โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เผยประท้วงสำนักข่าวเบอร์นามา (BERNAMA) ของมาเลเซียไปแล้ว กรณีการนำเสนอข่าวผิดพลาดเกี่ยวกับทุ่นระเบิด เตือนจะถูกผสมเรื่องเล่าที่ไม่เป็นจริง ขณะที่สำนักข่าวแสดงความเสียใจ ส่วนกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซียสัญญาจะให้ความร่วมมือ อีกด้านหนึ่งคาดว่ารายงาน AOT จะออกมาเร็วๆ นี้
วันนี้ (14 พ.ย.) นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่สำนักข่าวแห่งชาติเบอร์นามา (BERNAMA) ของมาเลเซีย และสำนักข่าวอื่นๆ หยิบนำไปเสนอต่อ มีข้อมูลที่ผิดพลาดเกี่ยวกับทุ่นระเบิด ทำให้ทหารไทยต้องพิการ ว่า กระทรวงการต่างประเทศประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงของไทยอย่างใกล้ชิด และรีบดำเนินการติดต่อสำนักข่าวดังกล่าวไปแล้วเพื่อให้แก้ไขในทันที และจะดำเนินการตามความเหมาะสมต่อไป เพราะแม้เมื่อเช้านี้จะมีการแก้ไขไปแล้ว แต่ก็ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดและผลกระทบในวงกว้าง
เกี่ยวกับเรื่องนี้ กระทรวงการต่างประเทศได้หยิบยกกรณีนี้กับกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย ซึ่งสัญญาว่าจะให้ความร่วมมือด้วยดี และต่อมาสำนักข่าวดังกล่าวได้ออกมาแสดงความเสียใจสำหรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในครั้งนี้แล้ว
ในห้วงที่สถานการณ์ไทย-กัมพูชามีความอ่อนไหวสูง ความถูกต้องของข้อมูลข่าวสารที่เผยแพร่ออกไปมีความสำคัญอย่างมาก เพื่อไม่ให้เนื้อหาดังกล่าวไปสนับสนุนเรื่องเล่าที่ไม่เป็นจริงและปราศจากการตรวจสอบที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งกำลังพยายามผลักดัน ย้ำว่ากระทรวงการต่างประเทศเป็นช่องทางที่จะให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นช่องทางที่ดีที่สุด เพื่อป้องกันการไปรับข้อมูลที่บิดเบือน ตนพร้อมตอบคำถามให้กับสื่อมวลชน เช่นเดียวกับรองโฆษกทั้งสองคน สามารถติดต่อมาที่กระทรวงฯ ได้เสมอ
ในห้วงที่สถานการณ์มีความอ่อนไหวสูงเช่นนี้ กระทรวงฯ ขอความร่วมมือประชาชนบริโภคข้อมูลข่าวสารด้วยความระมัดระวัง และมีวิจารณญาณก่อนที่จะส่งต่อไปให้บุคคลรอบข้าง ย้ำว่าหน่วยงานไทยทุกหน่วยจะทำงานร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด เพื่อผลักดันผลประโยชน์ของไทย ปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน คุ้มครองผลประโยชน์ของประชาชนชาวไทย และเสริมสร้างความเชื่อมั่นของไทยในประชาคมโลก
เมื่อถามว่า จากกรณีการนำเสนอข่าวดังกล่าว จะมีรายงานของผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) เป็นลายลักษณ์อักษรหรือไม่ นายนิกรเดช กล่าวว่า กรณีดังกล่าวมีการรายงานข่าวผิดโดยสื่อมาเลเซีย แต่ถูกอ้างถึงในหลายสื่อ เข้าใจว่าเป็นการแปลผิดในสิ่งที่ รมว.ต่างประเทศมาเลเซียพูด ซึ่งไม่ได้พูดเช่นนั้น เพราะกล่าวว่าเป็นทุ่นระเบิดใหม่ แต่กลับแปลตรงกันข้าม ซึ่งกระทรวงฯ ได้ประท้วงไปแล้ว ซึ่งเป็นผลให้สำนักข่าวดังกล่าวเขียนขอโทษและแก้ข่าวแล้ว ซึ่งกระทรวงฯ จะเรียกร้องให้สำนักข่าวดังกล่าวปรับปรุงการรายงานข่าวต่อไป ส่วนรายงานของ AOT ทราบว่ารายงานจะเสร็จเร็วๆ นี้
ก่อนหน้านี้ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า สำนักข่าวเบอร์นามาได้ตรวจสอบและยืนยันว่า เกิดความผิดพลาดในการแปลถ้อยแถลงจากภาษามลายูเป็นภาษาอังกฤษจริง และได้ทำการแก้ไขถ้อยคำในย่อหน้าที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องแล้ว โดยระบุว่า คณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนในประเทศไทยและกัมพูชา รายงานว่า "พบทุ่นระเบิดใหม่" ไม่ใช่ "ไม่พบทุ่นระเบิดใหม่" ดังที่แปลคลาดเคลื่อนก่อนหน้านี้
โดยยืนยันว่าไทยได้ตรวจสอบและพิสูจน์ทราบแล้วว่า ทุ่นระเบิดที่ทหารไทยเหยียบเมื่อวันที่ 10 พ.ย. บริเวณห้วยตามาเรีย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เป็นทุ่นระเบิดที่เกิดจากการลอบวางใหม่จากฝ่ายกัมพูชา โดยจากการพิสูจน์ทราบพบชิ้นส่วนทุ่นระเบิด PMN2 ในหลุมระเบิดและพื้นที่ใกล้เครื่อง และพบอีก 3 ทุ่น บริเวณรอบๆ หลุมระเบิด พื้นที่ดังกล่าวเป็นเส้นทางลาดตระเวนเดิมของไทย ซึ่งทหารกัมพูชาเคยรุกล้ำเข้ามาวางกำลัง จึงสรุปได้ว่า ฝ่ายกัมพูชาลักลอบเข้ามาวางทุ่นระเบิดใหม่ในเขตไทย พร้อมขอความร่วมมือว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ขอความระมัดระวังในการเผยแพร่ เพราะถ้าเกิดความผิดพลาดทำให้ไทยเสียประโยชน์ รัฐบาลไทยต้องต่อสู้ถึงที่สุด

