อธิบดีกรมศุลกากร เผย 1 ม.ค. 69 เตรียมเก็บภาษีศุลกากรนำเข้า สำหรับสินค้าจากต่างประเทศ ที่ซื้อจากแพลตฟอร์มออนไลน์ตั้งแต่บาทแรก คาดสร้างรายได้อย่างน้อย 3,000 ล้านบาท เตรียมเรียกชอปปี้และลาซาด้าหารือวิธีการ ใช้วิธีให้ส่งข้อมูลและสุ่มตรวจสอบ
วันนี้ (5 พ.ย.) นายพันธ์ทอง ลอยกุลอนันท์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า กรมศุลกากรเตรียมเก็บภาษีศุลกากรนำเข้า สำหรับสินค้านำเข้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท ที่สั่งซื้อผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ (e-Commerce) โดยจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2569 เป็นต้นไป เบื้องต้นนัดหารือกับแพลตฟอร์มรายใหญ่ 2 แห่งคือ ชอปปี้ (Shopee) กับลาซาด้า (Lazada) ในวันศุกร์ที่ 7 พ.ย. เริ่มจากช่วงแรกจะให้แพลตฟอร์มส่งรายละเอียดสินค้ามาก่อน แล้วศุลกากรจะสุ่มตรวจ
โดยหลักการจะลดมูลค่าขั้นต่ำของสินค้านำเข้าที่ได้รับการยกเว้นภาษีและพิธีการศุลกากร (de minimis) ที่จะไม่เก็บอากรศุลกากรเหลือตั้งแต่ 1 บาทแรก จากเดิมกำหนดที่ 1,500 บาท ซึ่งแนวทางนี้สามารถดำเนินการได้ โดยอำนาจของอธิบดีกรมศุลกากรโดยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ดังนั้นสามารถทำได้เลยโดยไม่ต้องแก้ไขกฎหมาย ซึ่งจะเก็บตามพิกัดอัตราศุลกากรจริงของสินค้านั้นๆ เช่น พลาสติกจะเก็บที่ 20% ขณะที่ในระยะยาวจะเก็บแบบเหมาจ่าย เช่น 20% หรือ 30% สำหรับสินค้าที่มาในรูปแบบกล่องขนาดเล็กทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวจะต้องมีการแก้ไขกฎหมายและกฎกระทรวงซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาไม่น่าจะทันระยะเวลา 4 เดือนของรัฐบาลนี้ โดยที่ผ่านมาได้เว้นการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และอากรนำเข้าสินค้าที่มูลค่าต่ำกว่า 1,500 บาท และเริ่มเก็บ VAT แล้ว แต่ตอนนี้จะเริ่มเก็บภาษีศุลกากรนำเข้าเพิ่มเติม สินค้าราคาตั้งแต่ 1 บาทเป็นต้นไป โดยเริ่มตั้งแต่ 1 ม.ค. 2569 ซึ่งนโยบายดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของบทบาทด้านสังคมและการจัดเก็บรายได้ของกรมศุลกากร
ทั้งนี้ สินค้าที่เข้ามามีจำนวนเป็นล้านชิ้นต่อปี จึงไม่สามารถทำการตรวจสอบทั้งหมด ดังนั้นจึงจะขอความร่วมมือจากแพลตฟอร์ม โดยเฉพาะแพลตฟอร์มรายใหญ่ ให้ส่งข้อมูลมาว่าในตู้คอนเทนเนอร์นั้นๆ มีสินค้าจากแพลตฟอร์มกี่ชิ้น มูลค่าเท่าไร ภาษีเท่าไร และ VAT เท่าไร โดยในระยะแรก กรมศุลกากรจะยึดข้อมูลที่แพลตฟอร์มแจ้งมาและจะมีการสุ่มตรวจสอบ
ทั้งนี้ ในปี 2567 ที่ผ่านมา สินค้าที่ราคาต่ำกว่า 1,500 บาท มีจำนวนเกือบ 200 ล้านชิ้น มีมูลค่ารวมประมาณ 30,000 ล้านบาท โดยที่ผ่านมาสามารถเก็บภาษี VAT ได้เพียง 2,000 ล้านบาท ขณะที่ส่วนใหญ่สินค้าดังกล่าวส่วนใหญ่มีอัตราภาษีเฉลี่ยที่ 10-30% ดังนั้นหากเริ่มจัดเก็บภาษีศุลกากรนำเข้า โดยคำนวนจากอัตราภาษีเฉลี่ยที่ 10% คาดว่าสร้างรายได้เข้ารัฐเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 3,000 ล้านบาท