อเล็กซานเดอร์ สตั๊บบ์ ประธานาธิบดีฟินแลนด์ ระบุในวันจันทร์(3พ.ย.) ว่า "ยุคสมัยใหม่แห่งอาวุธนิวเคลียร์" ได้เริ่มขึ้นแล้ว หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ แถลงแผนทดสอบนิวเคลียร์ครั้งใหม่
สตั๊บบ์บอกว่า "ตรรรกะแห่งการป้องปราม" และ "เสถียรภาพทางยุทธศาสตร์ระหว่างบรรดาชาติมหาอำนาจ" กำลังเปลี่ยนแปลงไป "เราเข้าสู่ยุคสมัยใหม่แห่งอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งเคราะห์ร้าย ความสำคัญของอาวุธนิวเคลียร์กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ" เขากล่าวในเฮลซิงกิ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แถลงว่าสหรัฐฯจะเริ่มฟื้นการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ โหมกระพือคำถามว่าเขามีเจตนาทำการทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ของประเทศ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1992 ใช่หรือไม่
ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากรัสเซียเผยว่าพวกเขาได้ทำการทดสอบขีปนาวุธร่อนพลังงานนิวเคลียร์ใหม่ "บูเรเวสต์นิก" และโดรนใต้น้ำศักยภาพติดอาวุธนิวเคลียร์
เป็นเวลานานหลายทศวรรษแล้ว เท่าที่ทราบ ไม่มีประเทศไหนยกเว้นแต่เกาหลีเหนือ ที่ทำการทดสอบด้วยการจุดชนวนระเบิดนิวเคลียร์ ขณะที่ รัสเซีย และจีน ไม่ได้ดำเนินการทดสอบลักษณะดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 1990 และ 1996 ตามลำดับ
ในวันอาทิตย์(2พ.ย.) ทรัมป์กล่าวหาประเทศต่างๆ ในนั้นรวมถึงรัสเซียและจีน ได้ทำการทดสอบนิวเคลียร์ใต้ดินแบบไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ และบอกว่าสหรัฐฯจะดำเนินการทดสอบแบบเดียวกัน
"แล้วเราจะสามารถสร้างการป้องปรามร่วมกันได้อย่างไร? แล้วเราจะสามารถควบคุมไม่ให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายได้อย่างไร" สตั๊บบ์ระบุ พร้อมบอกว่าเวลานี้มีคำถามต่างๆนานามากมายสำหรับประเทศเล็กๆอย่างฟินแลนด์ ซึ่งมีชายแดนติดกับรัสเซียเป็นระยะทางกว่า 1,340 กิโลเมตร ที่จำเป็นต้องพิจารณาหารือร่วมกับบรรดาพันธมิตร
หลังจากยึดถือแนวทางไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดทางทหารมานานหลายทศวรรษ ท้ายที่สุดแล้วในปี 2023 ฟินแลนด์ได้ตัดสินใจเข้าเป็นสมาชิกพันธมิตรทหารนาโตที่นำโดยสหรัฐฯ ตามหลังรัสเซียรุกรานยูเครน
(ที่มา:เอเอฟพี)

