xs
xsm
sm
md
lg

แพทองธารแจงลาออก หน.เพื่อไทย ยกเครื่องพรรคสู้ศึกเลือกตั้ง สรวงศ์เผยมีนักร้องหวั่นยุบพรรค

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


แฟ้มภาพ
แพทองธารแจงลาออกหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตั้งใจเริ่มต้นยกเครื่องพรรคใหม่หมดหวังชนะเลือกตั้ง แต่ยังเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ด้านสรวงศ์แจงอุ๊งอิ๊งยังเป็นเสาหลัก แย้มเหตุผลลึกๆ มีคนไปร้องคดีอาญาหวั่นมีผลถึงขั้นยุบพรรค ด้านสุริยะเตรียมฟ้องหมิ่นไทกร กล่าวหาบีบให้ลาออกแลกไม่ยกทีมย้ายพรรค เผยสเปก หน.พรรคคนใหม่เป็นคนรุ่นใหม่ ไม่ใช่มาจากตระกูลชินวัตรแน่

วันนี้ (22 ต.ค.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคพรรคเพื่อไทย ได้ออกหนังสือประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ความว่า "เรียน เพื่อนสมาชิกพรรคเพื่อไทย ผู้สนับสนุนพรรค และพี่น้องประชาชนทุกคน

วันนี้ดิฉันตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ด้วยความตั้งใจว่าเป็นการเริ่มต้นยกเครื่องพรรคเพื่อไทย ตามที่ดิฉันประกาศไว้เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา ด้วยวิสัยทัศน์ใหม่ กล้าหาญในการเปลี่ยนแปลง เพื่อประชาชนอย่างแท้จริง

ปัจจุบัน เราอยู่ในยุคที่สังคมโลกเปราะบาง ซับซ้อน อ่อนไหว คาดเดาได้ยาก ประเทศไทยอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญที่สุดในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง ดังนั้นพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นพรรคการเมืองหลักของประเทศจึงจำเป็นต้องยกเครื่อง พลิกโฉม เปลี่ยนโครงสร้าง กระบวนการ และวิธีคิดใหม่ทั้งหมด เพื่อให้พรรคสามารถชนะเลือกตั้ง แล้วไปยกเครื่อง พลิกฟื้นประเทศไทยต่อไป

ดิฉันเชื่อมั่นว่า การเปลี่ยนแปลงพรรคเพื่อไทยต้องเริ่มต้นโดยเร็วที่สุด ดิฉันจึงเลือกการลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพื่อเปิดโอกาสให้พรรคยกเครื่องได้อย่างอิสระ และสร้างพรรคใหม่ที่สมบูรณ์แบบ

แม้ดิฉันลาออกในวันนี้ แต่ดิฉันยังเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย เป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และจะร่วมกับพวกเราทุกคน สร้างพรรคเพื่อไทยยุคใหม่ ที่พร้อมจะยืนเคียงข้างประชาชน และทำงานอย่างเข้มแข็งเพื่อประเทศชาติที่รักของเราทุกคน"


ด้านนายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังประชุม สส. พรรคเพื่อไทย ว่า วันนี้หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เชิญสมาชิกของพรรค มาประชุมเพื่อบอกกล่าวถึงความในใจ และเหตุผลที่จะต้องลาออกจากตำแหน่ง ยืนยันว่าทุกอย่างยังอยู่ในคอนเซปต์ยกเครื่องพรรคเพื่อไทย ยกเครื่องประเทศไทย ซึ่งทุกอย่างต้องมีการเปลี่ยนแปลง เราก็ขยับ และเตรียมพร้อมที่จะสู้ศึกเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในอนาคต ส่วน น.ส.แพทองธาร ยังคงเป็นสมาชิกพรรคอยู่ และยังมีตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย ยังคงทำงานคู่กับพรรค และยังคงเป็นเสาหลักสำคัญในการเลือกตั้งครั้งที่จะถึงนี้

