ศูนย์ข่าวขอนแก่น-งานมหกรรมผ้าไหมและสิ่งทอภาคอีสาน ซึ่งจัดขึ้น 3-4 ธ.ค.ที่ขอนแก่นได้รับความสนใจจากกูรูผ้าไหมทุกด้าน ทั้ง ผู้ผลิต นักวิชาการ นักออกแบบ ผู้ค้าทั้งในและต่างประเทศเผยเป็นก้าวสำคัญยกระดับผ้าไหมและสิ่งทออีสานสู่ตลาดโลก มาตรฐานสากล เพื่อผลักดันให้ขอนแก่นเป็นSilk Innovation Hub และเป็นผู้นำกำหนดเทรนด์ผ้าไหมในอนาคต
วันนี้(4ธ.ค.)เวลา 09.40 น.ที่ อวานี คอนเวนชั่น ฮอลล์ 3 โรงแรมอวานี ขอนแก่น นายภูริพันธ์ บุนนาค รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์กรมหาชน)หรือ สสปน. เป็นประธานเปิดงาน “Silk Next: Reimagining Textile for Tomorrow” งานประชุมสัมมนาด้านนวัตกรรมเพื่ออุตสาหกรรมผ้าไหมและสิ่งทอ จัดขึ้นภายใต้ความร่วมมือของขอนแก่น อินโนเวชั่น เซ็นเตอร์ สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการและพันธมิตรกว่า 20 หน่วยงาน
นายอภิชาติ สินธุมา นายกสมาคมการค้าอุตสาหกรรมไมซ์ภาคอีสานเปิดเผยว่าการจัดงานประชุมด้านนวัตกรรมเพื่ออุตสาหกรรมผ้าไหมและสิ่งทออีสาน มีเป้าหมายสำคัญ เพื่อเชื่อมโยงภูมิปัญญาท้องถิ่นของชุมชนทอผ้า กับ แนวคิดและเทคโนโลยีร่วมสมัย เพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการในภูมิภาค ผ่านเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ สู่การเติบโตเชิงอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืนทั้งในและต่างประเทศ
ภายในงานวันนี้มีการจัดประชุมสัมมนาจากผู้เชี่ยวชาญหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็น โอกาสความร่วมมือด้านไหมระหว่างขอนแก่นและเมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส,นวัตกรรมสิ่งทอเพื่อความยั่งยืน และ แนวโน้มอนาคตของผ้าไหมไทยในมุมมองผู้บริโภคระดับโลก ทั้งนี้ เพื่อต้องการขยายภาพ “ผ้าไหมและสิ่งทออีสาน” และสร้างเสริมโอกาสสำคัญ สำหรับอุตสาหกรรมแฟชั่นและสิ่งทอสมัยใหม่ ตลอดจน เพื่อให้ผู้ประกอบการ นักออกแบบ และชุมชนผู้ผลิตสามารถนำองค์ความรู้ใหม่จากประชุมสัมมนาไปต่อยอดได้จริง
นอกจากนี้ งาน Silk Next ยังมุ่งเน้นการสร้างโอกาสทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการในภูมิภาค ผ่านกิจกรรมเชื่อมโยงเครือข่ายและการเจรจาธุรกิจ ที่ช่วยให้ผู้ผลิต นักออกแบบ และพันธมิตรในอุตสาหกรรม ได้พบกับ คู่ค้าและผู้ร่วมพัฒนาที่มีศักยภาพ ทั้งในด้านผลิตภัณฑ์ นวัตกรรม และการขยายตลาดสู่ระดับนานาชาติ และปิดท้ายประสบการณ์ของงานในวันนี้ ด้วยแฟชั่นโชว์พิเศษ “Legacy of the Loom : Curated Heritage Runway” โดย SUPA East Glamor คอลเล็กชันที่ถ่ายทอดเสน่ห์ผ้าไหมอีสานสู่แนวคิดร่วมสมัย ที่ได้รับเสียงชื่นชมสูงสุดจากเวทีระดับโลก ทั้งลอนดอน มิลาน ปารีส และนิวยอร์ก แฟชั่นวีค
“ต้องขอบคุณอย่างมากคณะผู้จัดงาน ชุมชนผู้ทอผ้าไหม หน่วยงานและพันธมิตรทุกภาคส่วน และเครือข่ายไมซ์ ที่ร่วมกันผลักดัน ให้จังหวัดขอนแก่น ก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจสร้างสรรค์และนวัตกรรมอย่างแท้จริง เชื่อว่าการประชุมสัมมนา Silk Next ครั้งนี้ ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีแรกจะช่วยจุดประกายแนวคิดสร้างสรรค์ และต่อยอดธุรกิจผ้าไหมอีสานให้เติบโตอย่างมั่นคงบนเวทีโลก”
ด้านนายภูริพันธ์ บุนนาค รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์กรมหาชน)หรือ TCEB กล่าวถึงงานสัมมนาด้านนวัตกรรมเพื่ออุตสาหกรรมผ้าไหมและสิ่งทอครั้งนี้ เป็นเวทีสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ อุตสาหกรรมผ้าไหมและสิ่งทอไทย ในการก้าวสู่โลกอนาคต ด้วยการเชื่อมโยงองค์ความรู้ดั้งเดิมและภูมิปัญญาท้องถิ่น กับ นวัตกรรมและแนวคิดสร้างสรรค์ร่วมสมัย อันจะนำไปสู่ความสามารถในการแข่งขันในระดับภูมิภาคและระดับสากล ผ้าไหมไทยถือเป็นทั้งมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่า และเป็นสินค้าที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ซึ่งสามารถสร้างคุณค่าเชิงเศรษฐกิจในระดับนานาชาติได้อย่างยั่งยืน
