xs
xsm
sm
md
lg

หาดใหญ่ "ราพณาสูร" ผู้ประสบภัยสุดช้ำ! แฉเทศบาลสื่อสาร "ธงเขียว-เอาอยู่" เผยน้ำท่วมหนักกว่าในข่าว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ผู้ประสบภัยน้ำท่วมหาดใหญ่เปิดใจเล่าเหตุการณ์สุดสะเทือนใจ ยืนยันสถานการณ์จริงหนักกว่าที่เห็นในข่าวจนแทบจะราพณาสูร ชี้ความเสียหายมหาศาลครั้งนี้มีชนวนมาจากการสื่อสารที่ผิดพลาดซ้ำซ้อนของเทศบาล เรียกร้องให้หน่วยงานทั้งส่วนกลางและท้องถิ่นทบทวนการทำงานที่ล่าช้าและบกพร่อง ซึ่งส่งผลให้หลายชีวิตต้องติดค้างอยู่บนบ้านชั้นสอง ท่ามกลางการตัดขาดของระบบสื่อสารและไฟฟ้า

เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Khanin khanungwanitkul” ได้ออกมาโพสต์ข้อความเล่าถึงประสบการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่หาดใหญ่ ซึ่งมีความรุนแรงและหนักหนากว่าที่ปรากฏในข่าวมาก จนเรียกได้ว่า "ราพณาสูร" และทำให้หลายคนสูญเสียทุกอย่างที่สร้างมาทั้งชีวิต ชี้ปัญหามาจากการแจ้งเตือนและการสื่อสาร โดยผู้โพสต์ได้ระบุข้อความว่า

"ขอบคุณทุกความห่วงใยที่ถามกันเข้ามาครับ ผมปลอดภัยดี แต่ถามว่าหนักแค่ไหน บางคนบอกดูจากข่าวดูน่ากลัวมาก ตอบได้เลยว่าในพื้นที่มันน่ากลัวและหนักหนากว่าที่เห็นในข่าวอีกครับ

ราพณาสูร น่าจะเป็นคำที่แสดงนิยามของน้ำท่วมครั้งนี้ได้ดีที่สุด บางคนสูญเสียแทบทุกสิ่งที่สร้างมาทั้งชีวิต

- ทุกฤดูฝน ชาวหาดใหญ่จะฟังเทศบาลเป็นหลัก เพราะส่วนกลาง เช่น กรมอุตุฯ จะใช้คำซ้ำๆ ที่พิมพ์ในประกาศ เช่น ระวังน้ำท่วมเฉียบพลัน ดินถล่ม ซึ่งบางครั้งตกแค่เล็กน้อย กรมอุตุฯ ก็ใช้คำพูดที่ไม่ต่างกัน ไม่ได้สื่อถึงความรุนแรง แต่เทศบาลจะสื่อสารโดยใช้ระบบ สีธง ซึ่งชาวหาดใหญ่จะเข้าใจว่าคืออะไร

- ในรอบนี้มีระบบแจ้งเตือนจากส่วนกลางก่อน แต่.. เทศบาลกลับสื่อสารไปคนละทาง แม้ทุกคนได้รับสัญญาณเตือน แต่เทศบาลกลับยังบอกประชาชนว่า ธงเขียว

- สิ่งที่ตามมาคือ คนหาดใหญ่ก็ต้องเชื่อสิ่งที่เทศบาลสื่อสารมาโดยตลอดทั้งชีวิต และมองคำเตือนที่ดังจากในระบบเป็นแค่ข้อความที่เหมือนคำเตือนทุกๆ ครั้งของกรมอุตุฯ

- วันศุกร์ 21.00 น. ผมได้รับข่าวว่าคอหงส์ ยกธงแดง สิ่งที่ทำคือ รีบบอกพ่อว่า คอหงส์ ธงแดง ป๊าเอารถเก็บที่สูงก็ดี แต่หาดใหญ่ยังโอเค นายกเทศมนตรีบอกเอาอยู่

- 5 นาทีหลังวางสาย พ่อโทร.มาบอกน้ำเต็มถนนในเมืองแล้ว แต่อาจจะเป็นแค่น้ำระบายไม่ทันเพราะฝนหนักมาก หลังจากนั้นไม่ถึงชั่วโมงทราบว่าหาดใหญ่ขึ้นธงเหลือง ผมรีบขับเพื่อจะเข้าบ้าน แต่ทางถูกตัดขาดเรียบร้อยระหว่างจาก ม.สงขลานครินทร์ เข้าเมือง