ส่วนเหตุผลการลาออกนั้น นายสรวงศ์ กล่าวว่า น.ส.แพทองธาร ได้ถูกคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้พ้นจากตำแหน่งประเด็นจริยธรรม เพื่อไม่ให้เป็นเครื่องมือทางการเมืองในอนาคต และได้แสดงเจตจำนงที่จะรักษาพรรคไว้ จึงลาออกจากตำแหน่ง โดยพรรคเพื่อไทยจะมีการประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อสรรหาหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ต่อไป เชื่อว่าไม่ทำให้สถานการณ์ในพรรคแกว่ง เพราะใครจะเป็นผู้นำพรรค น.ส.แพทองธารก็พูดว่าสนับสนุนตลอด ได้ฟังเสียงประชาชนและสมาชิกพรรคว่าทุกอย่างต้องเดินหน้าต่อไป หัวหน้าพรรคก็เสียสละลาออกจากตำแหน่ง พร้อมยืนยันที่จะอยู่คู่กับพรรคต่อไป

อย่างไรก็ตาม เรื่อง สส.ย้ายพรรค นายสรวงศ์มองว่าถ้าใจอยู่ทุกคนก็อยู่ ถ้าหมดใจแล้วก็ไม่มีปัญหา ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ยืนยันว่า มีไหลออกก็ต้องไหลเข้า ทุกวันนี้ ทุกคน และกรรมการสรรหาประชุมทุกวัน มีการสัมภาษณ์คนใหม่อยู่ทุกวัน การเมืองขึ้นอยู่กับอุดมการณ์ และความตั้งใจในการทำงานมองว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลง มีออกก็เข้าไม่มีปัญหา

ส่วนที่ น.ส.แพทองธาร ไม่อยากตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองให้ใครมาใช้ คนที่จะมาใช้หมายถึงใคร นายสรวงศ์ กล่าวว่า หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ก็มีคนไปยื่นร้องคดีอาญา และมีผลกับการยุบพรรคต่างๆ ด้วย เพื่อไม่ให้เป็นประเด็น และข้อครหา เพื่อรักษาพรรคไว้ ไม่ต้องการให้ใครไปขู่ สส. และผู้สมัคร ซึ่งมีอยู่จริง มองว่า น.ส.แพทองธาร ก็ดูว่าพรรคเป็นองค์กร หากสามารถทำอะไรได้ที่จะสามารถรักษาพรรคไว้ได้ก็จะทำ

ขณะที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีที่นายไทกร พลสุวรรณ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ระบุว่า ตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจบีบให้ น.ส.แพทองธาร ลาออกจากหัวหน้าพรรคแลกกับเงื่อนไขไม่ให้พา สส.ไปอยู่พรรคอื่น เป็นข่าวเท็จ สร้างความเสียหายให้กับตน นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ หลานชาย และตระกูลจึงรุ่งเรืองกิจที่อยู่ในพรรคเพื่อไทย ปรึกษากับพรรคแล้วจะตั้งทนายความฟ้องหมิ่นประมาทเป็นคดีอาญา และจะไม่มีความไม่มีการยอมความเด็ดขาด

ทั้งนี้ ตนเองเกิดมาจากพรรคไทยรักไทย สมัยนายทักษิณ ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรค และแต่งตั้งให้ตนเป็นเลขาธิการพรรค เมื่อมาถึงพรรคเพื่อไทย น.ส.แพทองธาร ก็ได้รับความกรุณาแต่งตั้งให้เป็นรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะพา สส. ออกไปอยู่ที่อื่น จึงขอยืนยันว่าเป็นการใส่ร้ายและจะฟ้องร้องให้ถึงที่สุด ยืนยันว่าไม่ได้พา สส. 70 คนไปไหน แต่จะพา สส. เข้ามาเพื่อให้ได้ครบ 200 คน

ส่วนที่มีชื่อตนอยู่ในโผที่จะเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายสุริยะยืนยันว่าไม่ใช่ตนแน่นอน แต่คนที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคต้องเป็นคนรุ่นใหม่ ที่จะนำพาพรรคเตรียมพร้อมสู้ศึกเลือกตั้ง และไม่ใช่คนในตระกูลชินวัตรแน่นอน แต่เป็นคนที่อยู่ในพรรค เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะได้รับการยอมรับจากสมาชิกและ สส. ทุกคน คงปฏิเสธไม่ได้ว่าตระกูลชินวัตรกับพรรคเพื่อไทยจะไม่เกี่ยวข้องกัน แม้จะมีการเปลี่ยนหัวหน้าพรรค เพราะพรรคไทยรักไทย ก่อตั้งมาโดยนายทักษิณ และมีนโยบายหลายอย่างที่ก่อตั้งมาจากตระกูลชินวัตร ที่มีนายกรัฐมนตรีถึงสามคน แต่เชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งจะทำให้พรรคเพื่อไทยดีขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น