วิกฤตค้ามนุษย์และสแกมเมอร์ กำลังก่อหายนะแก่ภาพลักษณ์ของกัมพูชา ตามรายงานของคิริโพสต์ พร้อมระบุความหวาดผวาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เสี่ยงส่งผลกระทบร้ายแรงต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศ
สำนักข่าวคิริโพสต์อ้างคำสัมภาษณ์ของบุคคลรายหนึ่งที่ทำงานอยู่ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของเสียมราฐ ระบุว่า "เป็นเวลา 2-3 ปีแล้ว ที่นักท่องเที่ยวจีนและอาเซียนกลัวการมาเยือนกัมพูชา เพราะว่าศูนย์สแกมเหล่านี้ และการตายของชาวเกาหลีใต้รายหนึ่งเมื่อเร็วๆนี้ จากการถูกทรมาน เกรงว่ามันจะลามสู่นักท่องเที่ยวเกาหลีใต้เช่นกัน ขณะที่นักเดินทางญี่ปุ่นก็มีความเคลือบแคลงต่อการมาเยือนกัมพูชาไม่ต่างกัน"
"ด้วยรายงานจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และมาตรการคว่ำบาตรของอเมริกากับสหราชอาณาจักร เรามีความกังวลว่าพวกนักเดินทางจากบรรดาชาติตะวันตก อาจลังเลที่จะเดินทางมาเยือนกัมพูชาเช่นกัน มันเป็นเรื่องของเวลาเท่านั้น ก่อนที่อยูจะดำเนินการตามอย่างสหรัฐฯและสหราชอาณาจักร ในการกำหนดมาตรการคว่ำบาตร" คิริโพสต์รายงาน
Thourn Sinan ประธานบริษัท IMCT Co Ltd และสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวแปซิฟิกเอเชียของกัมพูชา สะท้อนความเห็นแบบเดียวกัน ว่าเครือข่ายสแกมออนไลน์กำลังก่อความเสียหายแก่ภาคการท่องเที่ยวของกัมพูชา พร้อมระบุเรื่องนี้ไม่อาจถูกเพิกเฉยได้อีกต่อไป "มันเป็นข่าวน่าเศร้า ในขณะที่ฝ่ายต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กระทรวงการท่องเที่ยวและเรา กำลังทำงานอย่างหนัก เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวมายังประเทศของเราเพิ่มขึ้น"
ในความเห็นเกี่ยวกับเหตุฆาตกรรมนักศึกษาชาวเกาหลีใต้ในกัมพูชา ทาง Sinan กล่าวอ้างว่าดูเหมือนฝ่ายต่างๆจะพยายามฉวยโอกาสจากประเด็นนี้ และทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่โตบนสื่อสังคมออนไลน์ เขาเชื่อว่ารัฐบาลกัมพูชาทำหน้าที่อย่างแข็งขันในการต่อสู้กับสแกมออนไลน์และขบวนการค้ามนุษย์
"ทุกหน่วยงานของรัฐบาลกำลังทำงานต่อสู้กับมัน เราต้องเข้าใจว่ามันต้องใช้เวลา แค่วันเดียวไม่เพียงพอที่จะคลี่คลายทุกๆอย่าง" เขากล่าว
ซาร์ สุขะ รัฐมนตรีมหาดไทย บอกว่าการปราบปรามในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา นำมาซึ่งการเนรเทศชาวต่างชาติมากกว่า 15,000 คน ที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการอาชญากรรมทางออนไลน์
Am Sam Ath ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการองค์กรสิทธิมนุษยชน LICADHO กล่าวว่า "สแกมออนไลน์และขบวนการค้ามนุษย์ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของกัมพูชา ตามที่เราได้เห็น หลายประเทศแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังยามที่เดินทางเยือนกัมพูชา"
เขาอ้างว่าเกาหลีใต้เป็นตัวอย่างล่าสุดของประเทศที่แจ้งเตือนพลเมืองของตนเอง พร้อมระบุผลกระทบทางลบจากกิจกรรมผิดกฎหมายต่างๆนานา เวลานี้กำลังส่งผลกระทบต่อตลาดนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี
Am Sam Ath เรียกร้องให้นักท่องเที่ยวมาเยือนกัมพูชาเหมือนเดิม เนื่องจากรัฐบาลมุ่งมั่นจัดการกับปัญหานี้ ในนั้นรวมถึงดำเนินการปราบปรามในวงกว้าง อย่างไรก็ตามเขาบอกว่าความพยายามควรเข้มข้นขึ้นและมีประสิทธิภาพมากกว่าที่เป็นอยู่ "ความพยายามต่อสู้กับสแกมออนไลน์และการค้ามนุษย์ควรต้องดำเนินการด้วยความโปร่งใส โดยปราศจากการคอรัปชัน มันควรดำเนินการภายใต้การร่วมมืออย่างเข้มแข็งระหว่างเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นกับองค์กรระหว่างประเทศ"
เมื่อเร็วๆนี้ ทางกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จัดให้กัมพูชาอยู่ใน Tier 3 หรือขั้นต่ำสุด ในรายงานการค้ามนุษย์ประจำปี หรือ Trafficking in Persons report เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน รายงานดังกล่าวระบุอย่างชัดเจนว่าความพยายามต่อต้านการค้ามนุษย์ถูกบ่อนทำลายโดยพวกเจ้าหน้าที่คอรัปชัน ที่ปกป้องพวกปฏิบัติการสแกมเมอร์ เจ้าหน้าที่เหล่านี้คอยสกัดปฏิบัติการจู่โจมของตำรวจและรับสินบนเปิดทางให้ศูนย์สแกมเมอร์ทั้งหลายดำเนินการต่อไปได้
(ที่มา:คิริโพสต์)