หาดใหญ่จมบาดาล เผชิญฝนตกหนักสุดในรอบ 300 ปี หลายพื้นที่ยังวิกฤต "อนุทิน" ลงพื้นที่ ขอประชาชนให้อภัย ยืนยันจะดูแลให้ดีที่สุดและเร่งเยียวยา
สถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ยังคงตึงเครียด แม้บางพื้นที่เริ่มเห็นสัญญาณระดับน้ำลดลง แต่หลายจุดยังท่วมสูงและมีน้ำไหลเชี่ยว เจ้าหน้าที่ต้องเร่งระดมกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชน ขณะที่นายกรัฐมนตรีและคณะได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมยืนยันไม่ทอดทิ้งประชาชนและเตรียมมาตรการเยียวยาเร่งด่วน
ในย่านเศรษฐกิจบริเวณตลาดสดพลาซ่า ถนนเพชรเกษม ระดับน้ำเริ่มลดลงเหลือระดับเข่าถึงเอว ขณะที่ถนนศุภสารรังสรรค์ เขตตลาดกิมหยงยังมีระดับน้ำสูงถึงหน้าอก ส่วนถนนนิพัทธ์อุทิศ 1 มีแนวโน้มดีขึ้น ชาวบ้านเริ่มออกมารับอาหารและน้ำดื่มจากเจ้าหน้าที่ทหารที่นำรถบรรทุก GMC เข้าพื้นที่ได้แล้ว
อย่างไรก็ตาม ถนนนิพัทธ์อุทิศ 2 และ 3 ยังคงวิกฤต ระดับน้ำสูงถึงมิดหัวบางจุดและมีกระแสน้ำแรง จนเจ้าหน้าที่ต้องขึ้นตรวจสอบจากสะพานลอย พบว่าสถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ถูกน้ำป่าจากเขาคอหงส์ทะลักเข้าท่วมเช่นกัน ขณะถนนราษฎร์อุทิศหรือเขต 8 ยังไม่สามารถนำสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้าไปได้ เนื่องจากน้ำสูงและเชี่ยวกรากมาก
ด้านนายณรงค์พร ณ พัทลุง นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ เปิดเผยว่าพื้นที่เมืองชั้นในเริ่มคลี่คลาย แต่เขต 3–4 และหน้าสถานีตำรวจยังวิกฤตเพราะเป็นจุดรองรับน้ำจากคลองอู่ตะเภา โดยสถานการณ์ครั้งนี้ถือว่าหนักที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ เมืองมีฝนสะสมกว่า 900 มิลลิเมตรใน 3–4 วัน และมีฝนตกหนัก 305 มิลลิเมตรในคืนเดียว ทำให้ระบบระบายน้ำรับไม่ไหว อีกทั้งน้ำจากเขาคอหงส์ไหลลงอ่างเก็บน้ำ 75 ไร่จนใกล้ล้น ต้องเร่งเปิดแก้มลิงและเพิ่มเครื่องสูบน้ำเพื่อป้องกันความเสียหาย
ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน เปิดเผยถึงสาเหตุน้ำท่วมหนักในพื้นที่ภาคใต้ เกิดจากตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย. 68 จนถึงปัจจุบัน อิทธิพลของร่องมรสุมและหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมภาคใต้ และภาคใต้ตอนล่าง ทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ของภาคใต้ ตั้งแต่จังหวัดชุมพรลงไป ส่งผลให้เกิดอุทกภัยรวม 10 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สตูล สงขลา พัทลุง ตรัง นราธิวาส ปัตตานี และ ยะลา โดยปริมาณฝนสะสม 24 ชั่วโมง วัดได้มากกว่า 300 - 500 มม.
สำหรับจังหวัดสงขลา มีฝนตกหนักครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยเฉพาะที่อำเภอหาดใหญ่ ที่วัดปริมาณฝนสูงสุดเมื่อวันที่ 21 พ.ย. 68 วัดได้ 335 มม.ซึ่งเป็นปริมาณฝนตกหนักในรอบ 300 ปี สำหรับปริมาณฝนสะสม 3 วันย้อนหลัง (19 – 21 พ.ย. 68) ได้สูงสุดถึง 630 มม. (มากกว่าครั้งที่เกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่ของอำเภอหาดใหญ่ เมื่อปี 2553 ที่มีปริมาณฝนสะสมสูงสุด 428 มม.) มีน้ำท่วมในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ระดับน้ำสูงเฉลี่ย 0.50 – 2.50 เมตร
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ลงพื้นที่ศูนย์บัญชาการเทศบาลนครหาดใหญ่ซึ่งเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว ตรวจเยี่ยมประชาชน พร้อมกำชับให้นายกเทศมนตรีจัดหาอาหารให้เพียงพอ โดยระบุตอนหนึ่งว่า การที่พวกเราทุกคนมาอยู่ตรงนี้แม้จะไม่เหมือนบ้าน แต่อย่างน้อยก็มีเรื่องความปลอดภัย ซึ่งมีการตั้งศูนย์พยาบาลคอยดูแล และเมื่อสถานการณ์ดีขึ้นพวกเราค่อยแยกย้ายกันกลับบ้าน และขออย่าให้มีสิ่งเลวร้ายเข้ามาวุ่นวาย ขอให้ทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง กลับมาค้าขายคล่อง ส่วนคนละครึ่งพลัสก็ยังอยู่ เดี๋ยวจะมีเฟส 2 ต่อ พร้อมย้ำเรื่องของการเยียวยาผู้ประสบภัย จะเร่งรัดให้เร็วที่สุด
“ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลหนีความผิดไม่พ้น หวังว่าทุกคนจะให้อภัย ขอให้ทุกคนโชคดี และจะไม่บอกว่าเดี๋ยวจะมาเยี่ยมอีก เพราะเชื่อว่าอีก 1-2 วัน ประชาชนน่าจะได้กลับบ้านแล้ว และจะคอยติดตามเรื่องความสะดวกสบายให้กับประชาชน” นายกฯกล่าว