- ไม่เกินชั่วโมง ทั้งเมืองเริ่มโกลาหล และข่าวก็ประกาศธงแดงแทบในทุกพื้นที่ของหาดใหญ่ และผมคลาดกับพ่อแม่โดยสมบูรณ์

- จากธงเขียว -> แดง เวลาน้อยมาก แทบไม่มีใครเตรียมอะไรทันแน่นอน

- วันอาทิตย์น้ำเริ่มลด ผมรีบกลับบ้านเพื่อจะพาพ่อเข้ามาในมหาวิทยาลัย แต่สิ่งที่ได้คำตอบคือ ในวิทยุบอกน้ำเริ่มลดแล้ว ทางเทศบาล กับนายกเทศมนตรีบอก เป็นแค่น้ำหลากรอระบาย มันลงเร็ว พรุ่งนี้ทุกอย่างก็เป็นปกติ (แต่ขณะนั้นทุก model forecast ว่าฝนชุดใหญ่กำลังจะมาอีก)

- แทนที่จะเตือนประชาชนให้เตรียมรับน้ำมหาศาลอีกระลอก กลับบอกในแง่ดีว่าทุกอย่างจะคลี่คลาย

- เย็นวันนั้นฝนเริ่มกระหน่ำอีก ผู้คนที่เริ่มทำความสะอาดบ้าน และพร้อมตื่นมาทำงานกลับพบว่าน้ำเริ่มทะลักเข้าบ้านอีกครั้งอย่างไม่รู้ตัว น้ำมาเร็วมาก หลายคนเข้าบ้านไปช่วยครอบครัวขนของขึ้นชั้น 2 แล้วออกมาไม่ได้ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็ว และระบบไฟ ระบบสื่อสารก็ถูกตัดขาดอย่างสิ้นเชิง

- น้ำท่วมขึ้นสูงจนมิดชั้น 2 หลายคนที่ติดอยู่ออกมาไม่ได้ รวมถึงหมอ อาจารย์แพทย์ที่รู้จัก ขณะนี้ก็ไม่ทราบชะตากรรม ได้เห็นโพสต์ขอความช่วยเหลือ ว่าน้ำกำลังท่วมคนในบ้านออกมาไม่ได้เพราะหน้าต่างเป็นลูกกรง เสียงขอความช่วยเหลือถูกตะโกนออกทางหน้าต่างไปทั้งเมือง แต่เรือที่จะช่วยเหลือกลับแทบไม่มี

- คนส่วนใหญ่ไม่ได้ตุนเสบียงแม้แต่น้อย รวมถึงพ่อ แม่ที่บ้าน ก็แทบติดต่อไม่ได้ ไม่รู้ชะตากรรม

คำถาม

- ทำไมระบบแจ้งเตือนเทศบาลรอบนี้มันถึงแย่ได้ขนาดนี้ ทำไมกล้าพูดว่าเอาอยู่ มันคือชีวิตคนทั้งเมือง เอามาทำเป็นเล่น งูๆ ปลาๆ แบบนี้ได้เหรอ น้ำท่วมมันเป็นภัยธรรมชาติไม่มีใครโทษใครได้ เพราะครั้งนี้มันหนักจริง แต่สิ่งหนึ่งที่ความเสียหายมากขนาดนี้ คือข่าวที่ออกมาจากเทศบาลเพื่อหน้าตาหรืออะไรก็ตาม

คณะทำงานหาดใหญ่ที่ดูพยากรณ์ปริมาณฝนไม่เป็น มันจะควรมาทำงานเพื่อหาดใหญ่เหรอ

- ส่วนกลางก็แย่ไม่ต่างกัน ทุกคนยืนดูการผัดข้าว แทนที่จะมารีบช่วยชีวิตคน การถ่ายภาพมันสำคัญกว่าชีวิตคนสินะ เข้าวันที่ 2-3 ยังแทบไม่มี response จากหน่วยงาน

ร่วมกันช่วยหาดใหญ่เถอะครับ ไม่รู้ว่าเมืองนี้จะยังกลับมาได้อีกมั้ย แต่มันหนักหนาจริงๆ หนักจนบรรยายไม่ได้ มีอะไรช่วยได้อยากให้ร่วมกันครับ เพราะมันไม่เหลืออะไรแล้วจริงๆ"
กำลังโหลดความคิดเห็น