นายกรัฐมนตรี ติดตามน้ำท่วมสงขลา เผยทุกหน่วยงานเร่งระดมเครื่องจักร อุปกรณ์สูบน้ำ และดูแลศูนย์อพยพทั้ง 5 แห่ง คาดสถานการณ์เริ่มคลี่คลายภายในสัปดาห์นี้ พร้อมตั้ง “ศูนย์บริหารจัดการน้ำในสถานการณ์ภัยพิบัติ” ให้ "ธรรมนัส" เป็นผู้อำนวยการศูนย์ บูรณาการช่วยเหลือพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ขณะสงขลาประกาศเขตภัยพิบัติครบ 16 อำเภอ และเร่งอพยพกลุ่มเปราะบาง ส่วนกระทรวงท่องเที่ยวฯ ประสานช่วยเหลือนักท่องเที่ยวติดค้าง พร้อมเตรียมสนามสำรองซีเกมส์รองรับผลกระทบจากน้ำท่วม.
วันนี้ (24 พ.ย.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์น้ำท่วม จ.สงขลา โดยคาดว่าจะมีมวลน้ำจาก อ.สะเดาไหลเข้ามาเติมอีก ระบุว่าขณะนี้ทุกหน่วยงานได้ระดมกำลังลงพื้นที่แล้ว ทั้งเครื่องมือ เครื่องจักร อุปกรณ์ เครื่องปั๊มน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ และเครื่องปั่นไฟ โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้นำเครื่องปั่นไฟไปประจำตามศูนย์อพยพทั้ง 5 จุดที่จัดตั้งไว้ คาดว่าสถานการณ์จะบริหารจัดการได้ และกลับเข้าสู่ภาวะปกติภายในสัปดาห์นี้ เนื่องจากปริมาณน้ำฝนมีมาก เช่นเมื่อวานที่ตนลงพื้นที่ พบว่าฝนตกต่อเนื่องตั้งแต่เช้าจรดเย็น ทำให้น้ำท่วมเพราะระบายน้ำไม่ทัน
นายกฯ กล่าวว่า มวลน้ำจาก อ.สะเดาเป็นน้ำหลาก แต่การระบายน้ำยังคงดำเนินการอยู่ โดย อ.หาดใหญ่มีคลอง ร.1 ช่วยระบายน้ำอย่างเต็มที่ ขณะนี้ปริมาณฝนและน้ำหลากมีแนวโน้มขยายพื้นที่ลงไปยัง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 3 แห่งได้รับทราบและเตรียมแผนรับมือไว้แล้ว ส่วนรัฐบาลได้ผนึกกำลังช่วยเหลือในทุกด้าน ทั้งอาหาร ศูนย์อพยพ เครื่องใช้จำเป็น รวมถึงการเร่งอนุมัติเงินเยียวยารายหลังคาเรือน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนโดยเร็ว โดยจะเสนอกรอบอนุมัติในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันพรุ่งนี้ ซึ่งได้เตรียมงบประมาณรองรับไว้แล้ว พร้อมสั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดเร่งสำรวจรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับการเยียวยา เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้า
เมื่อถามถึงกรณีหลายพื้นที่ยังมีประชาชนติดค้าง นายอนุทิน กล่าวว่า วันแรกยังมีความขลุกขลักบ้าง จึงต้องปรับแผนเพื่อให้เกิดความมั่นใจ แม้ระบบเตือนภัยจะทำงานได้ดี แต่เมื่อมีการเตือนภัยแล้ว หากระดมทรัพยากรเฉพาะในจังหวัดเองอาจไม่เพียงพอ โดยเฉพาะพื้นที่ขนาดใหญ่ที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เช่น อ.หาดใหญ่ ซึ่งพบว่าปัญหาอาหารถือว่าสำคัญ เนื่องจากน้ำท่วมและไฟดับทำให้ไม่สามารถประกอบอาหารได้ ผู้ที่ติดอยู่ในอาคารต้องรออาหารจากรอบนอก ซึ่งในช่วง 1–2 วันแรกมีผู้ที่ยังไม่ได้รับอาหารบ้าง แต่ตั้งแต่วันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดยืนยันว่าได้ระดมการช่วยเหลืออย่างเต็มที่แล้ว
ด้านนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายอนุทิน ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ (คอภ.) ได้ลงนามจัดตั้งศูนย์บริหารจัดการน้ำในสถานการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติ (ศนภ.) โดยมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้อำนวยการศูนย์ เพื่อกำกับดูแลและบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการน้ำ เพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที ครอบคลุม และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นายสิริพงศ์ยังกล่าวว่า รัฐบาลได้เร่งดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมใน จ.สงขลา และพื้นที่ใกล้เคียง โดยมอบหมายให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (ส่วนหน้า) จ.สงขลา ทำหน้าที่เป็นศูนย์บัญชาการส่วนหน้าในการช่วยเหลือประชาชนใน 5 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง (สตูล สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส) เป็นจุดประสานงานและสั่งการทรัพยากรเข้าพื้นที่ทันที พร้อมจัดส่งเครื่องจักรกลสาธารณภัย เช่น เรือเล็ก เรือท้องแบน เครื่องสูบน้ำ รถยกสูง รถผลิตน้ำดื่ม รถประกอบอาหาร สะพานเบลีย์ และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เพื่อสนับสนุนการช่วยเหลืออย่างเต็มศักยภาพ
ล่าสุด จ.สงขลา ประกาศเขตภัยพิบัติครบทั้ง 16 อำเภอ พร้อมสั่งอพยพประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว ได้แก่ ศูนย์ประชุมนานาชาติ ม.สงขลานครินทร์ หอประชุม ม.ราชภัฏสงขลา และทัพเรือภาคที่ 2 โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง และยังต้องเฝ้าระวังปริมาณน้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมเร่งระดมเครื่องจักรและยุทโธปกรณ์เพิ่มเติมทันที
“รัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุดกับการดูแลประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย ศูนย์ส่วนหน้าที่จัดตั้งขึ้นจะทำให้การช่วยเหลือมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยรองนายกฯ ธรรมนัส ได้ติดตามสถานการณ์และสั่งการหน่วยงานอย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้เร่งช่วยเหลือประชาชนทุกพื้นที่ และประสานทรัพยากรเพิ่มเติมทันที การปฏิบัติงานต้องต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และประชาชนกลับสู่ภาวะปกติได้อย่างปลอดภัย” นายสิริพงศ์กล่าว
ด้านนายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ได้ติดตามการอพยพประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบ พร้อมประสานสถานทูตและสมาคมโรงแรมต่างๆ เพื่อสำรวจจุดที่มีนักท่องเที่ยวติดค้าง และประสานกรมชลประทานให้นำรถใหญ่เข้ารับคนออกจากพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ พร้อมกำชับเรื่องการจัดหาอาหารไม่ให้ขาดแคลน
อีกประเด็นที่ต้องจับตา คือประเทศไทยกำลังจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ระหว่างวันที่ 9–20 ธ.ค.นี้ โดย จ.สงขลา เป็นหนึ่งในจังหวัดเจ้าภาพ ซึ่งสนามแข่งมวยไทยได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม แต่ได้เตรียมสนามสำรองในพื้นที่อื่นไว้แล้ว ส่วนกีฬาประเภทอื่นยังสามารถบริหารจัดการได้หลังน้ำลด

