แม่ฮ่องสอน - ผลแลบออกแล้ว ยืนยันชัด..พบสารปนเปื้อนลำน้ำสาละวิน ทั้งสารหนู-ปรอท เกินค่ามาตรฐานทุกจุดตั้งแต่แม่สะเรียง-สบเมย คพ.เร่งทำความเข้าใจชาวบ้านคนใช้น้ำ พร้อมหาแหล่งน้ำใหม่-แจ้ง กต.ประสานเมียนมาให้ตรวจสอบต้นตอของสารพิษ
หลังจากทีมเจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อม (สคพ.1) สำนักงานสิ่งแวดล้อมเเละควบคุมมลพิษที่ 1 เชียงใหม่ ล่องเรือเก็บตัวอย่างน้ำสาละวิน จำนวน 13 จุด ตั้งแต่ชายแดนไทย-เมียนมา ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน จนถึง บ้านสบเมย ม.4 ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน การเก็บตัวอย่างน้ำ ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 12 – 13 พฤศจิกายน 2568 โดยวิธีการเก็บตัวอย่างและตรวจวิเคราะห์ด้วยวิธีตามประกาศกรมควบคุมมลพิษและ standard methods for the examination of water and wastewater
และแบ่งตัวอย่างเดียวกันตรวจด้วย Test kit Innovative Instrument Co., Ltd. เช่นเดียวกับที่ศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เคยตรวจมาก่อนหน้านี้ และตรวจ ICP-OES จาก ห้องแลบ (Lab Connection) Lab Connection Co., Ltd.
ล่าสุดผลการตรวจสอบ คุณภาพน้ำในแม่น้ำสาละวิน พบว่า เจอสารอันตราย 2 ตัว คือ "สารหนู" และ "สารปรอท" ในปริมาณที่เกินเกณฑ์ความปลอดภัย โดยสารหนู (Arsenic - As): พบค่าเกินมาตรฐาน (0.01 ppm) ในเกือบทุกจุดตรวจวัด (ค่าที่วัดได้อยู่ในช่วง 0.0195 - 0.0321 ppm) สารปรอท (Mercury - Hg): พบค่าเกินมาตรฐาน (0.002 ppm) ในทุกจุดตรวจวัด (ค่าที่วัดได้อยู่ในช่วง 0.0026 - 0.0063 ppm) ส่วนลำน้ำสาขา จำนวน 5 จุด คุณภาพน้ำเป็นไปตามค่ามาตรฐาน
สำหรับแนวทางการดำเนินงานในขั้นต่อไปนั้น ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะทำหนังสือด่วนที่สุดแจ้งกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อประสานแจ้งผลต่อประเทศเมียนมา และขอให้เมียนมาตรวจสอบคุณภาพน้ำและแหล่งกำเนิดมลพิษ
ส่วน กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) จะลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับประชาชน เรื่องการใช้น้ำกินน้ำใช้ในชีวิตประจำวันและวิธีการปรับปรุงคุณภาพน้ำเบื้องต้นอย่างง่าย ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ใช้น้ำประปาภูเขา และได้ตรวจน้ำประปาภูเขาแล้วว่าไม่พบสารหนูแต่อย่างใด
แต่มี 4 ครอบครัวที่อาศัยอยู่ในแพริมน้ำ และใช้น้ำโดยตรงจากแม่น้ำสาละวิน เจ้าหน้าที่ คพ. ได้แนะนำวิธีการปรับปรุงคุณภาพน้ำเบื้องต้น เมื่อครั้งลงพื้นที่ช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมาแล้ว และ ทาง คพ.จะตรวจสอบคุณภาพน้ำและแจ้งประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง
สำหรับผลการวิเคราะห์การปนเปื้อนในปลาและพืช ปัจจุบันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเก็บตัวอย่างแล้ว และอยู่ระหว่างรอผลการวิเคราะห์
ทั้งนี้ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) จะส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่พูดคุยกับชาวบ้านต่อไปอีกครั้งในอาทิตย์หน้า โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะเร่งหาแหล่งน้ำทางเลือก ทั้งหรับอุปโภคและการเกษตร ไม่ว่าจะเป็นแหล่งน้ำผิวดินหรือน้ำบาดาล ซึ่งกรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้ดำเนินการสำรวจเบื้องต้น 3 จุด ประกอบไปด้วย บริเวณบ้านแม่สามแลบ บ้านพะละอึ และบ้านสบเมย และมีแผนจะเจาะบ่อบาดาล หรือหาแหล่งน้ำอื่น เพื่อบรรเทาผลกระทบให้ชุมชนต่อไป

