xs
xsm
sm
md
lg

'ดาวเทียม' พระเอกขี้ม้าขาว ฟื้นระบบสื่อสารกลางอุทกภัยใต้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



'ไทยคม' ส่ง 12 ชุดดาวเทียมช่วยอุทกภัยใต้ พร้อมเชื่อม AIS กระจายสัญญาณได้หลายกิโลฯ ยืนยันศักยภาพเทียบชั้น Starlink พร้อมลุย-ขยายจุดติดตั้งฉุกเฉินทุกพื้นที่ เมื่อได้รับสั่งการจากรัฐ

นายปฐมภพ สุวรรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ไทยคมได้รับการประสานจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ตั้งแต่ช่วงวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา ขอรับให้สนับสนุนระบบสื่อสารผ่านดาวเทียม เพื่อช่วยเหลือพื้นที่ประสบอุทกภัยภาคใต้ โดยย้ำว่า "เราเตรียมพร้อมตั้งแต่วันที่ 22-23 พ.ย.68 และพร้อมลงภาคสนามทันที"

ทั้งนี้ ไทยคมได้ส่งอุปกรณ์อินเทอร์เน็ตดาวเทียมจำนวน 12 ชุด ลงไปประจำที่หาดใหญ่ครบทุกชุดแล้ว โดยปัจจุบันติดตั้งและเปิดสัญญาณ (ออนแอร์) เรียบร้อยแล้ว 2 จุด ได้แก่ 1.ศูนย์พักพิง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ 2.ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ส่วนหน้า ค่ายเสนาณรงค์ ขณะที่ อีก 10 จุดที่เหลือ อุปกรณ์ทุกชุดถูกนำไปพักรอคำสั่งในพื้นที่และถูกจัดเตรียมอยู่ในคลังชั่วคราว โดยอยู่ระหว่างรอการกำหนดจุดติดตั้งจาก กสทช. ซึ่งทันทีที่ระบุพิกัด ทีมไทยคมสามารถติดตั้งใช้งานได้เลย

สำหรับอุปกรณ์ 1 ชุดทำงานเสมือนโครงข่ายสถานีฐานโทรศัพท์มือถือ (Cell Site) ที่สามารถรับ-ส่งสัญญาณจากดาวเทียมและต่อออกไปยังอุปกรณ์ปลายทาง ส่วนจำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อพร้อมกันนั้น ต้องรอฝ่ายเทคนิคเช็กค่าที่แม่นยำ แต่มาตรฐานโดยรวมรองรับได้ในระดับภารกิจภัยพิบัติสบายมาก และที่สำคัญไทยคมสามารถ เพิ่มจำนวนจุดได้ทันที หากหน่วยงานร้องขอ โดยไม่มีข้อจำกัดด้านความพร้อมของเทคโนโลยี

นอกจากนี้ หากพื้นที่ถูกตัดไฟ ไทยคมก็มีชุดพลังงานสำรองแบบแบตเตอรี่-โซลาร์เซลล์ ที่ใช้งานได้ 24 ชั่วโมงเต็ม โดยใช้โซลาร์ชาร์จตอนกลางวัน และใช้ไฟจากแบตเตอรี่ตอนกลางคืน ทำให้ระบบสามารถทำงานต่อเนื่องได้ แม้อยู่ในพื้นที่ไม่มีไฟฟ้าเข้าถึงเลยแม้แต่นาทีเดียว

นายปฐมภพ สุวรรณศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน)
เทคโนโลยีทัดเทียม Starlink

เมื่อถูกถามเปรียบเทียบกับ Starlink นายปฐมภพ ตอบตรงไปตรงมาว่า เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตดาวเทียมของไทยคมสามารถให้บริการได้ เหมือนกันทุกประการสำหรับผู้ใช้งานปลายทาง เพราะในมุมของประชาชน สิ่งที่เห็นจะเป็นสัญลักษณ์สัญญาณ WiFi ไม่ใช่ความแตกต่างระหว่างดาวเทียมวงโคจรต่ำ (LEO) ของ Starlink หรือ ดาวเทียมวงโคจรค้างฟ้า (GEO) ของไทยคม

สำหรับในภารกิจในพื้นที่หาดใหญ่ ไทยคมใช้ดาวเทียม GEO ได้แก่ ไทยคม 4, ไทยคม 6 และไทยคม 8 ซึ่งสามารถสลับโหมดได้ทั้งการใช้งานแบบบรอดแบนด์ และแบบทรานสปอนเดอร์ อธิบายให้ชัดคือ ดาวเทียมสามารถสวิตช์ภารกิจได้ทันทีตามความจำเป็น

แม้ LEO จะโดดเด่นในการใช้งานแบบเคลื่อนที่ เช่น บนเรือหรือเครื่องบิน แต่สำหรับ จุดปฏิบัติการประจำที่ อย่างศูนย์พักพิงหรือศูนย์บัญชาการแล้ว GEO และ LEO แทบไม่ต่างกันเลยสำหรับผู้ใช้ปลายทาง เพราะสุดท้ายแล้ว อินเทอร์เน็ตก็คืออินเทอร์เน็ต และปลายทางเห็นเพียงสัญญาณ WiFi เท่านั้น

