xs
xsm
sm
md
lg

ฮุนเซนย้ำ“ไม่ต้องแบน PTT” ยันนำเข้าน้ำมันจากสิงคโปร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ดรามาแบนสินค้าไทย ฮุนเซน ออกโรงอย่าสุดโต่ง แบนทุกอย่างกระทบเศรษฐกิจย้ำปั๊มPTT กัมพูชาใช้น้ำมันจากสิงคโปร์“ไม่จำเป็นต้องแบน” ด้านPTTOR Cambodia รีบขอบคุณ กระทบชิ่งปั๊มPeace ที่แยกตัวไปเป็นปั๊มรักชาติSarath Sun ฝ่ายค้านกัมพูชาได้โอกาสแซะฮุนเซนแขวะTea Siam จนโดนตอกกลับโง่จริงหรือขาดปัญญา

ท่ามกลางสถานการณ์ที่ตึงเครียดรอบใหม่ หลังจากทหารไทยเหยียบกับระเบิดเมื่อ 10 พฤศจิกายน 2568 ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดที่ห้วยตามาเรีย จังหวัดศรีสะเกษ ทหารเจ็บ 4 นาย สาหัสขาขาด 1 นาย

จนที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติได้ข้อสรุปว่า ระงับปฏิญญาสันติภาพ ไทย-กัมพูชา งดส่งตัวเฉลยศึก 18 คนและทำหนังสือประท้วงต่อประชาคมโลก จากนั้นทั้งไทยและกัมพูชาต่างเสริมกำลังบริเวณชายแดน

สงครามข่าว/ข่มขืน-ลวนลาม

ตามมาด้วยสงครามข่าวสาร ยากต่อการพิสูจน์ว่าจริงหรือปลอม ก่อนหน้าก็มีการปล่อยข่าวว่าฝ่ายไทยจะเปิดฉากโจมตีกัมพูชาจังหวัดโพธิสัตว์ในวันที่ 18 พฤศจิกายนนี้ แต่ก็ไม่เกิดเหตุการณ์ใด ๆ

แต่วันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 กระทรวงแรงงานกัมพูชาเดินทางเข้าเยี่ยมแรงงานหญิงชาวกัมพูชาที่ถูกทหารไทยข่มขืน โดยฝ่ายกัมพูชาอ้างว่าแรงงานสาวกัมพูชาถูกทหารไทยชุดดำ 7 นายข่มขืนแรงงานหญิงชาวกัมพูชา เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2568 ขณะเดินทางกลับจากประเทศไทยพร้อมแรงงานกัมพูชาอีก 12 คน แต่ไม่มีหลักฐานใด ๆ มายืนยัน

ในวันเดียวกัน 18 พฤศจิกายน 2568 เกิดเหตุผู้ต้องหาชาวเวียดนามที่หลบหนีระหว่างเดินทางมาศาล โดยมีหญิงเวียดนามส่งปืนให้ผู้ต้องหาและถูกจับกุมได้ในที่สุด มีการเผยแพร่คลิปตำรวจกัมพูชาจับกุม ในภาพมีการจับศรีษะให้เธอเงยหน้า บางคนใช้มือสัมผัสใบหน้าผู้ต้องสงสัยหญิง ด้วยความสนุกสนานพร้อมกล่าวว่า สวยจัง เนียนจัง จนกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ข้ามประเทศ

สุดท้ายกระทรวงสารสนเทศกัมพูชา ได้มีคำสั่งเพิกถอนบัตรใบประกอบการวิชาชีพผู้สื่อข่าว นายข่าน สารัฒน์ ทันที หลังพบว่ากระทำผิดจริยธรรมร้ายแรง และขึ้นบัญชีดำห้ามประกอบอาชีพหรือทำกิจกรรมในวงการสื่อและโสตทัศนศึกษาในทุกด้าน พร้อมเรียกตัวมารับฟังคำแนะนำและดำเนินมาตรการตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

กระทรวงสารสนเทศกัมพูชาขอความร่วมมือ ขอเรียกร้องให้สื่อมวลชนและประชาชนหยุดเผยแพร่ภาพหรือคลิปวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้


แบนทุกอย่างเศรษฐกิจพัง

สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวเมื่อ 17 พฤศจิกายน 2568 ข้าพเจ้าขอชี้แจงต่อพี่น้องประชาชนกัมพูชาว่า อย่าด่วนสรุป ถึงแม้บริษัทหรือผู้ถือหุ้นของบริษัทจะเป็นคนไทย แต่หากสินค้าผลิตในประเทศกัมพูชา ก็ถือเป็นสินค้าของกัมพูชา ยกตัวอย่างเช่น บริษัทน้ำมันเจ้าหนึ่งถึงแม้จะเป็นแบรนด์จากประเทศไทย แต่น้ำมันที่ขายในกัมพูชา นำเข้ามาจากสิงคโปร์และมาเลเซีย ไม่ใช่ประเทศไทย จึงไม่จำเป็นต้องแบน

