xs
xsm
sm
md
lg

อันวาร์อ้างอนุทินเข้าข้าง แทรกแซงไทย-กัมพูชาไม่จริง ระบุม็อบวิจารณ์ไม่ยุติธรรม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเผย อนุทินโทร.มา ขอให้มั่นใจว่าข้อกล่าวหาแทรกแซงปัญหาไทย-กัมพูชา เป็นเรื่องไม่ยุติธรรมและไม่เป็นความจริง พร้อมวิจารณ์กลุ่มการเมืองบางกลุ่มในมาเลเซียว่าตื่นเต้นเกินไปที่จะประณามรัฐบาล ยืนยันไม่ได้ตัดสินใจเองคนเดียว

วันนี้ (25 พ.ย.) สำนักข่าวแห่งชาติเบอร์นามา (BERNAMA) ของมาเลเซีย รายงานว่า นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ให้สัมภาษณ์ที่กรุงไนโรบี ประเทศเคนยา ระบุว่า ตนได้รับโทรศัพท์จากนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทยเป็นการส่วนตัว เมื่อเช้าวันจันทร์ (24 พ.ย.) เพื่อขอให้มั่นใจว่าข้อกล่าวหาที่แพร่สะพัดเกี่ยวกับบทบาทของมาเลเซียในปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชานั้น เป็นเรื่องไม่ยุติธรรมและไม่เป็นความจริง โดยย้ำข้อเท็จจริงว่ามาเลเซียเป็นเพียงผู้อำนวยความสะดวกในประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชาเท่านั้น การตัดสินใจทั้งหมดเป็นเรื่องของฝ่ายไทยและกัมพูชา

ขณะเดียวกัน นายอันวาร์ยังวิจารณ์กลุ่มการเมืองบางกลุ่มในมาเลเซียว่า ตื่นเต้นเกินไปที่จะประณามรัฐบาล แม้ว่าบทบาทของมาเลเซียในปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชาจะมีความชัดเจนก็ตาม นายอันวาร์ กล่าวว่า เป็นเรื่องน่าตกใจที่นักการเมืองบางคนมีพฤติกรรมราวกับว่าการตัดสินใจนั้นทำโดยบุคคลคนเดียว ในขณะที่ความจริงแล้ว มีกระทรวงและหน่วยงานด้านความมั่นคงหลายแห่งเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม รวมไปถึงผู้นำเหล่าทัพด้วย

รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า นายอนุทินมีกำหนดเดินทางเยือนมาเลเซียอย่างเป็นทางการในวันพุธ (26 พ.ย.) โดยคาดว่านายอนุทินและนายอันวาร์จะประชุมทวืภาคีเพื่อหารือแนวทางเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างไทย-มาเลเซีย แต่ล่าสุดรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลระบุว่า นายอนุทินได้ยกเลิกภารกิจงานต่างๆ นอกทำเนียบรัฐบาล และภารกิจลงพื้นที่ต่างจังหวัดในสัปดาห์นี้ เช่นเดียวกับวันที่ 26 พ.ย. นายอนุทินได้ยกเลิกเดินทางเยือนเมืองปุตราจายา และกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียอย่างเป็นทางการ เพื่ออยู่มอนิเตอร์ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

ก่อนหน้านี้เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (22 พ.ย.) กลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย ชุมนุมที่หน้าทางเข้าสถานทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย ถนนสาทรใต้ กรุงเทพฯ เพื่อประณามการกระทำของนายอันวาร์ ที่แทรกแซงกิจการภายในของไทย ส่งผลให้ไทยสูญเสียอำนาจอธิปไตยเขตแดน และเปิดช่องให้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา แทรกแซงอำนาจอธิปไตยไทยและความมั่นคงของอาเซียน โดยกล่าวหาว่านายอันวาร์ใช้เวทีอาเซียนเป็นเวทีส่วนตัว เพื่อประโยชน์ทางการเมืองภายในของตนเอง มากกว่าผลประโยชน์ของอาเซียนโดยรวม และเปิดช่องให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เข้ามาแทรกแซงกิจการภายในอาเซียน ขัดต่อหลักการไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศสมาชิก และการละเว้นจากการข่มขู่หรือการใช้กำลังในมิติระหว่างประเทศ
กำลังโหลดความคิดเห็น