xs
xsm
sm
md
lg

'อนุทิน' การันตีเอง สหรัฐฯไม่นำเหตุระเบิด ปะปนกับเจรจาภาษี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



หลังจากกระทรวงการต่างประเทศของไทยได้รับแจ้งจากสหรัฐอเมริกาว่าขอระงับการเจรจาเกี่ยวกับภาษีการส่งออกนำเข้าสินค้าระหว่างสองประเทศจนกว่าประเทศไทยจะเดินหน้าปฏิบัติตามปฎิญญาสันติภาพ ส่งผลให้เกิดแรงกระเพื่อมพอสมควร เพราะรัฐบาลไทยกำลังโดนทัวร์ลงอย่างหนัก ในประเด็นนี้ เมื่อเวลา 01.44 น. วันที่ 16 พ.ย. 68 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โพสต์ภาพ และข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
 
"นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมแห่งมาเลเซียซึ่งเป็นประธานของ ASEAN ด้วย ได้โทรศัพท์มาหาผมอีกครั้งเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (15/11/2025) ในเนื้อหาของการสนทนา ท่านได้แจ้งยืนยันกับผมว่า ท่านได้หารือกับนายโดนัลด์ ทรั้มป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่ได้พูดคุยกับผมแล้วก่อนหน้านี้

"ท่านประธานาธิบดีทรั้มป์มีความเห็นตรงกันกับจุดยืนของผมว่า การเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม หรือ Humanitarian demining เป็นประเด็นที่สำคัญยิ่งในปฏิญญาที่ไทยและกัมพูชาได้ลงนามร่วมกัน ท่านจึงได้ขอให้รัฐบาลไทยเร่งดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิดให้เร็วที่สุด เพราะมีความเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อชีวิตคนของทั้งสองประเทศ และประธานาธิบดีทรัมป์ได้ยืนยันฝากนายกรัฐมนตรีอันวาร์ให้มาแจ้งผมอีกครั้งว่า “สหรัฐอเมริกาจะไม่นำประเด็นการระงับปฏิญญาของไทยอันเนื่องมาจากการละเมิดเงื่อนไขของกัมพูชา มาเกี่ยวข้องกับการเจรจาภาษีการค้าระหว่างไทยและสหรัฐที่กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้”

"ผมยังได้ถามท่านนายกฯ อันวาร์ว่า ผมสามารถโพสต์ข้อความนี้ได้หรือไม่ ท่านตอบว่า โพสต์เลยอนุทิน แล้วท่านก็จะโพสต์ยืนยันจากช่องทางการสื่อสารของท่านเช่นกัน จึงขอกราบเรียนมายังพี่น้องประชาชนที่มีความห่วงใยต่อเรื่องนี้เพื่อให้รับทราบโดยทั่วกันนะครับ อนึ่งจดหมายจากผู้แทนการค้าสหรัฐที่ระบุเรื่องการหยุดเจรจากับไทย ได้ถูกพิมพ์ขึ้นก่อนที่ผมจะได้คุยโทรศัพท์กับท่านประธานาธิบดีทรั้มป์ เมื่อค่ำวันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายนครับ ดังนั้นข้อมูลของผมจึงมีความเป็นปัจจุบันมากกว่าครับ"

ขณะที่ เมื่อวันที่ 15 พ.ย. นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวเรื่องพัฒนาการล่าสุดในสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชาช่วงหนึ่งว่า รองผู้แทนการค้าของสหรัฐฯ แจ้งเข้ามาว่า ขอระงับการเจรจากรอบข้อตกลงการค้าต่างตอบแทนระหว่างไทยกับสหรัฐฯ เป็นการชั่วคราว และจะกลับมาเจรจาข้อตกลงอีกครั้ง เมื่อฝ่ายไทยให้คำมั่นว่าจะกลับเข้าสู่ Joint Declaration ไทย-กัมพูชา และหวังว่าจะสามารถหาทางออกในเรื่องนี้ได้โดยเร็ว

นายนิกรเดช กล่าวอีกว่า ไทยมีความผิดหวังกับท่าทีของผู้แทนการค้าสหรัฐฯ จากเรื่องนี้ ทั้งนี้ ไทยยืนยันมาตลอดว่า ประเด็นเรื่องความมั่นคง-ความปลอดภัย โดยเฉพาะประเด็นที่เป็นเรื่องทวิภาคีระหว่าง “ไทย-กัมพูชา” จะต้องพิจารณาแยกออกจากประเด็น “การค้า” ซึ่งก็เป็นประเด็นทวิภาคีที่เป็นผลประโยชน์ร่วมระหว่าง “ไทย-สหรัฐฯ” ซึ่งประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ย้ำกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีในการหารือทางโทรศัพท์ว่า ไม่ได้ประสงค์จะแทรกแซงการแก้ไขปัญหาของทั้ง 2 ประเทศ ตามกลไกทวิภาคีที่มีอยู่

ด้าน นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ในประเด็นนี้รัฐบาลไทยมีความผิดหวังต่อท่าที ดังกล่าว เพราะประเทศไทยยืนยันมา โดยตลอดว่า ประเด็นด้านความมั่นคงกับกัมพูชาเป็นเรื่องทวิภาคีที่ต้องพิจารณาแยกจากเรื่องการค้า ซึ่งเป็นผลประโยชน์ร่วมไทย-สหรัฐฯ ด้านประธานาธิบดีสหรัฐฯเองยังได้ย้ำในการหารือกับนายกรัฐมนตรี ว่าสหรัฐฯไม่ประสงค์แทรกแซงปัญหาไทย-กัมพูชา ตามกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ รัฐบาลยินดีที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯรับฟังด้วยความเข้าใจ และหวังว่า ท่าทีของสหรัฐฯ ในประเด็นการค้าและภาษี สามารถหารือและเจรจาต่อไปได้ โดยไม่กระทบต่อกรอบความร่วมมือสำคัญในด้านอื่นๆ ที่ทั้งสองประเทศมีมาอย่างแน่นแฟ้นและยาวนาน

“รัฐบาลขอย้ำว่าประเทศไทย จะยืนหยัดบนพื้นฐานผลประโยชน์แห่งชาติเป็นสำคัญพร้อมทั้งรักษาจุดยืนด้านความมั่นคงและอธิปไตยอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม ไทยยังพร้อมร่วมมือกับสหรัฐฯ ในประเด็นความร่วมมือด้านอื่นๆ ที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน เพื่อสนับสนุนเสถียรภาพ ความมั่นคง และการพัฒนาทางเศรษฐกิจในภูมิภาคต่อไป” นายสิริพงศ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น