ในส่วนของ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ หรือ สสปน.มีความมุ่งมั่นในการผลักดันให้ “อุตสาหกรรมไมซ์” เป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทั้งในระดับชาติและระดับภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนับสนุน อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ อุตสาหกรรมวัฒนธรรม และภาคธุรกิจที่มีศักยภาพของประเทศไทย ซึ่งรวมถึง อุตสาหกรรมผ้าไหมและสิ่งทอ ที่มีความสำคัญทั้งทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ
สสปน. มุ่งส่งเสริมการจัดงานประชุมและนิทรรศการที่ช่วยนำพาองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งงาน Silk Next ในวันนี้ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการนำ งานไมซ์มาสนับสนุนการยกระดับอุตสาหกรรมผ้าไหม ผ่านการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ การเชื่อมต่อเครือข่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการสร้างความร่วมมือใหม่ๆ เช่น ความร่วมมือด้านไหมระหว่าง ขอนแก่นและเมืองลียง ที่จะเป็นกำลังสำคัญในการต่อยอดผ้าไหมไทยสู่ตลาดโลก
อย่างไรก็ตาม ต้องขอชื่นชมผู้จัดงาน พันธมิตรทุกภาคส่วน และชุมชนท้องถิ่นที่ได้ร่วมกันผลักดันให้เกิดงานสำคัญนี้ขึ้นที่ จังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็น 1 ใน 10 เมืองไมซ์ ที่สสปน. ให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ขอนแก่นถือเป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ นวัตกรรม และการจัดงานระดับภูมิภาค งานวันนี้จึงเป็นความสำเร็จที่สะท้อนศักยภาพของเมืองไมซ์แห่งนี้ได้อย่างชัดเจน
“ งาน Silk Next จะเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือใหม่ ๆ เป็นเวทีสำหรับการสร้างแรงบันดาลใจ และเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการผลักดันให้ผ้าไหมไทยก้าวไกลสู่อนาคตอย่างมั่นคง”นายภูริพันธ์กล่าวอย่างมีความหวัง
ขณะที่นายธีระยุทธ์ ลีลาขจรกิจ ผู้อำนวยการ บริษัทแอดลิบ แมเนจเม้นท์ จำกัดในกลุ่มธุรกิจมิตรผล ซึ่งเป็นผู้ร่วมจัดงาน กล่าวเสริมว่า งานสัมมนา SILK NEXT 2025 มีเป้าหมายยกระดับผ้าไหมอีสานด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และความร่วมมือระดับนานาชาติ พร้อมผลักดันขอนแก่นสู่บทบาท “Trend Setter” ของอุตสาหกรรมผ้าไหมและสิ่งทออีสานในอนาคต งานนี้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญและผู้ประกอบการชั้นนำมาร่วมแลกเปลี่ยนยุทธศาสตร์สำคัญ รวมถึงเปิดพื้นที่ Business Networking ให้ผู้ประกอบการไทยพบปะผู้ซื้อจากในและต่างประเทศ ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ คือนับแต่ขั้นตอนการผลิตวัตถุดิบ นวัตกรรมการทอ การย้อม ไปจนถึงการออกแบบตัดเย็บเป็นแบรนด์พร้อมจัดจำหน่าย
“ผ้าไหมอีสานกำลังก้าวสู่ยุคของสิ่งทอนวัตกรรม ไม่ว่าจะเป็นเส้นใยธรรมชาติ การย้อมปลอดสาร การผลิตที่ลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม และการออกแบบร่วมสมัยที่ตอบโจทย์ดีมานด์โลก ขอนแก่นมี Ecosystem ที่พร้อม ทั้งงานวิจัย มหาวิทยาลัย ผู้ผลิต และนักออกแบบ จึงมีศักยภาพกำหนดทิศทางเทรนด์ผ้าไหมอีสานสู่ตลาดแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ระดับโลก”
Isan SILK & TEXTILE EXPO 2025 ปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิดนวัตกรรม มุ่งยกระดับผ้าไหมและสิ่งทออีสานให้ก้าวสู่มาตรฐานสากล เรารวมผู้ประกอบการ นักวิชาการ และนักออกแบบมาแลกเปลี่ยนแนวคิด ตั้งแต่กระบวนการผลิต การย้อม การผสมเส้นด้าย ไปจนถึงดีไซน์ระดับนานาชาติ เพื่อผลักดันให้ขอนแก่นเป็น ‘Silk Innovation Hub’ และเป็นผู้นำกำหนดเทรนด์ผ้าไหมในอนาคต นวัตกรรมจะช่วยทำให้ผ้าไหมมีคุณภาพสูงขึ้น ผลิตได้รวดเร็ว มูลค่าเพิ่มขึ้น และเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก ทั้งยังช่วยให้ธุรกิจสิ่งทอกลับมามองขอนแก่นในมิติใหม่ ไม่ใช่แค่ผู้ผลิตผ้าไหม แต่เป็นผู้ผลิตผ้าไหมเชิงนวัตกรรมมูลค่าสูง

