xs
xsm
sm
md
lg

เลือกตั้ง 29 มี.ค. ปีหน้า 'บวรศักดิ์' กางไทม์ไลน์ ธันวาคมต้องเคาะ รธน.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



รัฐสภาเปิดไทม์ไลน์เลือกตั้ง 29 มี.ค. ปีหน้า ‘บวรศักดิ์’ ชี้ธงต้องเคาะรัฐธรรมนูญ ธ.ค.นี้ – เตรียมประชามติควบคู่ประหยัดงบ


การประชุมร่วมกันของรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ จำนวน 3 ฉบับ ที่เพิ่งจบไปนั้นไฮไลต์สำคัญนอกเหนือไปจากการโหวตคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทย พร้อมกับมีมติให้เอาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคประชาชนเป็นร่างหลักในการพิจารณาในชั้นคณะกรรมาธิการแล้ว คือ การกางไทม์ไลน์การเลือกตั้งและการทำประชามติ ซึ่งเบื้องต้นมีการกำหนดการเลือกตั้งทั่วไปน่าจะเป็นวันที่ 29 มีนาคม 2569

ในเรื่องนี้มีการอธิบายกลางที่ประชุมรัฐสภาโดยนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ระบุว่า อำนาจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นของรัฐสภาโดยตรง รัฐบาลไม่สามารถเข้าไปก้าวล่วงได้ แต่ในขั้นตอนการจัดทำประชามติ กฎหมายได้กำหนดให้ประธานรัฐสภาแจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบ เพื่อหารือร่วมกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการกำหนดวันออกเสียงและคำถามที่จะใช้ในการทำประชามติ

ทั้งนี้ ไทม์ไลน์ที่รัฐบาลเสนอ พิจารณาจาก 3 กรอบหลัก ได้แก่ รัฐธรรมนูญปี 2560, พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2564 และบันทึกความเข้าใจ (MOU) ที่รัฐบาลทำกับพรรคประชาชน ซึ่งกำหนดไว้ว่านายกรัฐมนตรีจะยุบสภาภายใน 4 เดือนหลังแถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 และจะครบกำหนดในวันที่ 31 มกราคม 2569

เมื่อพิจารณาตามรัฐธรรมนูญ กำหนดให้การเลือกตั้งทั่วไปหลังยุบสภา ต้องจัดขึ้นภายใน 45 ถึง 60 วัน ซึ่งคำนวณแล้ววันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม 2569 เป็นวันที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเลือกตั้งทั่วไป ทั้งยังสอดคล้องกับแผนการเมืองตาม MOA ของรัฐบาล

นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า หากรัฐบาลต้องการประหยัดงบประมาณ เนื่องจากแต่ละครั้งที่จัดประชามติใช้เงินกว่า 6,000 ล้านบาท จึงควรจัดทำประชามติควบคู่ไปกับการเลือกตั้งในวันที่ 29 มีนาคม 2569 ซึ่งเมื่อนับถอยหลัง 90 วัน จะตกอยู่ในวันที่ 30 ธันวาคม 2568 เป็นวันสุดท้ายที่นายกรัฐมนตรีและกกต.สามารถประกาศให้มีการทำประชามติได้ ดังนั้นรัฐสภาควรลงมติร่างรัฐธรรมนูญใน วาระสามให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 ถึง วันที่ 20 ธันวาคม 2568 เพื่อให้มีเวลาอีก 20 วัน ให้ประธานรัฐสภาจัดทำสรุปสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญ และส่งให้นายกรัฐมนตรีกับกกต. เพื่อพิจารณากำหนดวันออกเสียงประชามติร่วมกัน

นายบวรศักดิ์ กล่าวอีกว่า หากระหว่างนี้พระราชบัญญัติประชามติฉบับใหม่ ซึ่งผ่านการพิจารณาของรัฐสภาแล้วและอยู่ระหว่างการโปรดเกล้าฯ มีผลใช้บังคับ จะทำให้สภามีเวลามากขึ้น โดยอาจเลื่อนการลงมติ วาระสาม ออกไปได้ถึงช่วงวันที่ 15 ถึง 19 มกราคม 2569 และให้ประธานรัฐสภาส่งร่างให้รัฐบาลภายในวันที่ 29 มกราคม เพื่อให้ทันกำหนดหารือกับกกต. ก่อนประกาศจัดทำประชามติ

“รัฐบาลไม่สามารถก้าวล่วงการพิจารณาของรัฐสภาได้ แต่จำเป็นต้องมีการประสานระหว่างรัฐบาล สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา เพื่อให้ไทม์ไลน์ทั้งหมดเป็นไปตามกฎหมาย ไม่กระทบต่อกำหนดการเลือกตั้งและประชามติ” นายบวรศักดิ์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น