xs
xsm
sm
md
lg

จับตาพายุ 'คัลแมกี' เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ จังหวัดลุ่มเจ้าพระยาน่าวิตก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



ลุ่มเจ้าพระยาน่าห่วง เผชิญวิกฤตสองด้าน เขื่อนเจ้าพระยาเร่งระบายน้ำ ขณะที่พายุคัลแมกีเตรียมซ้ำเติมด้วยฝนตกหนัก 7-9 พฤศจิกายนนี้ ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ใกล้ชิด

ปัญหาอุทกภัยในหลายจังหวัดลุ่มเจ้าพระยายังเป็นสถานการณ์ต้องจับตากันอย่างต่อเนื่อง เมื่อพายุไต้ฝุ่น 'คัลแมกี' เคลื่อนตัวเข้าประชิดชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลาง คาดจะส่งผลให้หลายพื้นที่ของไทยเผชิญฝนตกหนักถึงหนักมากในช่วงวันที่ 7–9 พฤศจิกายนนี้ ขณะเดียวกัน บริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยายังต้องรับมือกับน้ำท่วมซ้ำซากภายหลังเขื่อนเจ้าพระยาประกาศเพิ่มการระบายน้ำอีกครั้งเพื่อรองรับมวลน้ำเหนือ

กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศ ระบุว่า อิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นคัลแมกี จะทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือ จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ในช่วงวันที่ 7–9 พฤศจิกายน ซึ่งอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งได้ในหลายจังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำและเชิงเขา

ด้าน โครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยาแจ้งว่าจะมีการเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ตั้งแต่เวลา 22.00 น. วันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ จากเดิม 2,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยจะทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนเพิ่มขึ้น ประมาณ 20–40 เซนติเมตร

สถานการณ์ในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยายังคงน่าห่วง โดยที่จังหวัดชัยนาทมีน้ำเหนือไหลลงมาต่อเนื่อง ทำให้แม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำใน อำเภอวัดสิงห์ มโนรมย์ และอำเภอเมืองชัยนาท น้ำท่วมสูงเฉลี่ย30–50 เซนติเมตร ขณะเดียวกัน จังหวัดพระนครศรีอยุธยาก็ยังเผชิญน้ำท่วมต่อเนื่อง โดยเฉพาะชุมชนริมคลองและริมแม่น้ำรอบเกาะเมือง เช่น ชุมชนหัวแหลม ตำบลท่าวาสุกรี อำเภอพระนครศรีอยุธยา หลังจากระดับน้ำลดลงไปเพียงไม่กี่วัน ล่าสุดกลับเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่เกษตรที่ยังไม่ทันฟื้นตัวจากรอบก่อน
กำลังโหลดความคิดเห็น