"บวรศักดิ์" ยกเหตุน้ำท่วมหาดใหญ่ คือตัวอย่างความล้มเหลวด้านการบริหารจัดการของท้องถิ่น ชี้เทศบาลนครหาดใหญ่มีรายได้มหาศาล แต่วันนี้หาดใหญ่จมน้ำ ต้องรอส่วนกลางไปช่วย ซัดปล่อยให้คลอง ร.1 ตื้นเขิน ให้คนสร้างบ้านริมคลองขวางทางน้ำ ไม่มีการลงทุนสร้างทางระบายน้ำเพิ่ม ย้ำเป็นบทเรียนจะให้เกิดซ้ำซากแบบนี้ไม่ได้
วันนี้ (26พ.ย.) นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ "อนาคตท้องถิ่นไทย กับการเลือกตั้ง อบต." ในงานเสวนาของสถาบันพระปกเกล้า "ปักหมุดเลือกตั้งอบต 69 กับความคาดหวังของสังคมไทย" โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ปัจจุบันการปกครองท้องถิ่นของไทยหลังรัฐธรรมนูญปี 2540 มีพัฒนาการที่เปลี่ยนแปลงจากการปกครองในยุคแรก ที่เป็นการปกครองทดลองประชาธิปไตย มีราชการไปลงเป็นพี่เลี้ยงของท้องถิ่น และเหตุการณ์เสียงปืนแตกที่นครพนม ในปี 2507 การปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นเรื่องของชาติ และเกิดการหยุดชะงักชั่วคราวในพื้นที่สีแดงและสีชมพู มีการประกาศให้หยุดเลือกผู้บริหารท้องถิ่นและสภาผู้บริหารท้องถิ่นเพราะเกรงพรรคคอมมิวนิสต์จะเข้ามายึดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ขณะที่ในพื้นที่ส่วนกลางกรุงเทพมหานครใช้ระบบการแบ่งปัน จนมาถึงปี 2540 มีการผลักดันการปกครองท้องถิ่น โดยกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ และเปลี่ยนแนวความคิดว่าการปกครองท้องถิ่นต้องเป็นการให้บริการสาธารณะประชาชนอย่างแท้จริง หลังจากนั้นก็ได้ออกกฎหมายหลายฉบับ กฎหมายแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจ และจากปี 2540 - 2568 รวมเวลากว่า 20 ปี การปกครองส่วนท้องถิ่นทำความเจริญให้กับท้องถิ่นหลายพื้นที่อย่างเห็นชัด เพราะรู้ความต้องการของประชาชนจึงระดมทรัพยากรพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะถนน แหล่งน้ำ จนถึงยุคที่ท้องถิ่นรับผิดชอบในการจ่ายเบี้ยคนชรา อำนาจหน้าที่ท้องถิ่นมีกว้างขวางขึ้นมีอิสระมากขึ้น แต่ปัญหาอิสระทางการคลังยังไม่เกิดขึ้นจริง 100% เพราะรายได้เกินครึ่งของท้องถิ่นมาจากรัฐบาลกลาง โดยในปี 2567 มีงบกว่า 737,000 กว่าล้านบาท ไปถึงท้องถิ่น ท้องถิ่นเก็บเองแค่ 430,000 ล้าน เช่นภาษีโรงแรม ภาษีสรรพสามิต ภาษีมูลค่าเพิ่มบางส่วน ทั้งที่สัดส่วนรายได้ตามกฎหมายแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจ ท้องถิ่นควรได้รับ 35% แต่ปัจจุบันอยู่ที่ 20-25% เท่านั้น เพราะรัฐบาลมีเงินใช้ส่วนกลางไม่พอจึงจัดสรรให้ท้องถิ่นน้อยลง แปลว่าอิสระทางการคลังมีเพียงในกฎหมายแต่ในความเป็นจริงไม่ใช่
นายบวรศักดิ์ กล่าวอีกว่าประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งท้องถิ่นแค่ร้อยละ 50-60 เมื่อเทียบกับการเลือกตั้งระดับประเทศร้อยละ 70 จึงต้องไปศึกษาสาเหตุที่แท้จริงที่คนสนใจเรื่อง ขณะที่ตัวเลขการทุจริตจอง ป.ป.