xs
xsm
sm
md
lg

“หงส์ไทย” ปนเปื้อน สะเทือนยาดมสมุนไพรพันล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



เรียกว่า คนไทย สดชื่นอยู่ดีๆ จนกระทั่งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เผยผลตรวจผลิตภัณฑ์สอบยาดมสมุนไพร “หงส์ไทย สูตร 2”ว่าพบการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์หลายชนิดเกินค่ามาตรฐานที่กำหนด กระทบความเชื่อมั่นผู้บริโภค เพราะ “ยาดม” ถือเป็นไอเทมคู่กายคนไทย ถูกยกเป็น Soft Power ที่ครองใจผู้บริโภคทั่วชาวไทยและต่างชาติในห้วงเวลานี้

ทั้งนี้ ลอตที่มีปัญหาคือรุ่นที่ผลิต 000332 วันที่ผลิต 09/12/2024 วันสิ้นอายุ 08/12/2027 พบการปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ที่เจริญเติบโตโดยใช้อากาศ ยีสต์และรา และเชื้อคลอสตริเดียม (Clostridium spp.) เกินกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดข้างต้น และจากรายงานการตรวจยืนยันเชื้อพบว่า เป็นเชื้อก่อโรคคลอสทริเดียม เพอร์ฟริงเจนส์ (Clostridium perfringens)

นอกจาก หงส์ไทย สูตร 2 แล้ว ยังพบ“ยาดมสมุนไพร ตรา ฉมาเฮิร์บ”รุ่นการผลิตที่ NF 2522503001 วันที่ผลิต 03/03/2025 วันสิ้นอายุ 02/03/28 ปนเปื้อนเชื้อจุ ลินทรีย์ที่เจริญเติบโตโดยใช้อากาศ เกินกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดข้างต้นด้วย

แน่นอนว่า ถ้อยแถลงของ อย. สั่นสะเทือนธุรกิจยาดมสมุนไพรโดยเฉพาะแบรนด์ที่ปรากฎเป็นข่าวอย่างรุนแรง แม้จะอธิบายขยายความว่าพบการปนเปื้อนเพียงลอตเดียวเท่านั้น ส่วนลอตอื่นๆ อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน สามารถจัดจำหน่ายและสำหรับใช้สูดดมเติมความสดชื่นตามปกติ

ภญ.สุภัทรา บุญเสริมเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า เมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม 2568 มีการเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์เกี่ยวกับการพบเชื้อราในยาดมสมุนไพรที่เป็นอันตรายต่อปอด ทาง อย. จึงดำเนินการสุ่มเก็บตัวอย่างยาดมสมุนไพรหลากหลายยี่ห้อจากสถานที่จำหน่าย และสถานที่ผลิต ส่งตรวจวิเคราะห์ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เพื่อทดสอบการปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ ยีสต์และรา รวมถึงเชื้อก่อโรคอื่น โดยเชื้อจุลินทรีย์ รา ยีสต์ ที่ปนเปื้อนเกินปริมาณที่กำหนด อาจส่งผลต่อเสียต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่มีร่างกายอ่อนแอ ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือผู้สูงอายุ หากสูดดมอาจได้รับอันตรายจากสปอร์ของเชื้อราและคลอสทริเดียม เพอร์ฟริงเจน เช่น ติดเชื้อทางเดินหายใจ หายใจลำบาก มีเสียงหวีด อาการไอ ปวดปาก และลำคอ

ดังนั้น อย. มีคำสั่งให้บริษัทฯ งดการขายรุ่นการผลิตที่ผิดมาตรฐาน เรียกเก็บคืนสินค้าจากท้องตลาดและทำลายผลิตภัณฑ์ พร้อมสั่งระงับการผลิตเป็นการชั่วคราว จนกว่าผู้ผลิตจะสามารถสืบสวนหาสาเหตุการปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์ หาแนวทางแก้ไขเพื่อป้องกันมิให้เกิดปัญหาซ้ำ

ประเด็นที่สังคมต้องการคำตอบก็คือ กรณียาดมสมุนไพรปนเปื้อนนั้น ส่งผลต่อสุขภาพร้ายแรงถึงขั้นชื้อราลงปอดจริงหรือไม่ อย่างไร?

