สระแก้ว-กองกำลังบูรพา ระดมกำลังดูแลความปลอดภัย-ช่วยชาวนาบ้านหนองหญ้าแก้ว เกี่ยวข้าวต่อเนื่องหลังเหตุทหารกัมพูชายิงปืนเล็กใส่ทหารไทยเมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมาทำชาวบ้านผวาไม่กล้าเข้าแปลงนาเพียงลำพัง
จากเหตุปะทะกันระหว่างทหารไทยและกัมพูชา เมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมาบริเวณชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว หลังทหารกัมพูชายิงปืนเล็กใส่ทหารไทยก่อน จนทำให้ชาวนาในพื้นที่มีความกังวลใจว่าอาจเกิดความไม่ปลอดภัยห่กต้องออกจากบ้านไปเก็บเกี่ยวข้าวในแปลงนากันเองเพียงลำพัง
เนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงใกล้ฤดูเก็บเกี่ยว ซึ่งเกษตรกรหลายรายเกรงว่าจะเกิดความเสียหายหากปล่อยข้าวให้แก่เกินไปนั้น
วันนี้ (16 พ.ย.) ร.ท.อาทิตย์ ธิยาโน หัวหน้าชุดประชาสัมพันธ์กิจการพลเรือน กองกำลังบูรพา ได้นำกำลังพลลงพื้นที่ช่วยชาวบ้านหนองหญ้าแก้วเก็บเกี่ยวผลผลิตที่อยู่ในแปลงนาแนวชายแดน และดูแลความปลอดภัยตามคำร้องขอของชาวบ้านในพื้นที่ที่ยังขวัญผวาจากเหตุทหารปะทะกันเมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา
" ลุงเก๊ะ" ชาวนาซึ่งมีไร่นาประมาณ 25 ไร่อยู่ติดหลักเขตแดนไทย–กัมพูชาหมายเลข 41–42 บอกว่ารู้สึกดีใจและตื้นตันใจมากที่ทหารลงมาช่วยเหลือ เพราะก่อนหน้านี้กังวลอย่างหนักว่าจะไม่ได้เกี่ยวข้าวหากสถานการณ์ชายแดนรุนแรงขึ้น
และยังบอกอีกว่า หลังเหตุยิงกันรถเกี่ยวข้าวหลายรายปฏิเสธเข้าพื้นที่บ้านหนองจานเพราะกลัว ทำให้ชาวนาไม่มีใครกล้าเก็บเกี่ยวข้าวกันเองเช่นกัน
“ถ้าไม่มีทหาร เข้ามาดูแลคงไม่มีใครกล้าเข้ามาเกี่ยวข้าว และหากเกี่ยวไม่ทัน ข้าวจะเสียหายมากเพราะลงทุนไปแล้วทั้งค่าปุ๋ย ค่าไถ และค่าพันธุ์ข้าว" ” ลุงเก๊ะ กล่าว
ด้าน ร.ท.อาทิตย์ บอกว่าหลังชาวบ้านประสานขอความช่วยเหลือ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ 12 ได้จัดกำลังพลมารักษาความปลอดภัยและช่วยเกี่ยวข้าว โดยเฉพาะจุดที่รถเกี่ยวเข้าไม่ถึง ขณะนี้มีชาวบ้านร้องขอเข้ามาแทบทุกวัน เนื่องจากเป็นช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยว
" จริง ๆ แล้ว ตลอดฤดูทำนา ไม่ว่าจะเป็นช่วงใส่ปุ๋ยหรือดูแลแปลง ทางหน่วยงานความมั่นคง อนุญาตให้ชาวบ้านเข้าพื้นที่ได้ตามปกติ แต่หากรู้สึกไม่สบายใจ สามารถประสานให้ทหารเข้าไปดูแลได้ตามคิว และหน่วยจะจัดสรรกำลังให้เหมาะสม"
ร.ท.อาทิตย์ ยังบอกอีกว่าสถานการณ์ในพื้นที่วันนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีความเคลื่อนไหวผิดปกติจากฝั่งกัมพูชา แม้แปลงนาจะติดกันแบบดินต่อดินและมีเพียงคันนากั้นพื้นที่เท่านั้น.

