นครศรีธรรมราช - สถานการณ์น้ำท่วมเข้าขั้นวิกฤต หลังฝนตกหนักต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 น้ำป่าจากเทือกเขาหลวงหลากเข้าท่วมในหลายอำเภอ ทั้งลานสกา ท่าศาลา และสิชล เส้นทางคมนาคมหลายจุดถูกตัดขาด เจ้าหน้าที่เร่งระดมกำลังอพยพกลุ่มเปราะบาง 25 ชีวิตออกจากพื้นที่เสี่ยง ล่าสุดพบผู้เสียชีวิตแล้ว 1 รายหลังจมน้ำที่ อ.สิชล ขณะที่มวลน้ำก้อนใหญ่จากต้นน้ำท่าดีกำลังมุ่งหน้าเข้าสู่เขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช
วันนี้ (20 พ.ย.) สถานการณ์ฝนตกอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราชเข้าสู่วันที่ 3 แล้ว หลายพื้นที่ประสบภาวะอุทกภัยและขยายวงกว้าง จากอิทธิพลของน้ำป่าไหลหลากตลอดแนวเทือกเขาหลวงในหลายอำเภอของ จ.นครศรีธรรมราช เช่น ที่ต้นน้ำท่าดี บ้านคีรีวง ต.กำโลน อ.ลานสกา มีระดับน้ำป่าหลากอย่างต่อเนื่อง โดยในพื้นที่ป่าเขามีฝนตกหนักสลับเบาทำให้ระดับน้ำหลากจากต้นน้ำเปลี่ยนแปลงไปตามความรุนแรงของปริมาณฝน
ความรุนแรงของน้ำป่าได้ตัดเส้นทางเชื่อมระหว่างสองฝั่งของ ต.กำโลนเสียหายทั้งหมด และอีกหลายจุดในชุมชนใน ต.ท่าดี อ.ลานสกา มีน้ำท่วมสูงในพื้นที่เกษตรกรรรมและเส้นทางเชื่อมระหว่างชุมชน โดยมวลน้ำในต้นน้ำท่าดีแห่งนี้ส่งผลกระทบต่อเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราชก่อนที่จะไหลลงสู่อ่าวไทย
ทั้งนี้ ที่บ้านเขา ม.5 ต.ตลิ่งชัน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ฝ่ายท้องที่ท้องถิ่นและหน่วยกู้ภัยสยามท่าศาลาได้นำกำลังพร้อมเรือเข้าอพยพชาวบ้านจำนวน 25 รายเป็นกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะเด็ก สตรี และคนชรา ออกจากพื้นที่ชุมชนชั้นใน หลังจากน้ำป่าหลากอย่างต่อเนื่อง ระดับน้ำท่วมสูง ทั้งหมดถูกนำไปพักอยู่ในที่ปลอดภัยที่ถูกจัดไว้ให้
และเมื่อย่ำรุ่งที่ผ่านมา หน่วยกู้ภัยเพชรเกษม อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ได้เข้าค้นหาชายอายุ 27 ปี หลังจากสูญหายไปในน้ำ เหตุเกิดบริเวณบ้านสำนักเนียน ม.3 ต.เขาน้อย อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ภายหลังเจ้าหน้าที่ได้ประดาน้ำค้นหาจนพบศพทราบชื่อคือนายอนุชา ขณะนี้ได้ส่งชันสูตรและส่งมอบให้ญาติไปดำเนินการแล้ว
ขณะที่บริเวณต้นน้ำจากธารน้ำตกพรหมโลก อ.พรหมคีรี ซึ่งเป็นต้นน้ำที่มีกระแสน้ำป่าจะไปส่งผลกระทบกับหลายตำบลของ อ.พรหมคีรี ต.โมคลาน ไทยบุรี ดอนตะโก ของ อ.ท่าศาลา และบางส่วนของ ต.นาทราย ต.ปากพูน ต.นาเคียน อ.เมืองนครศรีธรรมราช กำลังหลากอย่างรุนแรง โดยผุ้ประกอบการที่อยู่ริมธารน้ำตกต้องเร่งอพยพสิ่งของ โรงเรือนออกจากพื้นที่น้ำหลากเพื่อความปลอดภัย

