ท่ามกลางบรรยากาศความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา หลังเกิดเหตุเสียงดังคล้ายระเบิดในพื้นที่บ้านหนองจาน–หนองหญ้าแก้ว จังหวัดสระแก้ว จนสร้างความกังวลในหมู่ประชาชน นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ออกมาให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า รัฐบาลติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยได้เปิดช่องทางการสื่อสารกับหน่วยงานความมั่นคงตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมระบุว่า ไทยไม่มีเจตนารุกรานใคร แต่ก็จะไม่ยอมให้ใครมาคุกคามอธิปไตยของเรา รวมถึงไม่ยอมให้ประชาชนและทหารต้องประสบภัยอันตราย
นายอนุทิน กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมของฝ่ายไทยว่า แม้รัฐบาลจะหวังให้สถานการณ์สงบ แต่ก็ต้องเตรียมรบให้พร้อมสรรพตามคำสอนของบรรพบุรุษ พร้อมย้ำว่าได้ให้อำนาจทหารในการตัดสินใจตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยการสั่งการและประเมินสถานการณ์จะดำเนินผ่านสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ซึ่งจะประชุมเพื่อรับฟังรายงานความพร้อม และปรับการปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์และความเหมาะสม รวมถึงให้การสนับสนุนสิ่งที่กองทัพร้องขอ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงข้อเสนอของฝ่ายค้านที่ให้รัฐบาลโทรศัพท์พูดคุยกับผู้นำสหรัฐอเมริกาและมาเลเซีย เพื่อแจ้งสถานการณ์ก่อนที่กัมพูชาจะสื่อสารไปก่อนนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คงไม่ต้องโทรแล้ว ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนไปแล้ว 5 ครั้ง กด Play เมื่อไหร่ก็เห็นข้อความของนายกรัฐมนตรีไทยต่อเรื่องนี้ได้เลย”
ขณะเดียวกัน นายอนุทินยังตอบโต้กรณีที่นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคประชาชน ออกมาเชื่อมโยงเหตุลอบวางทุ่นระเบิดกับความพยายามเบี่ยงเบนประเด็นเรื่องสแกมเมอร์ว่า ไม่เกี่ยวข้องกัน พร้อมย้ำว่าตำรวจไทยได้ดำเนินการจับกุม ดำเนินคดี และส่งผู้ร้ายข้ามแดนแล้วหลายราย จึงขอให้เชื่อข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ใช่ข่าวลือหรือความกังวลของบุคคลใด
สำหรับคำถามว่าเหตุการณ์ชายแดนครั้งนี้อาจเป็นปัจจัยให้รัฐบาลพิจารณายกเลิก MOU 43 และ 44 หรือไม่นั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า รัฐบาลไม่มีความประสงค์จะดำเนินการต่อในทั้งสองฉบับ โดยเฉพาะ MOU 44 ที่เกี่ยวข้องกับเขตแดนทางทะเลซึ่งยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ
ส่วนกรณีที่สื่อกัมพูชานำเสนอภาพนายกรัฐมนตรีปาดน้ำตาระหว่างเยี่ยมทหารบาดเจ็บจากทุ่นระเบิด พร้อมพาดหัวว่าเป็นน้ำตาจระเข้ นายอนุทินตอบเพียงสั้น ๆ ว่า โนคอมเมนต์ ไม่ใช่น้ำตาจระเข้หรอกครับ คอยดูแล้วกัน จระเข้มันงับไปอย่าหางจุกตูดแล้วกัน