ช. มีข้อกล่าวหาที่ต้องไต่สวน 20,675 เรื่อง โดย 7,829 เรื่องเป็นเรื่องของท้องถิ่น ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาเพราะท้องถิ่นเล็กที่ห่างไกลสื่อมวลชนไม่จับตามอง มีความสัมพันธ์ในระบบอุปถัมภ์พี่น้องมีบริษัท ขายของรับเหมาก็นำบริษัทมาทำ หรือช่วยเหลือกันอย่างอื่นจึงเป็นเหตุให้ปัญหาทุจริตเป็นปัญหาท้าทายอีกอย่าง หากดูกฎหมายท้องถิ่นของต่างประเทศในอังกฤษ ยุโรปอเมริกา พบข้อเท็จจริงว่าศาลคุมท้องถิ่นมากกว่าส่วนกลาง และทั่วโลกมีปัญหาในเรื่องความเชื่อมั่นต่อภาครัฐลดลง ส่งผลให้ภาครัฐจะร่วมมือกับประชาชนเรื่องต่างๆเป็นไปด้วยความลำบาก เพราะความไว้วางใจเป็นประเด็นปัญหาสำคัญ และจากการสำรวจความเชื่อมั่นระดับท้องถิ่นของสถาบันพระปกเกล้า พบว่าความเชื่อมั่นท้องถิ่นสูงกว่าส่วนกลางในปี 2565 คนเชื่อมั่นในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจากเดิม 82.5 % เพิ่มเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นเป็น 93.8% เมื่อเทียบกับส่วนราชการส่วนกลางจะพบว่าท้องถิ่นได้รับความเชื่อมั่นสูงกว่า สะท้อนว่าชาวบ้านเห็นว่าได้รับประโยชน์จากท้องถิ่นมากกว่าส่วนกลาง
ขณะที่ความท้าทายที่ท้องถิ่นจะต้องเผชิญในอนาคต คือ 1. สังคมไทยกำลังเข้าสู่สังคมสูงวัยเต็มรูปแบบ คนเกิดน้อยกว่าคนตายเข้าสู่ปีที่ 5 จะทำให้คนสูงอายุมากกว่าคนวัยทำงาน ตัวเลขคนทำงาน 2 คนต้องดูแลผู้สูงอายุ 1 คนและในอีก 10 ปีข้างหน้าตัวเลขน่ากลัว โดยตัวเลขคนทำงาน 1 คนจะดูแลผู้สูงอายุเกิน 60 ปี 1 ต่อ 1 จึงเป็นเหตุให้รัฐบาล ได้ให้ ก.พ.ศึกษาว่าจะขยายอายุราชการขึ้นเป็น 65 ปีเพราะคนจะเข้าสู่ระบบราชการน้อยลง อีกทั้งคนเปลี่ยนนิสัย gen z ถึงจะ alpha จะเน้นความสมดุลระหว่างการทำงานกับการใช้ชีวิต เข้ามาทำงาน 3 เดือน 6 เดือนก็ลาออก ซึ่งระบบราชการต้องการความเนื่องจึงไม่สามารถใช้คนเช่นนี้ได้ รัฐบาลจึงต้องคิดขยายเกษียณอายุราชการ เมื่อมีผู้สูงอายุ การดูแลผู้สูงอายุอย่างใกล้ชิดจะต้องมีระบบสาธารณูปการเช่นห้องพักคนชรา มีอาสาสมัครลงไปเยี่ยมเยียนคนชราที่บ้าน
2. การขยายตัวของเมือง เมื่อขยายก็จะสร้างปัญหาเกิดขึ้นเช่นที่เกิดขึ้นในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาในขณะนี้ และการจะให้สร้างหรือไม่ให้สร้างจะต้องขึ้นอยู่กับผังเมืองและท้องถิ่น จึงต้องนำบทเรียนของอำเภอหาดใหญ่ไปพิจารณาเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นในพื้นที่อื่นอีก
3.ประเทศไทยเข้าสู่ยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ขณะนี้มี AI เข้ามาซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อควรระวัง โดยท้องถิ่นอาจให้บริการโดยผ่านระบบเทคโนโลยีดิจิทัล ลดปัญหาการทุจริตลงได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้ท้องถิ่นจะต้องนำมาใช้ และต้องเปลี่ยนวิธีคิดวิธีวางแผน
4.ความไม่เท่าเทียมของท้องถิ่นหลายรูปแบบ เทศบาลบางแห่งเป็นเทศบาลนครมีความรวยมหาศาล แต่ อบต.รายได้ไม่ค่อยมี สิ่งเหล่านี้เป็นปัญหา และขณะนี้ อบต.ขนาดเล็กใช้เงินกับบุคลากรเป็นอันมาก จ้างเจ้าหน้าที่ ไม่ได้ทำงบลงทุนสักเท่าไหร่