การบอยคอตสินค้าทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย อาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจของกัมพูชา ขัดขวางการลงทุน และบั่นทอนกำลังการผลิตในประเทศ จึงขอให้พี่น้องประชาชนกัมพูชาอย่าปฏิเสธสินค้าเพียงเพราะแหล่งที่มาของบริษัท

พฤติกรรมลักษณะสุดโต่ง เช่น การรณรงค์บอยคอตทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับไทย อาจเป็นการทำร้ายเศรษฐกิจของกัมพูชาเอง โดยเฉพาะสินค้าและบริการที่ผลิตในประเทศแม้มีผู้ลงทุนเป็นชาวต่างชาติ


ไม่อยู่บัญชีต้องห้ามนำเข้าได้

อธิบดีกรมศุลกากรกัมพูชา ได้ปฏิเสธคำร้องขอจากประชาชนชาวกัมพูชาบางส่วนที่เรียกร้องให้คว่ำบาตรสินค้าไทยทั่วประเทศ

ก่อนหน้านี้นายกุน นิม อธิบดีกรมศุลกากร กัมพูชากล่าวเมื่อ 14 พฤศจิกายน 2568 ว่า สินค้าไทยที่ถูกกฎหมาย แต่ไม่อยู่ในบัญชีสินค้าต้องห้ามของรัฐบาล ยังคงสามารถนำเข้าได้อย่างถูกกฎหมาย

ความต้องการของตลาดเป็นตัวกำหนดว่าสินค้าไทย จะเข้ามาในประเทศมากน้อยเพียงใด หากผู้บริโภคหยุดซื้อหรือลดปริมาณการซื้อ ผู้นำเข้าก็จะลดปริมาณลงเอง

พร้อมทั้งย้ำว่า “ความรู้สึกส่วนบุคคลนั้นแยกออกจากหลักกฎหมาย เพราะไม่มีกฎระเบียบใดบังคับให้ชาวกัมพูชาซื้อหรือหลีกเลี่ยงสินค้าไทย นอกจากสินค้าที่รัฐห้ามอย่างเป็นทางการ”

ทั้งนี้เมื่อ 16 กรกฎาคม 2568 กรมศุลกากรกัมพูชาได้สั่งห้ามการนำเข้าผัก ผลไม้ เชื้อเพลิง และก๊าซจากไทย ต่อมาสมเด็จฮุน เซน ประกาศระงับการนำเข้าสินค้าเชิงยุทธศาสตร์ ซึ่งรวมถึงไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต เชื้อเพลิง และก๊าซ และยุติการฉายภาพยนตร์ไทยในกัมพูชา


ดรามาปั๊ม PTT

หลังจากนั้นสำนักข่าว Fresh News ของกัมพูชาได้เผยแพร่คำปราศรัยของสมเด็จฮุนเซนไว้ว่า สมเด็จฮุนเซน เผย ปตท. ซื้อน้ำมันจากสิงคโปร์ทุกวัน ไม่ใช่จากไทย แต่ตอนนี้ไม่ไปเติมน้ำมันแล้ว ทำลายเศรษฐกิจ

เพจ PTTOR Cambodia ได้กล่าวขอบคุณสมเด็จฮุนเซนไว้ในวันรุ่งขึ้นว่า เราขอแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้งต่อพระดำรัสของ สมเด็จฮุนเซน ที่ทรงยืนยันถึงแหล่งที่มาของสินค้าของบริษัท ด้วยความเคารพอย่างสูงจาก ปตท. (กัมพูชา) และผู้จัดจำหน่ายทุกท่าน

เท่ากับเป็นการการันตีปั๊มน้ำมัน PTT ในกัมพูชาจากผู้นำสูงสุดว่า ไม่ได้นำเข้าน้ำมันมาจากประเทศไทย

ก่อนหน้านี้ราว 6 วัน ปั๊มน้ำมัน Peace Petroleum Cambodia ที่แยกตัวออกมาจาก PTT ได้โพสต์ถึงความเปลี่ยนแปลงที่ตัวปั๊มเติมน้ำมันว่า ภาพบนหน้าจอของปั๊มน้ำมันแห่งนี้ สื่อความหมายมากมายที่ซาบซึ้งใจชาวกัมพูชาอย่างลึกซึ้ง เราอยากให้ลูกค้าทุกท่านสัมผัสได้ว่า PEACE ไม่ใช่แค่ปั๊มน้ำมัน แต่เป็นสถานที่ที่สร้างแรงบันดาลใจและความสามัคคีของชาวกัมพูชาทุกคน พร้อมตั้งคำถามว่าคุณรู้สึกอย่างไรเมื่อเห็นหน้าจอใหม่นี้


