รฟท.เปิดรับฟังความคิดเห็น ทบทวน การศึกษา “รถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้ม วงเวียนใหญ่ – มหาชัย” เปิด 5 แนวเส้นทางเลือก ทั้งใช้เขตทางเดิมและเบี่ยงเข้าถนนเอกชัย ประชาชนกังวลเวนคืน ผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากก่อสร้าง คาดสรุปปี 69 เสนอครม.ปี 70
เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 68 การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน โครงการทบทวนผลการศึกษาความเหมาะสม แบบรายละเอียด จัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม และจัดทำร่างเอกสารประกวดราคา โครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้ม ช่วงวงเวียนใหญ่ – มหาชัย ครั้งที่ 1 (ปฐมนิเทศโครงการ) ณ ห้องประชุม XQ04AB อาคารเคเอกซ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีแทนจากหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม สื่อมวลชน ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมการประชุมกว่า 100 คน และวันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 ได้จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร ที่โรงแรมเซ็นทรัลเพลส ตำบลมหาชัย อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อสร้างการรับรู้และสร้างการมีส่วนร่วมจากประชาชนในชุมชนต่าง ๆ ให้ครอบคลุมตลอดแนวโครงการ ซึ่งมีผู้แทนจากหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมการเป็นจำนวนมาก
นายอรรถพล เก่าประเสริฐ วิศวกรใหญ่ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า โครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้ม ช่วงวงเวียนใหญ่ – มหาชัย เป็นส่วนหนึ่งในโครงการระบบรถไฟชานเมือง (สายสีแดง) ซึ่งสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ได้เคยดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการพัฒนาศูนย์คมนาคมขนส่งตากสิน และทางรถไฟสายแม่กลองไว้เมื่อปี 2549 โดยปัจจุบัน สภาพภูมิประเทศทางกายภาพได้เปลี่ยนแปลงไป จึงจำเป็นต้องมีการทบทวนผลการศึกษา ทั้งในด้านความเหมาะสม รูปแบบโครงการ และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น เพื่อนำไปใช้ประกอบการขออนุมัติดำเนินโครงการฯ สามารถพัฒนาโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนระบบรางเป็นไปตามแผนแม่บทการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนระบบรางในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลได้ต่อไป
โดยหลังจากการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเสร็จเรียบร้อยแล้ว จากนั้น จะรวบรวมข้อมูล เพื่อนำไปศึกษาและขออนุมัติก่อสร้างโครงการได้ประมาณปี 2570 และคาดว่าจะสามารถนำเสนอ ครม. อนุมัติโครงการในปี 2571
“การประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งนี้ เป็นการนำเสนอข้อมูลโครงการฯ รวมถึงแผนการดำเนินงาน แนวคิดการออกแบบรูปแบบโครงการ แนวทางการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม และการดำเนินงานด้านการมีส่วนร่วมของภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆ ซึ่งการรถไฟฯ จะรวบรวมข้อมูลนำไปเป็นแนวทางในพัฒนาปรับปรุงโครงการ”
ทั้งนี้ เบื้องต้นได้ทำการสำรวจแนวเส้นทางเลือกในการศึกษาโครงการไว้ทั้งหมด 5 ทางเลือก โดยมี 4 ทางเลือกที่จะทำการพิจารณาจากการวางแนวเส้นทางตามข้อเสนอในผลการศึกษาความเหมาะสมเดิมของสำนักงานนโยบายและแผนการจราจรและการขนส่ง (สนข.) เป็นหลัก ซึ่งเป็นข้อเสนอตั้งแต่ ปี 2549
@เผย 4 แนวทาง วางตามเส้นทางรถไฟเดิม จะปรับช่วงปลายทาง
อย่างไรก็ตาม สภาพปัจจุบัน มีความเปลี่ยนแปลงทั้งในด้านการใช้พื้นที่และมีสิ่งปลูกสร้างใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นภายหลังบนแนวเส้นทางเดิมที่ออกแบบไว้ ดังนั้น จึงมีการปรับแนวเส้นทางจากผลการศึกษาเดิม โดยเฉพาะในช่วงปลายแนวเส้นทาง ซึ่งไม่ได้อยู่ในเขตทางของการรถไฟฯ อีก 1 ทางเลือก เป็นการพิจารณาข้อเสนอแนวเส้นทางตามแผนรายงานการศึกษาของกรมการขนส่งทางราง (ขร.) ปี 2566 ซึ่งเลือกการวางแนวตาม ถนนเอกชัย โดยมีรายละเอียด ดังนี้
แนวเส้นทางเลือกที่ 1 เป็นแนวเส้นทางใต้ดิน ช่วงหัวลำโพง - วงเวียนใหญ่ ตัดผ่านแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณศูนย์การค้าริเวอร์ซิตี้ ตัดเส้นทางรถไฟสายสีทอง ตัดผ่านแยกคลองสาน หลังจากนั้นปรับเป็น
ทางยกระดับที่ถนนลาดหญ้า หลังจากนั้นวางตัวตามแนวเส้นทางรถไฟสายแม่กลองเดิม ตัดผ่านเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ทางแยกบริเวณอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ช่วงวงเวียนใหญ่-มหาชัย
เป็นทางยกระดับผ่านย่านการค้าและแหล่งชุมชนหนาแน่น เช่น ตลาดพลู สำเหร่ ตัดผ่านถนนรัชดาภิเษก ตัดผ่านเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม ผ่านถนนกาญจนาภิเษก และผ่านถนนพระราม 2 (ทล.35) ระยะทางประมาณ 37.3 กิโลเมตร (ยกเลิกทางรถไฟปัจจุบัน)
ข้อเด่นของแนวเส้นทางเลือก
-แนวเส้นทางกว่า 75 % อยู่ในเขตสิทธิ์ทางเดิมของ การรถไฟฯ ทําให้ลดพื้นที่เวนคืนลง
-ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการตรวจการจ้างฯ และคณะกรรมการกํากับซึ่ง สนข. ดําเนินการมาแล้ว
-ตําแหน่งสถานีปลายทางอยู่ใกล้พื้นที่เปิดโล่ง บริเวณฝั่งตรงข้ามของแม่น้ําท่าจีน การออกแบบวางแนวต่อเชื่อมในอนาคต สามารถทําได้โดยง่าย
