ยอดเงินบริจาคในกองทุนบรรเทาทุกข์ผู้ประสบเหตุเพลิงไหม้ครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 75 ปีของฮ่องกงพุ่งสูงถึง 1,200 ล้านเหรียญฮ่องกง ( ราว 4,932 ล้านบาท ) สะท้อนให้เห็นถึงธารน้ำใจของประชาชนที่หลั่งไหลส่งความช่วยเหลือกันเข้าอย่างมากมายล้นหลาม
เงินจำนวนนี้แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนร่วมกันบริจาคจำนวน 900 ล้านเหรียญฮ่องกง ( ราว 3,699 ล้านบาท ) และเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลจำนวน 300 ล้านเหรียญฮ่องกง ( ราว 1,233 ล้านบาท ) โดยรวบรวมยอดทั้งหมดได้ภายในเวลาเที่ยงวันของวันอาทิตย์ ( 30 พ.ย. ) หลังเหตุพระเพลิงพิโรธผ่านมาได้ไม่กี่วัน
เงินบริจาคที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งขณะนี้มียอดสูงเกินยอดเงินบริจาคที่เคยรวบรวมได้ในเบื้องต้นคราวเกิดเหตุแผ่นดินไหวในมณฑลเสฉวนเมื่อปีพ.ศ. 2551แล้วนั้น ถือเป็นประจักษ์พยานแห่งความมีน้ำจิตน้ำใจของชุมชนและความพยายามร่วมกันในการให้ความช่วยแก่ผู้ประสบภัยในโศกนาฏกรรมครั้งนี้ โดยนอกจากยอดบริจาคจำนวน 1,200 ล้านเหรียญฮ่องกงในกองทุนนี้แล้ว องค์กรนอกภาครัฐอื่น ๆ เช่น สภากาชาดฮ่องกงจะบริจาคเข้ามาสมทบเพิ่มเติมอีกด้วย
เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อบ่ายวันพุธ ( 26 พ.ย. ) ที่โครงการอาคารที่พักอาศัยหงฝูย่วนหรือหวั่งฟุกคอร์ต (Wang Fuk Court) ซึ่งมีผู้อาศัยกว่า 4,000 คนในเขตไท้โปว อันเป็นย่านเมืองใหม่ทางตอนเหนือของเกาะเกาลูน โดยเพลิงเผาผลาญตึกสูง 7 หลัง ซึ่งอยู่ระหว่างการปรับปรุงซ่อมแซมและมีนั่งร้านไม้ไผ่
ตามการแถลงของทางการฮ่องกงแถลงเมื่อวันจันทร์ ( 1 ธ.ค. ) มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 146 คน และสูญหาย 40 คน โดยพบศพผู้อยู่อาศัยติดอยู่บริเวณปล่องบันไดและบนหลังคา ขณะพยายามหนีตาย ขณะนี้เจ้าหน้าที่จากหน่วยระบุตัวตนผู้ประสบภัยพิบัติ (DVIU) ของกองกำลังตำรวจฮ่องกง เสร็จสิ้นการค้นภายในบริเวณซากอาคารแล้ว 4 หลัง และมีผู้ถูกจับกุมเพื่อสอบปากคำว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตจัดซื้อวัสดุที่ไม่มีคุณภาพในการซ่อมแซมอาคาร จนเป็นเหตุให้เพลิงไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็วแล้ว 11 คน ด้านผู้ประสบภัยกว่า 1,100 คนต้องอพยพไปอาศัยยังที่พักพิงชั่วคราวซึ่งรัฐจัดหาให้
ที่มา : SCMP / รอยเตอร์