ฝ่ายค้านแซะฮุนเซน

หลังจากที่สมเด็จฮุนเซนยกตัวอย่าง บริษัทน้ำมันเจ้าหนึ่งถึงแม้จะเป็นแบรนด์จากประเทศไทย แต่น้ำมันที่ขายในกัมพูชา นำเข้ามาจากสิงคโปร์และมาเลเซีย ไม่ใช่ประเทศไทย จึงไม่จำเป็นต้องแบน

Sarath Sun นักการเมืองฝ่ายค้านของกัมพูชา ได้ออกมาโพสต์ว่า ฮุนเซนประกาศว่าการปฏิเสธการเติมน้ำมันที่ ปตท. เป็นการกระทำสุดโต่ง หมายความว่าเขาต้องการให้ประชาชนเติมน้ำมันที่ปั๊มนี้อีกครั้ง ผมเชื่อว่าหลังจากประกาศเช่นนี้ ชาวเขมรที่สนับสนุนรัฐบาลฮุนเซนก็จะเติมน้ำมันอีกครั้ง แม้ว่าบริษัทน้ำมันแห่งนี้จะเป็นผู้บริจาคเงินให้กองทัพสยามที่ต่อสู้กับกัมพูชาก็ตาม เพราะชาวเขมรบางคนรักประชาชนมากกว่ารักประเทศชาติ

จากนั้น Sarath Sun ได้โพสต์เมื่อ 20 พฤศจิกายน 2568 ถึงนายเตีย สยาม ที่แยกตัวออกจากปั๊ม PTT ว่า นายเตีย สยาม บุตรชายของพลเอกเตีย บันห์ ได้ซื้อแฟรนไชส์ขายน้ำมันยี่ห้อ ปตท. จากนายคงกระพัน อินทรแจ้ง เจ้าของบริษัท ปตท. ของประเทศไทย นายเตีย สยาม สามารถใช้ยี่ห้อ ปตท. ขายน้ำมันจากสิงคโปร์ ซึ่งไม่ได้มาจาก ปตท. ในประเทศไทยตามที่ฮุนเซนอ้างได้หรือไม่


ปั๊ม Peace โต้กลับ

จากนั้นนายเตีย สยามได้ออกมาโพสต์ตอบโต้ในวันเดียวกันว่า ️ถามแบบคนไม่มีปัญญาเข้าใจ หรือแค่อยากแสดงความคิดเห็น? สำหรับคนที่เข้ามาคอมเมนต์ โปรดพิจารณาให้ชัดเจน ความอดทนของผมมีจำกัด ผมจะดำเนินคดีตามกฎหมาย

ใช่ครับ ซื้อแฟรนไชส์ขายน้ำมันยี่ห้อ PTT จากคุณคงกระพัน อินทรแจ้ง เจ้าของบริษัท ปตท. แห่งประเทศไทย ซื้อสิทธิ์แค่ 1 สถานี จากทั้งหมดกว่า 200 สถานี ในอดีต และยกเลิกสัญญาเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2568 ตามขั้นตอนทางกฎหมาย มีปัญญาติดตามข่าวสารด้วย

คุณเตีย สยาม สามารถใช้ยี่ห้อ PTT ขายน้ำมันจากสิงคโปร์ที่ไม่ใช่ของ ปตท. ในประเทศไทยตามที่ในหลวงอ้างได้หรือไม่?

โง่จริงหรือขาดปัญญา 100 ครั้งกันแน่? ผมยกเลิกสัญญา ตัดอุปทาน ปัจจุบันสถานีบริการน้ำมันของ ปตท. ทั้งหมด รับน้ำมันจากบริษัทอเมริกัน ซึ่งไม่ใช่ ปตท. ถ้าอยากให้คนเกลียด ทำไมไม่ลองถาม ปตท. ว่าขายน้ำมันให้ใครดูล่ะ ไม่อยากดูถูกคน ไม่อยากสร้างข้อมูลที่ทำให้สังคมเสื่อมเสีย ความรักชาติต้องมีสติ เข้าใจความจริง ไม่เอาเปรียบคนอื่นตามใจชอบ