สำหรับข้อมูลที่ว่า กล่อง Starlink รองรับอุปกรณ์ได้มากกว่า ไทยคมชี้ว่าไม่ถูกต้อง เพราะรัศมี WiFi ของอุปกรณ์ประเภทนี้จำกัดตามมาตรฐานสากลอยู่แล้ว ราว 50-100 เมตรเท่านั้น แต่สิ่งที่ทำให้ไทยคมได้เปรียบคือ การนำสัญญาณดาวเทียมเข้าเชื่อมต่อกับโครงข่าย AIS ทำให้สัญญาณถูกป้อนไปที่เสาส่งสัญญาณมือถือของ AIS และสามารถกระจายออกได้ในระยะหลายกิโลเมตร เทียบเท่ารัศมีให้บริการของเสาสัญญาณหนึ่งต้น ซึ่งเหนือกว่าอุปกรณ์ WiFi จากดาวเทียมทั่วไปมาก

"ไทยคมทำได้ทุกอย่างเหมือน Starlink ถ้าไม่มี Starlink ไทยคมก็รองรับได้ เราทำอินเทอร์เน็ตดาวเทียมมา 20 ปี และความจุของดาวเทียมไทยคมเพียงพออย่างยิ่งต่อการรองรับภารกิจฉุกเฉินทุกพื้นที่ของประเทศ เพราะลำแสงดาวเทียมของไทยคมครอบคลุมทุกตารางนิ้วของประเทศไทย โดยแทบไม่มีจุดบอดเลย" นายปฐมภพ กล่าว


บทเรียนการประสานงาน

สำหรับคำถามที่ว่าล่าช้าหรือไม่ ที่ระบบลงพื้นที่ได้หลังน้ำเริ่มลด นายปฐมภพชี้แจงว่า ความล่าช้าไม่ได้เกิดจากไทยคม แต่ติดอยู่ที่ขั้นตอนประสานงาน ซึ่งใช้เวลานานกว่าที่ควร ทำให้ไทยคมไม่สามารถรอได้ และต้องหันไปประสานกับทหารและ AIS ด้วยตัวเองเพื่อเร่งลงพื้นที่ เพราะในสถานการณ์ฉุกเฉินรอไม่ได้แม้แต่วันเดียว

"ประเทศไทยมักตื่นตัวเฉพาะตอนเกิดเหตุ แต่พอวิกฤตผ่านไป ระบบเตรียมพร้อมก็ถูกลืม ไม่มีงบ ไม่มีการจัดซื้อ ไม่มีการเตรียมไว้ล่วงหน้า ทั้งที่ภัยพิบัติเกิดขึ้นทุกปี ไทยคมเคยเสนอระบบดาวเทียมสำหรับงานกู้ภัยมาหลายครั้ง ทั้งระบบช่วยผู้จมน้ำ ระบบสนับสนุนไฟป่า ระบบในป่าลึก รวมถึงระบบ Command Center ระดับจังหวัด แต่ทุกครั้งเมื่อเกิดเหตุ หน่วยงานจะมาขอใช้ระบบดาวเทียม แต่เมื่อเหตุการณ์ผ่านไป ทุกอย่างก็เงียบหายไปอีก

พื้นที่เสี่ยงไม่ได้มีแค่หาดใหญ่ แต่ยังมีจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง ซึ่งไทยคมและ AIS กำลังเฝ้าติดตามร่วมกันเพื่อหาจุดตั้งล่วงหน้า หากพื้นที่เสี่ยงชัดเจนก็จะนำอุปกรณ์ไปตั้งไว้ก่อน เพื่อให้ทำงานได้ทันทีในวินาทีแรกเมื่อเหตุเกิด ไม่ใช่วันที่สามของวิกฤต" นายปฐมภพ กล่าว


เปิดดีลดาวเทียม LEO

ในประเด็นที่เกี่ยวกับการลงทุนของ Starlink ในประเทศไทย นายปฐมภพอธิบายว่า ตามที่ นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ พูดตามข้อกฎหมายไม่ใช่ความเห็นส่วนบุคคล เพราะกฎหมายไทยไม่อนุญาตให้ต่างชาติถือหุ้นในกิจการลักษณะดังกล่าวเต็ม 100%

อย่างไรก็ตาม คนไทยไม่ได้เสียโอกาส จากการใช้เทคโนโลยีแบบ Starlink เพราะยังมีผู้ให้บริการ LEO รายใหญ่ทั่วโลกอีกหลายรายที่สามารถเข้ามาทำงานกับไทยคมในรูปแบบพาร์ตเนอร์ภายใต้กรอบกฎหมายไทย โดยไทยคมกำลังเจรจากับ OneWeb และผู้ให้บริการรายใหญ่รายอื่นที่ยังเปิดเผยไม่ได้ด้วยเหตุผลทางการค้า

"ไทยคมมีความสัมพันธ์ที่ดีกับ SpaceX มานาน และเคยใช้บริการยิงจรวดของ SpaceX สำหรับดาวเทียมหลายดวงมาแล้ว รวมถึงยังมีแผนใช้ต่อในอนาคตเพียงแต่ไทยคมไม่ใช่ผู้กำหนดกฎหมาย หน้าที่ของบริษัทคือเดินธุรกิจภายใต้กรอบที่รัฐกำหนด ดังนั้น หาก Starlink หรือผู้ให้บริการรายใดต้องการเข้ามาทำตลาดในไทยภายใต้กติกาเดียวกัน ไทยคมก็พร้อมเป็นพาร์ตเนอร์และร่วมกันพัฒนาตลาด" นายปฐมภพ กล่าว




กำลังโหลดความคิดเห็น