xs
xsm
sm
md
lg

'คนละครึ่งพลัส' สะพัดต่อเนื่อง เดินหน้าเฟสสอง ไล่จับรับแลกเงินสด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



คนละครึ่งพลัสสุดคึกคัก วันแรกเงินสะพัดทะลุ 752 ล้านบาท รัฐบาลเตรียมเดินหน้าเฟสสองต่อทันที ขณะที่คลังผนึกกำลังตำรวจปฏิบัติการลับ ไล่จับขบวนการร้านค้าทุจริตรับแลกเป็นเงินสด รวบแล้ว 3 รายใน 3 จังหวัด

การคิกออฟโครงการคนละครึ่งพลัสวันแรกเมื่อวันที่ 29 ต.ค. ถือว่าเป็นไปด้วยความคึกคักทั่วประเทศ ซึ่งรัฐบาลหวังว่าจะมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี พร้อมกับจะเดินหน้าเฟสสองทันที หลังจากเฟสแรกประสบความสำเร็จอย่างน่าพอใจ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า ขอแสดงความยินดีกับพี่น้องประชาชนที่จะได้ใช้โครงการคนละครึ่งพลัสเป็นระยะเวลา 2 เดือน ส่วนผู้ที่ตกหล่นในเฟสแรกนั้น จะได้รับสิทธิ์ในเฟส2ด้วยอย่างแน่นอน โดยได้หารือกับนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯและรมว.การคลังแล้ว ขณะเดียวกันจะนำข้อมูลต่างๆไปแจ้งให้กับทาง รมว.การคลังทราบ อาทิปัญหาการใช้แอปพลิเคชันของผู้สูงอายุ,เครื่องมือสื่อสาร , หรือการลงทะเบียนของกลุ่มเปราะบาง เพื่อดูแลคนกลุ่มนี้ให้ทั่วถึง โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังตามหลักความยั่งยืน

นายสิริพงศ์ อังสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า โครงการคนละครึ่งพลัส ได้รับการตอบรับจากประชาชนและร้านค้าเป็นอย่างดีโดยข้อมูลการใช้จ่ายวันแรก (29 ตุลาคม 2568) ณ เวลา 15.00 น.มีผู้ใช้จ่ายผ่านโครงการคนละครึ่งพลัส สำเร็จแล้ว 3.6 ล้านราย ยอดใช้จ่ายรวมกว่า 752.25 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่ายจำนวน 379.44 ล้านบาท และเงินที่รัฐร่วมจ่ายจำนวน 372.80 ล้านบาท

ด้านนางสาวสอัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประเมินว่า โครงการนี้จะช่วยกระตุ้นยอดขายและสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในชุมชนได้จริงพร้อมขอให้รัฐบาลพิจารณาขยายโครงการต่อเนื่องไปยังเฟส2อีกด้วย ทั้งนี้ รัฐบาลคาดว่าโครงการคนละครึ่งพลัสจะสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้กว่า 88,000ล้านบาท และส่งผลให้เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.21-0.22ภายในปี 2568

ขณะที่ อีกด้านหนึ่งนายวินิจ วิเศษสุวรรณภูมิ ผู้อํานวยการสํานักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง ร่วมกับ กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ในปฏิบัติการลับ แลก ลวง สกัดขบวนการหลอกลวงสิทธิ์รัฐร้านค้า โดยตรวจพบการโพสต์เชิญชวนแลกเงิน โครงการคนละครึ่ง พลัส บนโซเชียลมีเดีย ตั้งแต่ก่อนเริ่มโครงการ รับแลกเงินโดยที่ไม่มีการซื้อขายสินค้าจริง และหักจากยอดเงิน 10-20% เบื้องต้นตรวจสอบพบ ผู้กระทําความผิด 3 ราย ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ นครสวรรค์ และอุดรธานี ซึ่งทั้ง 3 รายไม่มีความเกี่ยวข้องกัน โดย 2 ใน 3 ราย เป็นร้านค้าที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ และ 1 ราย ยังไม่ได้ลงทะเบียนร้านค้า แต่มีแอปถุงเงิน ซึ่งมี 1 ราย รับสารภาพแล้ว และอีก 1 ราย อยู่ระหว่างการสอบสวน
กำลังโหลดความคิดเห็น