ข้อควรพิจารณาของแนวเส้นทางเลือก
-แนวเส้นทางช่วงปลายทางมีการพาดผ่านแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ เป็นระยะกว่า 3 กิโลเมตร และ จุดสิ้นสุดแนวเส้นทางเลือก ปัจจุบันเป็น ศูนย์การค้า Big C มหาชัย ความยุ่งยากในการเวนคืนจะ ส่งผลกระทบต่อความสําเร็จของโครงการก่อสร้าง
-แนวเส้นทางตัดผ่าน ถนนพระราม 2 ทําให้การก่อสร้างทางวิ่งช่วงนี้ต้องก่อสร้างเป็นทางยกระดับ เสาสูง อยู่ระดับ 3 หรือ 4 ซึ่งมีมูลค่าการก่อสร้างสูงมาก
-แนวเส้นทางนี้มีระยะทางยาวที่สุด แต่มีจํานวนสถานีน้อยที่สุด โดยเปรียบเทียบ
แนวเส้นทางเลือกที่ 2 เป็นแนวเส้นทางใต้ดิน ช่วงหัวลำโพง-วงเวียนใหญ่ เป็นแนวเดียวกันกับแนวเส้นทางเลือกที่ 1 แต่แนวเส้นทางเลือกที่ 2 มีการปรับแนวต่างออกไป โดยทางยกระดับหลังกิโลเมตรที่ 32 แนวเส้นทางจะไม่เบี่ยงไปทางถนนพระราม 2 แต่จะตรงต่อไปผ่านสถานีบ้านขอม และนิคมรถไฟมหาชัย ไปสิ้นสุดทางวิ่งที่สถานีมหาชัยเดิม ระยะทางประมาณ 35.9 กิโลเมตร (ยกเลิกทางรถไฟปัจจุบัน)
ข้อเด่นของแนวเส้นทางเลือก
-แนวเส้นทางกว่า 90 % อยู่ในเขตสิทธิ์ทางเดิมของ การรถไฟฯ ทําให้ลดพื้นที่เวนคืนลง
-ข้อเสนอแนวเส้นทางเลือกที่ 2 สามารถดําเนินการด้านการจัดการพื้นที่เวนคืนได้ง่ายที่สุดโดยเฉพาะ ช่วง วงวียนใหญ่ - มหาชัย
-ผู้โดยสารมีความคุ้นเคยกับการเข้าใช้บริการได้โดยง่าย
-ระยะทางของแนวเส้นทางเลือกที่ 2 สั้นที่สุด และมูลค่าการก่อสร้างโดยรวมน่าจะน้อยกว่าทางเลือกอื่นมาก
ข้อควรพิจารณาของแนวเส้นทางเลือก
-ต้องมีการเวนคืนเพ่ิมเติมบริเวณสถานี
-ตําแหน่งสถานีปลายทางอยู่ในพื้นที่แออัด การพัฒนาพื้นที่บริเวณรอบสถานีค่อนข้างยุ่งยากและมีผลต่อการพัศนาเศรษฐกิจบริเวณนี้ได้ค่อนข้างน้อย
-พื้นที่บริเวณฝั่งตรงข้ามของแม่น้ําท่าจีนเต็มไปด้วยพื้นที่อ่อนไหว (Heritage) การออกแบบวางแนวต่อเชื่อมในอนาคตไม่สามารถทําได้โดยง่าย
แนวเส้นทางเลือกที่ 3 เป็นแนวเส้นทางใต้ดิน ช่วงหัวลำโพง-วงเวียนใหญ่ ระยะทางประมาณ 36.8 กิโลเมตร เป็นแนวเดียวกันกับเส้นทางเลือกที่ 1 แต่มีการปรับช่วงปลายเส้นทาง โดยให้ทางยกระดับ
หลบเลี่ยงพื้นที่อยู่อาศัยหนาแน่น และเลี่ยงจุดตัดถนนพระราม 2 ซึ่งปัจจุบันมีทางยกระดับ โดยใช้แนวที่ไปสิ้นสุดบนถนนเอกชัย ซึ่งยังมีพื้นที่พอสำหรับการพัฒนาโครงการ และวางแนวทางรถไฟข้ามไปยังถนนเอกชัยโดยใช้ที่ดินที่ยังเป็นที่โล่ง (ยกเลิกทางรถไฟปัจจุบัน)
ข้อเด่นของแนวเส้นทางเลือก
-แนวเส้นทางกว่า 75 % อยู่ในเขตสิทธิ์ทางเดิมของการรถไฟฯ ทําให้ลดพ้ืนที่เวนคืนลง
-แนวเส้นทางไม่ตัดผ่าน ถนนพระราม 2 ทําให้สามารถลดมูลค่าในการก่อสร้างลง
