“เจนี่ - ข้าวโพด” เล่าความลับสุดอึ้ง ถูกเพื่อนรักปั่นหัวจนเกลียดกัน ข้าวโพดเผยสัญญาณความเอ๊ะ ต้องจ่ายค่าโต๊ะหลักแสนให้เพื่อนรักทั้งที่ซื้อมาครึ่งราคา แถมถูกเอาไปเม้าธ์ฉ่ำจนเจนี่ได้ยินนับสิบครั้ง
กลายเป็นเรื่องราวที่ทำให้ชาวเน็ตหูผึ่ง หลังจากที่ “ข้าวโพด สมิทธินันท์” จับมือ “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ”เปิดหมดไม่กั๊กถึงอดีตเพื่อนรัก ที่วันนี้ไม่ขอเอ่ยชื่อ ซึ่งมีพฤติกรรมปั่นให้เกลียดกันลับหลัง ขณะที่ข้าวโพดเผยว่าตนถูกนำไปเม้าธ์กับเพื่อนหลายกลุ่ม จนเจนี่ยังบอกว่าเจนี่ได้ยินเรื่องราวของข้าวโพดเป็นสิบๆ ครั้ง
เจนี่ : “เขาทำให้ฉันมองโพดเป็นโพดอีกคนนึง”
ข้าวโพด : “กูเชื่อ เพราะข้าวโพดก็มองเจนี่เป็นอีกแบบ”
เจนี่ : “เราไม่เอ่ยชื่อใครนะ แต่คนๆ นึงในชีวิตของเรา ทำให้เรามองกันผิดเพี้ยนไปหมด”
ข้าวโพด : “เจนี่เป็นคนตรงไม่เฟก โพดก็ไม่เฟก เราก็เป็นคนตรง ไม่เฟก รักใครรักจริง ถ้าคนไม่เก็ตจะมองว่าเราแรง”
เจนี่ : “คนจะไม่กล้าเข้าใกล้เรา”
ข้าวโพด : “แล้วถ้าเพื่อนเราบอกว่าเจนเป็นแบบนี้ มันไม่ชอบมึง คิดว่ากูจะกล้ามาถามมึงไหม”
เจนี่ : “มิน่าเจอกันชอบทำหน้ากระอักกระอ่วน ฉันคิดว่าเก็กสวย เปล่า โป๊ะแรกที่เพื่อนสงสัย”
ข้าวโพด : “ลูกฉันไปเล่นที่บ้านเขาบ่อยมาก แล้วน้องจิ๋วไปเล่นบาสเก็ตบอล ลูกกูเล่นบาสไปโดนโต๊ะเขาที่เป็นยี่ห้อเฟนดิแตก แล้วฉันเป็นคนดี ก็บอกว่าลูกฉันเล่นซนเองไปทำโต๊ะฟินดิเขาแตก ฉันก็ช็อกมาก เพื่อนคนนั้นก็ส่งบิลมาให้ดูเฉยๆ ว่ามันราคาเท่าไหร่ มันก็ 148,000 บาท
แต่รู้มาทีหลังว่าโต๊ะตัวนั้นเขาได้มาครึ่งราคา แต่เขาส่งมาให้ข้าวโพดราคาเต็ม ตอนข้าวโพดกอบเศษซากโต๊ะไปซ่อม ที่ร้านหินอ่อน คนที่เขาซ่อมโต๊ะบอกว่าโต๊ะตัวนี้มันเคยแตกมาแล้วนะ มันมีรอยซ่อมมาแล้ว แสดงว่าโต๊ะตัวนี้เคยแตกมาแล้ว มีการถูกซ่อมมาแล้ว ซื้อในราคาครึ่ง
แต่ข้าวโพดจ่ายให้เขาเต็ม เพราะข้าวโพดรู้สึกแย่ว่าลูกเราไปซน วันนั้นข้าวโพดกลับมาร้องไห้เลย ทำโทษลูก ข้าวโพดกับลูกคุยกันนานมาก เหมือนบ้านแตก มัน 148,000 บาท มันแพงมาก ฉันไม่อยากให้เรากับเพื่อนเรามีปัญหากัน
