รอยเตอร์ - สหรัฐฯ ลงนามข้อตกลงการค้าและแร่ธาตุสำคัญกับ 4 ชาติในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในวันอาทิตย์ (26) ในความพยายามท่ีจะแก้ปัญหาความไม่สมดุลทางการค้าและกระจายห่วงโซ่อุปทานท่ามกลางการควบคุมการส่งออกแร่ธาตุหายากที่เข้มงวดขึ้นของจีน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ที่เดินทางถึงกรุงกัวลาลัมเปอร์เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ได้ลงนามข้อตกลงการค้าต่างตอบแทนกับมาเลเซียและกัมพูชา รวมถึงข้อตกลงกรอบการค้ากับไทย ที่จะได้เห็นประเทศต่างๆ ทำงานเพื่อแก้ไขอุปสรรคด้านภาษีและที่ไม่ใช่ภาษี
คำแถลงร่วมที่เผยแพร่โดยทำเนียบขาวระบุว่าสหรัฐฯ จะยังคงอัตราภาษีศุลกากรที่ 19% สำหรับสินค้าส่งออกจากทั้ง 3 ประเทศภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว โดยจะลดภาษีลงเป็นศูนย์ให้กับสินค้าบางรายการ
วอชิงตันยังประกาศกรอบการค้าต่างตอบแทนที่คล้ายคลึงกันกับเวียดนาม ที่จัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าไปยังสหรัฐฯ ที่ 20%
เวียดนามที่มีดุลการค้าเกินดุลกับสหรัฐฯ 123,000 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว ได้ให้คำมั่นที่จะเพิ่มปริมาณการซื้อสินค้าจากสหรัฐฯ เพื่อลดช่องว่างทางการค้าระหว่างสองประเทศ
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังได้ลงนามข้อตกลง 2 ฉบับแยกกันกับไทยและมาเลเซีย ในการแสวงหาความร่วมมือเพื่อกระจายห่วงโซ่อุปทานแร่ธาตุสำคัญ ท่ามกลางการแข่งขันจากปักกิ่งในภาคส่วนที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วนี้
รอยเตอร์ได้รายงานพิเศษก่อนหน้านี้ว่าจีนกำลังเจรจากับกัวลาลัมเปอร์เกี่ยวกับการแปรรูปแร่ธาตุหายาก โดยกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของมาเลเซีย Khazanah Nasional คาดว่าจะร่วมมือกับบริษัทจีนในการสร้างโรงกลั่นในมาเลเซีย
จีน ผู้ทำเหมืองและผู้แปรรูปแร่ธาตุหายากชั้นนำของโลก ได้กำหนดมาตรการควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีการกลั่นแร่ที่เข้มงวดยิ่งขึ้น ส่งผลให้ผู้ผลิตทั่วโลกต้องเร่งหาแหล่งแร่ทางเลือกสำหรับแร่ธาตุสำคัญที่ใช้อย่างกว้างขวางในชิปเซมิคอนดักเตอร์ ยานยนต์ไฟฟ้า และอุปกรณ์ทางทหาร
มาเลเซียเห็นพ้องในวันอาทิตย์ที่จะงดเว้นหรือกำหนดโควต้าการส่งออกแร่ธาตุสำคัญหรือแร่ธาตุหายากไปยังสหรัฐฯ คำแถลงระบุ
อย่างไรก็ตาม คำแถลงไม่ได้ระบุว่าคำมั่นของมาเลเซียครอบคลุมถึงแร่ธาตุหากยากแบบดิบหรือแบบแปรรูป
มาเลเซียที่มีแหล่งแร่ธาตุหายากราว 16.1 ล้านตัน ได้สั่งห้ามส่งออกแร่ธาตุหายากเพื่อป้องกันการสูญเสียทรัพยากร ในขณะที่พยายามพัฒนาภาคส่วนปลายน้ำ
ข้อตกลงดังกล่าวลงนามหลังจากทรัมป์ได้ร่วมในพิธีลงนามหยุดยิงไทย-กัมพูชา หลังจากเกิดการปะทะกันอย่างรุนแรงบริเวณชายแดนระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้านก่อนหน้านี้
ภายใต้ข้อตกลง 4 ประเทศสมาชิกอาเซียนได้ให้คำมั่นที่จะขจัดอุปสรรคทางการค้าและให้สิทธิพิเศษในการเข้าถึงตลาดสำหรับสินค้าต่างๆ ของสหรัฐฯ
ข้อตกลงยังรวมถึงพันธกรณีในด้านการค้า บริการ และการลงทุนดิจิทัล รวมถึงคำมั่นของประเทศสมาชิกอาเซียนในการให้ความคุ้มครองสิทธิแรงงานและการเสริมสร้างการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม
ไทย มาเลเซีย และเวียดนาม ยังตกลงที่จะยอมรับยานยนต์ที่ผลิตตามมาตรฐานความปลอดภัยและการปล่อยมลพิษของยานยนต์ของสหรัฐฯ
มาเลเซีย ประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมและได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำระดับโลกด้านการรับรองอาหารฮาลาล ได้ตกลงที่จะปรับปรุงข้อกำหนดสำหรับสินค้าของสหรัฐฯ เช่น เครื่องสำอางและยา
รัฐมนตรีการค้าของมาเลเซียกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่ามาเลเซียยังได้รับการยกเว้นภาษีสำหรับอุปกรณ์การบินและอวกาศ และผลิตภัณฑ์ยา รวมถึงสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมันปาล์ม โกโก้ และยางพารา
ไทยระบุว่าจะยกเลิกอุปสรรคทางภาษีสำหรับสินค้าประมาณ 99% และผ่อนคลายข้อจำกัดการถือครองกรรมสิทธิ์ของต่างชาติสำหรับการลงทุนของสหรัฐฯ ในภาคโทรคมนาคม
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังรับทราบถึงข้อตกลงทางการค้าอีกหลายฉบับที่จะเกิดขึ้นระหว่างบริษัทไทยและสหรัฐฯ รวมถึงการจัดซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และกากถั่วเหลือง มูลค่าประมาณ 2,600 ล้านดอลลาร์ต่อปี
ไทยยังได้ให้คำมั่นที่จะจัดซื้อเครื่องบินจากสหรัฐฯ 80 ลำ มูลค่ารวม 18,800 ล้านดอลลาร์ และสินค้าด้านพลังงาน เช่น ก๊าซธรรมชาติเหลวและน้ำมันดิบ ราว 5,400 ล้านดอลลาร์ต่อปี คำแถลงระบุ.