-ตําแหน่งสถานีปลายทางอยู่ใกล้พื้นที่ซึ่ง สามารถออกแบบวางแนวต่อเชื่อมในอนาคตได้
-สถานีปลายทางหม่อยู่ในเขตชุมชน ใกล้ถนนสายหลัก การเข้าใช้บริการสามารถทําได้โดยง่าย
-สถานีปลายทาง (มหาชัย) อยู่ใกล้ท่าเรือข้ามฟากมากกว่าทางเลือกที่ 1 หากไม่มการก่อสร้าง
โครงการเชื่อมต่อผู้โดยสารสามารถใช้บริการ ทางรถไฟช่วงบ้านแหลม - แม่กลอง ได้สะดวกกว่า
ข้อควรพิจารณาของแนวเส้นทางเลือก
-ต้องมีการเวนคืนเพิ่มเติมบริเวณสถานี
-แนวเส้นทางที่เบี่ยงไปทางถนนเอกชัย มีรัศมีสั้น อาจจะต้องมีการลดความเร็วในการเดินรถ
แนวเส้นทางเลือกที่ 4 เป็นแนวเส้นทางใต้ดิน ช่วงหัวลำโพง-วงเวียนใหญ่ ระยะทางประมาณ 36.6 กิโลเมตร เป็นแนวเดียวกันกับแนวเส้นทางเลือกที่ 1 ช่วงวงเวียนใหญ่ - มหาชัย วางตามแนวเส้นทางเลือกที่ 3 แต่ได้มีการปรับช่วงปลายทางที่ข้ามไปยังถนนเอกชัยให้แนวเส้นทางรถไฟมีโค้งที่มีรัศมีความโค้งยาวขึ้น เพื่อให้สามารถใช้ความเร็วในการเดินรถมากขึ้นกว่าแนวเส้นทางเลือกที่ 3 (ยกเลิกทางรถไฟปัจจุบัน)
ข้อเด่นของแนวเส้นทางเลือก
-พื้นที่เวนคืนน้อยและแนวเส้นทางไม่ตัดผ่านถนนพระราม2
-ตําแหน่งสถานีปลายทางมีผลประโยชน์เหมือนทางเลือกท่ี 3 ทุกประการ
-โค้งทางเบี่ยงเข้าถนนเอกชัยมีการออกแบบที่ราบรื่นขึ้น สามารถใช้ความเร็วได้
ข้อควรพิจารณาของแนวเส้นทางเลือก
-แนวเส้นทางที่เบี่ยงไปทาง ถนนเอกชัย มีพื้นที่พักอาศัยสร้างผลกระทบมากกว่าทางเลือกที่ 3
@เพิ่มแนวที่ 5 ปรับแนวใหม่ เบี่ยงตามถนนเอกชัย
แนวเส้นทางเลือกที่ 5 เป็นแนวเส้นทางใต้ดิน ช่วงหัวลำโพง-วงเวียนใหญ่ ระยะทางประมาณ 36.3 กิโลเมตร เป็นแนวเดียวกันกับแนวเส้นทางเลือกที่ 1 จนผ่านแยกคลองสาน หลังจากนั้น จะเบี่ยงออกจากแนวของทางเลือก 1-4 หลังกิโลเมตรที่ 8.7 แนวเส้นทางจะตรงไปวางแนวบนถนนเอกชัยตลอดเส้นทาง ซึ่งเป็นแนวตามงานศึกษาเพื่อพัฒนาแบบบจำลองการคาดการณ์ความต้องการเดินทางด้วยระบบราง และการพัฒนาโครงข่าย ระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ระยะที่ 2 หรือ M-Map 2 blueprint โดยไปสิ้นสุดที่สถานีมหาชัยใหม่ ตำแหน่งเดียวกับแนวเส้นทางเลือกที่ 3 และ 4 (ไม่ยกเลิกทางรถไฟปัจจุบัน)
ข้อเด่นของแนวเส้นทางเลือก
-แนวเส้นทางส่วนใหญ่อยู่ในเขตสิทธิ์ทางเดิมของหน่วยงานรัฐ หากไม่ติดปัญหาในการขออนุญาต จะทําให้พื้นที่เวนคืนน้อยกว่าทางเลือกที่ 1-4
-ข้อเสนอแนวเส้นทางเลือกที่ 5 ได้เคยมีการดําเนินการศึกษามาแล้วโดยกรมการขนส่งทางราง (ขร.) ในงานศึกษาเพื่อพัฒนาแบบจําลองการคาดการณ์ความต้องการเดินทางด้วยระบบราง และ การพัฒนาโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (พื้นที่ ต่อเนื่อง) ระยะที่ 2
