ้นจากตำแหน่ง นายกอบจ. ด้วยผลแห่งกฎหมาย รวมถึงทีมฝ่ายบริหาร อาทิ รองนายก เลขานุการ และที่ปรึกษานายก อบจ. ภายใต้คำสั่งเดียวกัน
ทาง กกต.จังหวัดปราจีนบุรี จึงได้จัดให้มีการการเลือกตั้ง “นายกอบจ.ปราจีนบุรี” ใหม่ โดยเปิดรับสมัคร ระหว่างวันที่ 15-19 ธ.ค.68 และไปหย่อนบัตรเลือกตั้งวันที่ 25 ม.ค.69

การเมืองท้องถิ่นของ จ.ปราจีนบุรี จึงเพิ่มดีกรีความร้อนแรง ก่อนการเลือกตั้งใหญ่ที่จะมาถึงในต้นปีหน้าทันที

“สจ.จอย-ณภาภัช” เป็นภรรยาของ “สจ.โต้ง ปราจีน” ชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ อดีต ส.อบจ.ปราจีนบุรี ที่เสียชีวิตจากการถูกกระหน่ำยิงในบ้าน “โกทร” สุนทร วิลาวัลย์ พ่อบุญธรรม อดีต สส. และอดีตรัฐมนตรี บ้านใหญ่เมืองปราจีนบุรี ที่มีสายสัมพันธ์ทางการเมืองกับพรรคภูมิใจไทย

เมื่อ “สจ.โต้ง”ตาย “โกทร”ติดคุก จึงเป็นจังหวะและโอกาสของพรรคเพื่อไทย ที่ขณะนั้นเป็นแกนนำรัฐบาล ได้ขยายบารมี
“สจ.จอย” จึงได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง นายกอบจ.ปราจีนบุรี ในนามพรรคเพื่อไทย โดยมี “สรวงศ์ เทียนทอง” รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เลขาธิการพรรคฯ ในขณะนั้นให้การรับรอง ขณะเดียวกัน “ผู้กองธรรมนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ก็ประกาศสนับสนุนเต็มที่

ผลการเลือกตั้ง 1 ก.พ.68 “สจ.จอย”เบอร์ 4 ในสีเสื้อเพื่อไทย นำม้วนเดียวจบ ได้ 121,304 คะแนน ทิ้งห่างคู่แข่งทุกคน โดยเบอร์ 1 นายอําไพ กองมณี ได้ 34,398 คะแนน, เบอร์ 2 นายจํารูญ สวยดี พรรคประชาชน ได้ 59,929 คะแนน , เบอร์ 3 นางกฤษณ์กมล แพงศรี อดีตผู้สมัครส.ส.ปราจีนบุรี พรรคเพื่อไทย ได้ 7,522 คะแนน

เมื่อ “นายกจอย” ถูกสอยแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว การเลือกตั้งนายก อบจ.จึงน่าสนใจและน่าติดตามว่า พรรคเพื่อไทย ที่ตอนนี้อยู่ในช่วงขาลง จะจัดให้ใครลงไปสู้ เพื่อรักษาฐานเสียง

ขณะที่ พรรคภูมิใจไทยนั้น แม้ “โกทร” จะติดคุก แต่“ครูโอ๊ะ” กนกวรรณ วิลาวัลย์ อดีต รมช.ศึกษาธิการ ลูกสาว ที่เคยเก็บตัวเงียบ ก็เริ่มปรากฏตัวในงานสังคมมากขึ้น

แว่วว่า เมื่อช่วงต้นเดือนต.ค.ที่ผ่านมา “ครูโอ๊ะ” ได้นำทีม สส.ปราจีนฯไปอวยพรวันเกิด “ครูใหญ่” เนวิน ชิดชอบ ถึงบุรีรัมย์ เพื่อยืนยันว่า “บ้านใหญ่วิลาวัลย์” ยังภักดีค่ายสีน้ำเงิน

วีระพันธ์ ดีอ่อน
และต้องไม่ลืมว่า “วีระพันธ์ ดีอ่อน” คนที่เซ็นปลด “นายกจอย” นั้น ก่อนหน้าก็เคยเป็น ผู้ว่าฯปราจีนบุรี แต่ถูก “ภูมิธรรม เวชยชัย” อดีต รมว.มหาดไทย สั่งย้ายเข้ากรุ ไปเป็นผู้ตรวจฯ และเมื่อ “อนุทิน ชาญวีรกูล” กลับมาเป็นนายกฯควบรมว.มหาดไทย ก็เอา “วีระพันธ์ ” ออกจากกรุ มาเป็นผู้ว่าฯปราจีนบุรี อีกครั้ง เมื่อกลางเดือน ต.ค.68 ที่ผ่านมานี่เอง

ส่วน “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” รองนายกฯ และ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ก็วางแผน “ปักธง” ที่ปราจีนบุรี ด้วยเช่นกัน

เพราะในวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่ “ผู้กองธรรมนัส” รับตำแหน่ง รองนายกฯ ควบรมว.เกษตรฯ นั้น “นายกจอย” และทีมบริหาร อบจ.ปราจีนบุรี ก็ได้เข้าไปแสดงความยินดีด้วย

จึงคาดหมายกันว่า การเลือกตั้ง “นายกอบจ.ปราจีนบุรี” ในวันที่ 25 ม.ค.ที่จะถึงนี้ ดุเดือดแน่

ต้องติดตามว่า ทั้งสามพรรคที่กล่าวถึงข้างต้น จะส่งใครลงไปชิงเก้าอี้ เพื่อเสริมฐานรากให้แน่นหนา มั่นคง ก่อนการเลือกตั้งใหญ่ จะมาถึง
กำลังโหลดความคิดเห็น