"กินอิ่มแล้ว...บอกไม่อร่อย ขอคืน!" คำพูดที่เหมือนขวานฟันใจคนทำมาหากินสุจริต! "วศิน สิริเกียรติกุล" ออกโรงเปิดโปงพฤติกรรมสุดแสบของลูกค้าต่างชาติบางกลุ่มในอ่าวนาง จ.กระบี่ ที่เจ้าของร้านเรียกว่า "อสรพิษแห่งอ่าวนาง" ใช้มุกกินฟรี อ้างรสชาติไม่ถูกใจแต่จานว่างเปล่า ซ้ำยังโวยวายคุกคามพนักงานเพื่อกดดันให้ร้านยอมแพ้! ชี้ นี่คือการ "เหยียบย่ำศักดิ์ศรี" ของคนไทย พร้อมจี้รัฐบาลให้เร่งหามาตรการคุ้มครอง ก่อนที่ "น้ำใจ" ของคนในประเทศจะถูกใช้เป็นเครื่องมือของคนเอาเปรียบ!
เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "วศิน สิริเกียรติกุล - Wasin Sirikiattikul" ที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ และรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญช้างป่า สภาผู้แทนราษฎร เผยเรื่องราวหลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากเจ้าของร้านอาหารเล็ก ๆ ในอ่าวนาง จังหวัดกระบี่เกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกค้าต่างชาติบางกลุ่มที่ใช้กลโกงในการไม่จ่ายเงินค่าอาหาร โดย นายวศิน ได้ระบุข้อความว่า
"แดกอิ่มแล้ว…บอกไม่อร่อย ขอคืน”
คำพูดที่เหมือนขวานฟันใจคนทำมาหากิน
4 พฤศจิกายน 2568
เรื่องร้องเรียนที่ 725 เดินทางมาถึงมือ “วศิน”
จากเจ้าของร้านอาหารเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในอ่าวนาง จ.กระบี่ คำร้องทุกข์สั้นๆ… แต่ฟังเจ็บลึกบาดใจ
“พี่วศินคะ หนูขอร้องทุกข์ และฝากเตือนร้านอาหารในกระบี่ค่ะ ตอนนี้มีลูกค้าต่างชาติบางกลุ่ม ใช้มุก ‘กินแล้วไม่ถูกใจรสชาติ ขอไม่จ่ายเงิน’บางคนบอกไม่ได้กิน ทั้งที่จานว่างเปล่า…พอพูดดี ๆ กลับขึ้นเสียง ใส่อารมณ์คุกคามพนักงานเสิร์ฟ”
เสียงหัวเราะในร้าน… หายไป เหมือนไฟดับเหลือเพียงความอึดอัด กับน้ำตาของคนทำมาหากินสุจริต “พวกนี้มาช่วงร้านคนแน่น เขารู้ว่าเรายุ่ง ไม่มีเวลาต่อคำ ถ้าเราไม่ยอม เขาก็โวยวายให้ลูกค้าคนอื่นรำคาญ… แล้วเราก็ต้องแพ้”
เจ้าของร้านเรียกคนพวกนี้ว่า “พวกอสร.” อสรพิษแห่งอ่าวนาง ผู้ใช้เสียงดังแทนเหตุผล ใช้ความโวยวายแทนความถูกต้อง และใช้ “น้ำใจของคนไทย” เป็นช่องทางหาผลประโยชน์
ทุกเช้า เธอลุกขึ้นตีห้าครึ่ง เตรียมของสด ทุกคืน ปิดร้านด้วยความเหนื่อยที่ไม่เคยบ่น รายได้แต่ละบาท คือเหงื่อของคนซื่อสัตย์ แต่วันนี้กลับต้องมาถูกเหยียบย่ำด้วยความเอาเปรียบ เพราะในโลกใบนี้…“คนดีไม่ได้แพ้เพราะไม่สู้ แต่แพ้เพราะไม่อยากทำร้ายใคร”
วศินขอย้ำ — นี่ไม่ใช่เรื่องเงินไม่กี่ร้อยบาทแต่มันคือ “ศักดิ์ศรี” ของคนทำมาหากินสุจริตที่กำลังถูกย่ำยีโดยนักท่องเที่ยวบางกลุ่มที่ลืมไปว่า… ประเทศนี้มี “น้ำใจ” ไม่ได้มีไว้ให้ “เหยียบ”เรามีหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคก็จริงแต่คนหาเช้ากินค่ำที่สุจริต ก็สมควรได้รับ “การคุ้มครอง” เช่นกันถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลต้องสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ ลงมือทันทีอย่าปล่อยให้ “คนดี” ต้องจำนนต่อ “ความเอาเปรียบ” อีกต่อไป
หากใครเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้หนทางที่พอจะทำได้ตอนนี้คือ ไปแจ้งความไว้ก่อน** — เก็บหลักฐานไว้ให้ครบส่วนผม… จะเป็น “ปากและเสียง”ส่งเรื่องนี้ถึงรัฐบาล เพื่อให้เกิดแนวทางแก้ไขที่ชัดเจนใครจะ “ยืนข้างคนทำมาหากินสุจริต”ขอให้ลงชื่อใต้โพสต์นี้ได้เลยครับ เพราะศักดิ์ศรีของคนสุจริต…ไม่ควรถูกลดค่าด้วย “ความหน้าด้านของคนเอาเปรียบ”"

