xs
xsm
sm
md
lg

สตง.แจงเงินเยียวยาน้ำท่วมใต้ เอกสารไม่ต้องเคร่งเหมือนปกติ สิริพงศ์ระบุไม่ต้องถ่ายภาพบ้านจมน้ำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เผยเงินเยียวยาน้ำท่วมใต้ครั้งนี้ เอกสารกระดาษเป็นเรื่องรอง ขอให้มีเลขประจำตัวประชาชนก็ตรวจสอบได้ เพราะไม่ได้เคร่งครัดเหมือนสถานการณ์ปกติ ด้านโฆษกรัฐบาลขออภัย โทษหน้างานสื่อสารไม่ครบ ย้ำไม่ต้องถ่ายภาพบ้านเสียหาย

วันนี้ (1 ธ.ค.) นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ในรายการกรรมกรข่าวคุยนอกจอ ผ่านเฟซบุ๊กเพจ สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว ว่า กรณีเอกสารขั้นตอนเยียวยาน้ำท่วมที่หน่วยงานท้องถิ่นมีความกังวลเรื่องการตรวจสอบนั้น สตง. ตรวจสอบแน่ถ้ามีเหตุร้องเรียน แต่ตอนนี้ความเดือดร้อนประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ ต้องรีบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเยียวยา เรื่องเอกสารกระดาษหลักฐานเป็นเรื่องรองลงไป ขอให้มีหลักฐาน เช่น หากหาบัตรประชาชน หรือสำเนา ไม่ได้ ก็สามารถใช้เลขไอดีประจำตัวประชาชน ถ้าหากไม่มี ก็แสดงตัวตนเป็นภาพถ่ายหรือไม่ ส่วนนี้สามารถตรวจสอบได้อยู่แล้ว

“ขอให้มีเลขประจำตัวประชาชนก็ตรวจสอบได้แล้ว บางรายเอกสารหาย ให้สบายใจได้เลยในการตรวจสอบ เพราะไม่ได้เคร่งครัดเหมือนสถานการณ์ปกติ” ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน กล่าว

ส่วนผู้บริหารท้องถิ่นนั้น อยากให้มองประชาชนเป็นหลัก การช่วยเหลือไม่ใช่การสร้างภาระ อย่าสร้างภาระให้คนเดือดร้อน ขอให้มีหลักฐานอะไรก็ได้ให้ สตง. ตรวจ ไม่จำเป็นต้องเป็นเอกสาร ถ้าไม่มั่นใจ ไปหารือที่ สตง. สงขลาได้เลย หน่วยงานมีอะไรก็ได้ว่ายืนยันว่าจ่ายจริงถ้ามีการร้องเรียน

ขณะที่นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีขั้นตอนการเยียวยาน้ำท่วมภาคใต้ ที่ประชาชนยังมีความสับสนว่า ต้องนำเอกสารไปยืนยันกับหน่วยงานท้องถิ่น เพื่อขอรับเงินเยียวยาน้ำท่วมหรือไม่ โดยระบุว่า กราบขออภัยในนามของรัฐบาล หน้างานอาจมีการสื่อสารไม่ครบทั้งระบบ ทำให้เป็นภาระประชาชน ตอนนี้ได้กำชับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ไปแล้ว แค่สั่งการไม่พอ ต้องเรียกประชุมท้องถิ่น-ท้องที่ให้เข้าใจกันหมด เพื่อจะได้ลดขั้นตอนเรื่องงานเอกสาร ลดภาระให้ประชาชนให้ได้มากที่สุด

“ไม่ต้องถ่ายภาพบ้านเสียหาย กราบขออภัยที่มันโกลาหล เราก็รีบอยากให้เงินถึงพี่น้องเร็วที่สุด หน้างานก็อาจจะดำเนินการในวิธีที่เคยปฏิบัติการสื่อสารอาจไม่ไปถึงผู้ปฏิบัติงาน ได้สั่งการแล้วว่า ปภ. ต้องไปประชุมในทิศทางเดียวกัน” โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น