ตำรวจภูธรภาค 9 คุมตัวแล้วชายวัย 30 ปี ยิงปืน ขณะอาสาฯ ขับเจ็ตสกีช่วยน้ำท่วมหาดใหญ่ ย่านบ้านเกาะหมี มือยิงมอบตัวอ้างไม่ได้ข่มขู่ ยิงปืนลงพื้น ส่งสัญญาณให้มาช่วยเหลือ
วันนี้ (1 ธ.ค.) ที่ สภ.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (รอง ผบช.ภ.9) พร้อมด้วย พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ รอง ผบช ภ.9 แถลงผลการจับกุมผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงคล้ายข่มขู่ ขณะเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยขับเจ็ตสกีเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่โรงเรียนบ้านเกาะหมี ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 โดยตำรวจภูธรภาค 9 สืบสวนติดตามกดดันจนผู้ต้องหาเข้ามอบตัว พร้อมอาวุธปืนของกลาง โดยเป็นไปตามข้อสั่งการกำชับของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ให้เร่งสืบสวนติดตามตัวมาดำเนินคดีเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน
ทั้งนี้ ตามที่ปรากฏในสื่อโซเชียลระบุว่ามาช่วยน้ำท่วม แต่โดนยิงตามหลัง 3 นัดฯ ต่อมา ตำรวจภูธรภาค 9 ได้ติดตามสอบถามผู้เสียหายในทันที ให้การว่าเป็นอาสาสมัคร เดินทางมาจากกรุงเทพมหานคร เพื่อมาช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมใน อ.หาดใหญ่ กระทั่งในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2568 เวลาประมาณ 20.00 น. ขณะที่ผู้เสียหายกำลังขับเจ็ตสกีเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยบริเวณ โรงเรียนบ้านเกาะหมี ได้ยินเสียงดังคล้ายอาวุธปืน ประมาณ 3 นัด ผู้เสียหายจึงได้ขับเจ็ตสกีออกจากบริเวณดังกล่าว
จากการสืบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายเริงชัยฯ อายุ 30 ปี จึงได้กดดัน ติดตามตัว กระทั่งวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 เวลา 12.30 น. ผู้ก่อเหตุได้เข้ามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมอาวุธปืนพกสั้นอัตโนมัติ ยี่ห้อกล็อก 19 ขนาด 9 มม. ที่ใช้ก่อเหตุ โดยให้การว่า ตามวันเวลาเกิดเหตุอยู่กับญาติและเพื่อนบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วม ติดอยู่ที่ชั้น 2 ของบ้าน บริเวณโรงเรียนบ้านเกาะหมี เมื่อผู้ต้องหาได้ยินเสียงเจ็ตสกี ได้พยายามส่งเสียงเรียกให้คนขับเจ็ตสกีให้เข้ามาช่วยเหลือ แต่คนขับเจ็ตสกีอยู่ระยะไกล ไม่สามารถมองเห็น และได้ยินเสียงเรียกของผู้ต้องหา จึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงลงน้ำ 2 นัด เพื่อส่งสัญญาณให้คนขับเจ็ตสกีมาช่วยเหลือ ไม่มีเจตนาจะยิงข่มขู่ หรือทำร้ายใครแต่อย่างใด
ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา “ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ ” ส่งพนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