สะท้อนเศรษฐกิจมีปัญหา

แหล่งข่าวกล่าวว่า การที่สมเด็จฮุนเซนพูดเปิดทางไว้แบบนี้ สะท้อนถึงสภาพเศรษฐกิจภายในของกัมพูชาว่าน่าจะมีปัญหาไม่น้อย การรณรงค์แบนสินค้าไทยก็มาจากผู้นำของกัมพูชาเอง เดิมมีการผ่อนปรนช่วง 16 กรกฎาคมก่อนการปะทะห้ามแค่ผักผลไม้และเชื้อเพลิง

จากคำพูดของกรมศุลกากรบอกห้ามเฉพาะที่ประกาศไว้ ที่ไม่มีในประกาศนำเข้าได้ โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคที่กัมพูชาต้องพึ่งพาสินค้าจากประเทศไทย แค่อาจต้องเข้าไปตามช่องทางอื่นเท่านั้น

ตอนนี้ต้องขึ้นอยู่กับว่าสินค้าทดแทนจากต่างประเทศ ราคาและความพึงพอใจชาวกัมพูชารับได้หรือไม่ แพงขึ้นกว่าเดิมมากน้อยแค่ไหน ถ้าแพงขึ้นมากแล้วผู้บริโภคสู้ราคา เงินเฟ้อก็จะตามมา แต่ถ้าไม่สู้ก็จะเป็นตัวกดดันเศรษฐกิจของกัมพูชาไม่โต การจับจ่ายใช้สอยจะลดลง

ในกัมพูชายังมีอีกหลายปัจจัยลบอีกหลายด้าน เช่น ภาระหนี้สินของประชาชน ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ตลาดส่งออกปิด(ไทย) ราคาสินค้าในประเทศ ภาวะการว่างงาน สิ่งเหล่านี้จะคอยฉุดรั้งคะแนนนิยมของตัวผู้นำ

ตัดขา Peace

ขณะเดียวกันมีการตั้งข้อสังเกตุถึงสมเด็จฮุนเซนพูดว่าปั๊ม PTT ว่า น้ำมันมาจากสิงคโปร์ไม่ได้มาจากไทย จึงไม่จำเป็นต้องแบน ตรงนี้ตีความได้ว่าคนในกัมพูชายังคงเติมน้ำมันที่ปั๊ม PTT ได้ แต่อีกด้านอดีตปั๊ม PTT เดิมที่แยกตัวหลังการปะทะ เปลี่ยนเป็น Peace Petroleum Cambodia ตัวเลขเดิมคือ 35 แห่ง ตอนนี้อาจเหลือไม่ถึง 10 ราย ความคืบหน้าอาจพบได้ในบางสาขาเท่านั้น เพราะต้องลงทุนเพิ่มในเรื่องการเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ของปั๊ม

ไม่แน่ใจว่าเป้าหมายของฮุนเซนคืออะไร เพราะมีข้อมูลมาว่าปั๊มที่มีมากที่สุดในกัมพูชาคือ Kampuchea Tela คาดว่ามีคนของตระกูลฮุนถือหุ้นอยู่ไม่น้อย ไม่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งกับไทย อีกอย่าง Peace เป็นเครือข่ายของเตียบันที่ลูกชายคือพลเอกเตีย เซียฮา เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กัมพูชา

กังวลโลกออนไลน์

นอกจากนี้เริ่มมีเสียงไม่เห็นด้วยกับคำกล่าวของสมเด็จฮุนเซน บนโลกออนไลน์อยู่ไม่น้อย อย่างบน Facebook ของสำนักข่าว Fresh News ก็มีเสียงไม่เห็นด้วยกับฮุนเซนเป็นส่วนใหญ่

ถ้าสังเกตให้ดีจะพบว่าในช่วงที่เกิดความขัดแย้งกับไทย 2 ผู้นำของกัมพูชาค่อนข้างให้ความสำคัญกับเสียงท้วงติงบนโลกออนไลน์มาก มีการออกมาโพสต์ตอบเสียงวิพากษ์วิจารณ์หลายครั้ง หรือแม้กระทั่งห้ามถามเรื่องจำนวนผู้เสียชีวิตและการเสียดินแดน

เชื่อว่าเสียงไม่เห็นด้วยกับ 2 ผู้นำน่าจะมากขึ้นเรื่อย ๆ เพียงแต่อำนาจและเครือข่ายที่มีอยู่ยังเข้มแข็งพอที่จะสยบความไม่พอใจของประชาชนชาวเขมรได้

ข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่


Facebook :https://www.facebook.com/SpecialScoopManagerOnline/
Instragram :https://instagram.com/special.scoop.mgronline
Tiktok :https://vt.tiktok.com/ZSe4j

กำลังโหลดความคิดเห็น