ในเรื่องนี้“ผศ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์”อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์อธิบายผ่านเพจ Jessada Denduangboripant ระบุว่า“มีมูลความจริง แต่ไม่ถึงขั้นต้องตระหนก”เพราะการติดเชื้อราที่ปอดจากการดมยาดมเกิดขึ้นได้ยาก ยกเว้นในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอมาก เช่น ผู้ป่วยเอชไอวีระยะลุกลาม หรือผู้ที่ได้รับยากดภูมิ

รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบบทางเดินหายใจจากโรงพยาบาลศิริราช ให้ความรู้ว่าปอดของมนุษย์มีกลไกป้องกันเชื้อรา โดยเชื้อจำนวนน้อยมักถูกกำจัดได้ แต่หากผู้ใช้มีภูมิคุ้มกันต่ำอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อราในปอดได้ ดังนั้น คนทั่วไปถือว่าความเสี่ยงต่ำมาก

ทั้งนี้ เชื้อราที่พบในยาดมสมุนไพรส่วนใหญ่เป็นชนิด “เชื้อฉวยโอกาส” เช่น Aspergillus และ Penicillium ซึ่งอาจก่อโรคได้ในบางกรณี แต่โดยทั่วไปไม่อันตรายสำหรับคนสุขภาพดี ซึ่งกรณีผลิตภัณฑ์ถูกเก็บในที่ชื้นหรือปิดไม่สนิทาาจเอื้อต่อการเจริญของเชื้อราได้ โดยผู้บริโภคควรเลือกยาดมที่มีฉลากครบถ้วน มีเลขทะเบียน อย. และไม่ควรใช้ร่วมกับผู้อื่นเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ และควรเก็บไว้ในที่แห้งและปิดฝาให้แน่นหลังใช้

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย ยาดมสมุนไพรไทยเป็นที่รู้จักในฐานะผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่ปลอดภัย เรียกว่าป็น Soft Power ที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยในตลาดต่างประเทศ นับจากนี้อาจถูกตั้งคำถามถึงมาตรฐานความปลอดภัยต่อสุขภาพมากขึ้น อีกทั้ง กระทบชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของแบรนด์อย่างเลี่ยงไม่ได้

“นายธีระพงศ์ ระบือธรรม”เจ้าของบริษัท สมุนไพร หงส์ไทย จำกัด ออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างรวดเร็ว โดยยืนยันว่าให้ความสำคัญกับมาตรฐานการผลิตมาโดยตลอด โดยทุกลอตก่อนวางจำหน่ายมีการเพาะเชื้อตรวจสอบตามเกณฑ์ 3 ตัวหลัก และที่ผ่านมาไม่เคยพบการปนเปื้อน พร้อมย้ำว่า หากพิสูจน์ได้ว่าผลิตภัณฑ์ของหงส์ไทยเป็นสาเหตุของความเสียหายต่อผู้บริโภค บริษัทพร้อมรับผิดชอบเต็มที่

“ไม่ว่าลูกค้าคนไหนใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา ถ้ามีปัญหาจากสินค้าของหงส์ไทยจริง เรารับผิดชอบ 100% ทั้งตรวจสอบ ดูแล และซัพพอร์ตเต็มที่ครับ” นายธีระพงศ์ยืนยัน

ทั้งนี้ ยาดมหงส์ไทย สูตร 2 เป็นสูตรที่ขายดีที่สุด โดยเดือนนึงสามารถผลิตได้ราว 600,000 กระปุก เป็นตัวพลิกฟื้นให้ บริษัท สมุนไพรไทย หงส์ไทย จำกัด กลับมาโกยรายได้หลังเผชิญภาวะขาดทุนหลายปี ปัจจุบันนับเป็นแบรนด์ยาดมสมุนไพรมาแรงแห่งยุค สร้างยอดขายเติบโตอย่างน่าสนใจ ในปี 2566 มีรายได้รวมกว่า 350 ล้านบาท เติบโตขึ้น 465% จากความโดดเด่นเป็นยาดมสมุนไพรหมักเจ้าแรกของไทย ส่วนผสมอาทิ กานพลู ดอกจันทน์ ดอกพิกุล ดอกบุนนาค พิมเสน และเมนทอล เป็นกลิ่นหอมสไตล์ไทยเป็นเอกลักษณ์