นายบวรศักดิ์ระบุว่าจะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นในวันที่ 11 มกราคม อยากให้ท้องถิ่นเปลี่ยนบทบาทจากรอฟังจากมหาดไทย รอฟังรัฐบาล เป็นผู้ออกแบบบริการด้วยตนเอง ทำให้ท้องถิ่นสามารถสนองความต้องการในพื้นที่โดยตรง และต้องคิดเรื่องหารายได้ แทนที่จะพึ่งพางบจากรัฐบาลกลาง ซึ่งวันนี้มีการแก้กฎหมายโดยสำนักงบประมาณจัดสรรตรงให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ ถ้าเราไม่รู้จักหารายได้เองจะเกิดปัญหาในอนาคต อาจจะคิดในรูปแบบสหการโดยหลายท้องถิ่นมาร่วมมือกันเช่นโรงไฟฟ้าขยะ ขณะเดียวกันจะต้องไม่เกรงใจนักเลือกตั้ง ที่ไม่อยากเสียคะแนนเสียงในการเก็บภาษีเพิ่ม ขณะเดียวกันจะต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของประชาชน และสุดท้ายขอให้ท้องถิ่นทุกรูปแบบจะต้องบูรณาการร่วมกัน งบบูรณาการ อย่าเอาอย่างส่วนราชการส่วนกลางที่ต่างคนต่างทำ แม้จะมีงบบูรณาการ กลายเป็นต่างคนต่างทำ ขณะเดียวกันก็อยากเห็นผู้บริหารท้องถิ่นทำ ฐานรวมข้อมูลสถิติในท้องถิ่น หรือแดชบอร์ด รวบรวมปัญหาในท้องถิ่นเพื่อนำมาแก้ไข ต้องบริหารงานแบบสมัยใหม่วางแผนยุทธศาสตร์ แม้มีข้อจำกัดเรื่องทรัพยากรและเงิน อีกทั้งต้องมีตัวชี้วัด ไม่สามารถบริหารแบบธุรกิจครอบครัวได้ และจะต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชนในท้องถิ่น ต้องลงทุนในเรื่องสาธารณูปการ เตรียมความพร้อมดูแลประชาชนโดยเฉพาะเด็ก ผู้ป่วยและผู้สูงอายุ หากมี อบต.เป็นแกนกลาง การทำงานจะสำเร็จ โดยสิ่งที่ตนอยากจะเสนอให้คิดคือหาข้อดีของตำบลมาพัฒนาต่อยอด และจะต้องเรียนรู้จากหน่วยงานที่ประสบความสำเร็จนำมาใช้ในการบริหารโดยไม่อายที่จะไปเรียนรู้ เชื่อว่าการบริหารจากส่วนกลางปัจจุบันล้าสมัยโดยต้องอาศัยท้องถิ่นเป็นตัวหลักในการปกครองเพราะอยู่ในพื้นที่รู้ปัญหาของประชาชน และสามารถแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที
"น้ำท่วมหาดใหญ่วันนี้มันแปลว่าอะไร แปลว่าส่วนหนึ่งต้องเกิดความผิดพลาดในท้องถิ่น แปลว่าเทศบาลนครหาดใหญ่ก็ดี อบต.รอบหาดใหญ่ เทศบาลรอบหาดใหญ่ ต้องเฟลอะไรบางอย่าง ปล่อยให้คลอง ร.1 ตื้นเขิน ปล่อยให้คนไปสร้างบ้านริมคลองขวางทางน้ำ ไม่มีการลงทุนใหม่ที่จะสร้างทางระบายน้ำเพิ่ม วันนี้คลอง ร.1 อยู่ถัดจากคลองอู่ตะเภาไปด้านหนึ่ง ด้านตะวันออกไม่มีทางระบายน้ำ เพราะฉะนั้นน้ำลงมาจากเขาคอหงส์ก็ลงมาในเมืองหาดใหญ่เต็มที่ ก็แปลว่าท้องถิ่นปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ เทศบาลนครหาดใหญ่มีภาษีที่ได้จากรายได้ตัวเองมหาศาล แต่วันนี้นครหาดใหญ่จมน้ำ แล้วไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะพ้น ต้องอาศัยส่วนกลางระดมพลลงไปช่วย แปลว่าการวางแผนของท้องถิ่นมีปัญหา การแก้ปัญหาของท้องถิ่นมีปัญหา บทเรียนของนครหาดใหญ่จะเตือนพวกเราได้แล้วว่ามันจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำซากแบบนี้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นผมก็หวังว่าอนาคตการปกครองท้องถิ่นไทย อยู่ในมือของพวกท่านวันนี้ วันที่ 11 มกราคมก็จะมีการเลือกตั้ง อบต. แต่ว่า อบต.ทำคนเดียวไม่ได้ต้องร่วมมือกับเทศบาล อบจ.ในจังหวัด และจะไปร่วมมือกับภูมิภาค ผู้ว่าราชการจังหวัด ทั้งหมดนี้จะเป็นทั้งโอกาสและความท้าทาย"นายบวรศักดิ์ กล่าว