ถ้าเขาไม่อยากให้ฉันจ่ายเงินเขาเต็มๆ เขาควรโอนคืนกลับมาหรือทอนกลับมา แต่เขาเก็บเอาไว้ ทั้งที่เขารู้ว่าโต๊ะนั้นเคยแตกมาแล้ว ตอนนี้เป็นสัญญาณรางๆ แรกๆ ที่คิดว่ามีอะไรซัมติง เพราะถ้าเพื่อนรักกัน ถ้าสมมติเพื่อนกูไปบ้านมึง เงินตรงนี้ก็อยากให้ แต่คนดีๆ คงไม่กล้ารับ นั่นคือสัญญาณแรกที่รู้สึกว่ามีความแปลกๆ”
เจนี่ : “สัญญาณสองล่ะ”
ข้าวโพด : “โพดเริ่มรู้สึกว่าเขาพูดเรื่องไม่ดีของโพดกับหลายๆ คน ทั้งที่เขาบอกว่าเขารักข้าวโพดมาก”
เจนี่ : “ได้ยินจากคนอื่น”
ข้าวโพด : “ได้ยินจากคนประมาณ 10 กว่าคนได้ คือไปทุกกรุ๊ป โพดไปกรุ๊ปไหนทุกคนจะเป็นแบบนี้”
เจนี่ : “มึงรู้ไหม กูได้ยินเรื่องมึงทุกวันเลย”
ข้าวโพด : “โพดรักเขามากเว้ย พอไปไหนทุกคนบอกว่าอีโพดมึงก็เป็นคนดีคนนึงนี่หว่า”
เจนี่ : “รู้ไหม ได้ยินจนแบบ...”
ข้าวโพด : “มึงเกลียดกู”
เจนี่ : “ใช่ เอาจริงๆ นะฉันได้ยินเรื่องเพื่อนจนมันฝังไปในสมองเลยว่าผู้หญิงคนนี้เป็นบุคลิกนี้ไปแล้ว จนทำให้ฉันรู้สึกว่าเมื่อไหร่ที่ฉันเจอผู้หญิงคนนี้ ฉันจะไม่กล้าคุยแม้แต่คำว่าฮัลโหล”
ข้าวโพด : “น่ากลัวมาก”
เจนี่ : “ถ้าไม่มาคุยกับโพดโดยตรงจะไม่รู้เลยว่าโพดเป็นคนตรงๆ เหมือนเจนี่ เทียนฯ รักก็คือรัก ไม่รักคือไม่รัก จบ แต่มีบางอย่างทำให้เจนรู้สึกว่าแม้แต่คำว่าฮัลโหล กูยังไม่กล้าเอ่ยกับมึงเลย เพราะมึงฝังอยู่ในหัวว่าอย่าให้คนสองคนนี้มาเจอกัน”
ข้าวโพด : “เขาไม่อยากให้เราสนิทกัน”
เจนี่ : “ถ้าเจนกับข้าวโพดเจอกัน ต้องรักกันแน่ๆ”
ข้าวโพด : “เพราะจริงใจ พูดภาษาเดียวกัน”
เจนี่ : “มันเลยทำให้เจนกับข้าวโพดเป็นแบบ มึงอย่าได้เจอคนนี้นะ เดี๋ยวมึงรักกัน”
ข้าวโพด : “กูเข้าใจได้ ทุกกลุ่มที่ข้าวโพดไป เขาก็จะไปพูดกับทุกคน มันทำให้หลายๆ โป๊ะ แต่คิดว่าเขาอาจเป็นคนนิสัยแบบนั้น เราก็จะรักเขา ไม่เป็นไร การนินทามีได้ในสังคมผู้หญิงเม้าธ์มอย แต่บางทีมีเพื่อนเล่าให้ฟังด้วยนะเขาเอาเรื่องกูไปพูดให้แม่คนนึงฟัง ให้แม่เขาไม่ชอบกู แม่เขาเกี่ยวอะไร เขาก็บอกว่าเพื่อนคนนี้พยายามไม่ให้แม่ชอบมึงด้วย”