ข้อมูลจาก K SME ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ยาดมไทยเติบโตขึ้นเรื่อยๆ โดยประเมินว่า ปัจจุบันมูลค่าของตลาดยาดมไทยอยู่ที่ประมาณ 4,500 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้พฤติกรรมของผู้บริโภคชาวไทยโดยมีข้อมูลว่าประชากร 70 ล้านคน พบว่า 10% (7 ล้านคน) ใช้ยาดมอย่างน้อยเดือนละ 2 หลอด ประมาณการณ์ได้ว่าคนไทยใช้ยาดมรวมกันอย่างน้อย 14 ล้านหลอดต่อเดือน ซึ่งมีส่วนผลักดันให้ตลาดโอกาสเติบโต 10 - 20% ต่อปี โดยมีเหตุผลหลัก 4 ข้อ

1. คนรุ่นใหม่หันมาใช้ยาดมมากขึ้น หลังจากแบรนด์ต่างๆ มีการเปลี่ยนภาพลักษณ์ดีไซน์บรรจุภัณฑ์ให้มีความทันสมัย เพิ่มโอกาสการดึงลูกค้าคนรุ่นใหม่เปิดใจลองซื้อใช้งาน ส่งผลให้ผู้ซื้อหลักของตลาดยาดมตอนนี้ 50% อายุเฉลี่ย 30-55 ปี

2. คนใช้งานมีพฤติกรรมซื้อซ้ำบ่อย (ทำหาย/ลืมพก) โดยคนไทย 70 ล้านคน ใช้ยาดมอย่างน้อย 10% และใช้อย่างน้อย 2 ชิ้น/เดือน

3. ต่างชาติชื่นชอบ ทั้งซื้อใช้เอง และซื้อยาดมสมุนไพรไทยเป็นของฝาก จนติด 10 อันดับของฝากจากเมืองไทย พร้อมข้อมูลประจักษ์ อย่างแบรนด์อ้วยโอสถที่เผยว่า สัดส่วนยอดขายจากนักท่องเที่ยวคิดเป็น 25% ของยอดขายทั้งหมด

4. ตัวเลือกเยอะขึ้น มีแบรนด์ใหม่ และสูตรใหม่ๆ เข้ามาในตลาดอย่างเนื่อง ส่งผลให้ผู้บริโภคมีทางเลือก และผลักดันให้ตลาดโตมากขึ้น

นอกจากนี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ รายงานว่าปัจจุบันยาดมไทยดังไกลไปทั่วโลกจนกลายเป็นภาพตัวแทนของ Soft Power ไทย โดยหลายแบรนด์มียอดส่งออกไปขายต่างประเทศสูงขึ้นเรื่อยๆ อาทิ ยาดมโป๊ยเซียน ส่งออกสินค้าใน 4 ทวีป 12 ประเทศ ไม่ว่าจะเป็นทวีปเอเชีย ยุโรป แอฟริกา และอเมริกาเหนือ ซึ่งมียอดขายต่างประเทศเติบโตมากขึ้นทุกปี อย่างใน สปป.ลาว เมียนมา และญี่ปุ่น, ยาดมเป๊ปเปอร์มิ้นท์ฟิลด์ ส่งออกสินค้าไปกว่า 19 ประเทศ เช่น สหรัฐ, จีน, อังกฤษ, โรมาเนีย, เยอรมนี, มองโกเลีย, เมียนมา, สปป.ลาว, มาเลเซีย, สิงคโปร์, กัมพูชา, อินโดนีเซีย, ญี่ปุ่น, เกาหลี, ฮ่องกง, เวียดนาม และฟิลิปปินส์

ยาดมพาสเทล ส่งออกสินค้าในกลุ่มประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และผลิตสินค้าพิเศษที่จำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นโดยเฉพาะ และ ยาดมหงส์ไทย ส่งออกสินค้าแถบประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งมาเลเซีย กัมพูชา เวียดนาม ลาว ตลอดจนประเทศในเอเชีย เช่น ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ อินเดีย เกาหลี ญี่ปุ่น ไปจนถึงกลุ่มประเทศในทวีปยุโรป

จะเห็นได้ว่า ยาดมสมุนไพรไทยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาล ดังนั้น คงต้องติดอย่างใกล้ชิดว่าจะได้รับผลกระทบมากน้อยเพียงใดจากสถานการณ์ปัญหาที่เกิดขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น