-แนวเส้นทางรถไฟส่วนใหญ่อยู่บนถนนเอกชัยซึ่งเป็นถนนสายหลักในการสัญจรของประชาชนใน บริเวณ การพัฒนาการพื้นที่และการเข้าถึงสถานี ทําได้ค่อนข้างง่าย และมีงบประมาณน้อยกว่า ทางเลือกอื่น ๆ
-ตําแหน่งสถานีปลายทางอยู่ใกล้พื้นที่ซึ่ง สามารถออกแบบวางแนวต่อเชื่อมในอนาคตได้
-สถานีปลายทางใหม่อยู่ในเขตชุมชน ใกล้ถนนสายหลัก การเข้าใช้บริการสามารถทําได้โดยง่าย
-สถานีปลายทาง (มหาชัย) อยู่ใกล้ท่าเรือข้ามฟากมากกว่าทางเลือกที่ 1 หากไม่มการก่อสร้าง
โครงการเชื่อมต่อ ผู้โดยสารสามารถใช้บริการ ทางรถไฟช่วงบ้านแหลม - แม่กลอง ได้สะดวกกว่า
ข้อควรพิจารณาของแนวเส้นทางเลือก
-แนวเส้นทางช่วงที่เบี่ยงเข้าถนนเอกชัยมีต้องมีการเวนคืนพื้นที่เพื่อก่อสร้างในเขตชุมชนหนาแน่น ปานกลาง และมีแนวกระทบกับอาคารของวัดราชโอรส
-แนวเส้นทางโครงการถูกออกแบบให้วางบนถนนเอกชัย ซึ่งขนาดช่องจราจรไม่เท่ากันตลอดทั้ง สายทาง มีทั้งช่วงที่แคบ คือมีเพียง 4 ช่องจราจร และช่วงที่กว้างถึง 8 ช่องจราจร อาจต้องมีการ เวนคืนพื้นที่เพิ่มเติมอยู่พอสมควร
-การดําเนินการก่อสร้างโครงการรถไฟบนพื้นที่ถนนสายหลักที่มีการสัญจรมาก และมีพื้นที่ชุมชน อยู่อาศัย รวมถึงพื้นที่เศรษฐกิจข้างถนน ตลอดสายทาง จะสร้างผลกระทบต่อชุมชน และสังคมใน บริเวณนี้ค่อนข้างมาก หากจะดําเนินการโครงการ ตามแนวทางเลือกนี้จะต้องมีข้อเสนอในการ ดําเนินการเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบมากเกินไปและการก่อสร้างล่าช้าจนเกินไป
อย่างไรก็ตาม ประชาชนยังมีความเห็นหลากหลาย ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย นอกจากนี้ ยังมีความกังวลผลกระทบเรื่องการเวนคืน ผลกระทบทางเสียงและมบพิษในระหว่างก่อสร้าง เนื่องจากเส้นทางช่วงที่ผ่านชุมชนหนาแน่น นอกจากนี้ ยังมีบางส่วนเห็นว่า รฟท.ควรพัฒนาปรับปรุงเส้นทางรถไฟสายวงเวียนใหญ่-มหาชัย ที่มีอยู่เดิม และยกระดับบริการเป็นรถไฟที่มีความสะอาด และทันสมัยก่อน
สำหรับรถไฟสายวงเวียนใหญ่-มหาชัย มีสถิติจำนวนผู้โดยสาร ย้อนไปเมื่อปี 2561 มีประมาณ 3.5 ล้านคน ต่อมาหลังเกิดโควิด-19 ในปี 2565 จำนวน 1.6 ล้านคน ปี 2566 จำนวน 2.5 ล้านคน และปี 2567 จำนวน 2.7 ล้านคน
ทั้งนี้ โครงการทบทวนผลการศึกษาความเหมาะสม แบบรายละเอียด จัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม และจัดทำร่างเอกสารประกวดราคา โครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้ม ช่วงวงเวียนใหญ่ – มหาชัย รฟท.ว่าจ้าง บริษัท เทสโก้ จำกัด , บริษัท เอ็มเอชพีเอ็ม จำกัด ,บริษัท เอ็ม เอ เอ คอนซัลแตนท์ จำกัด ,บริษัท ดีเคด คอนซัลแต้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษา เริ่มงาน 30 พ.ค. 2568- 22 ส.ค. 2569 รวมระยะเวลาศึกษา 450 วัน

