xs
xsm
sm
md
lg

หายนะ “ฮุนเซน” โลกประจานดินแดนหลอกลวง !!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


เฉิน จื้อ - ฮุนเซน
จะเรียกว่า “โดน” เข้าไปเต็มๆสำหรับ กัมพูชา ภายใต้ “ระบอบฮุนเซน” ที่ล่าสุดโดนประเทศที่เคยให้การช่วยเหลือรายใหญ่ ทั้ง เกาหลีใต้ และสหรัฐอเมริกา ไล่บี้อย่างหนัก ให้จัดการกับพวก “แก๊งสแกมเมอร์” ในประเทศ แน่นอนว่านี่จะส่งผลทำให้รัฐบาลที่มี นายฮุนเซน และครอบครัวอยู่เบื้องหลัง เกิดการสั่นคลอนหนักขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในเรื่องความน่าเชื่อถือและเครดิตในสายตานานาชาติ เพราะเวลานี้กัมพูชากลายเป็นศูนย์กลางของความฉ้อฉล การหลอกลวง เป็นดินแดนที่อันตรายของโลกไปแล้ว

แม้ว่าก่อนหน้านี้เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา กัมพูชา ได้มีการเปิดฉากสาดอาวุธเข้าใส่ทหารไทยตามแนวชายแดน และทำให้ไทยต้องตอบโต้อย่างรุนแรง และหลังจากนั้นก็ได้เกิดความขัดแย้ง สร้างความโกรธ เกลียดให้กับคนไทย จนทำให้ต้องมีการปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชาตลอดแนว ตลอดมีการอพยพแรงงานกัมพูชากลับประเทศนับแสนคน การติดต่อค้าขายตามแนวชายแดน และการท่องเที่ยวมาจนถึงวันนี้ และยังไม่มีทีท่าว่าจะกลับมาเป็นปกติในเร็ววัน

ความขัดแย้งที่เกิดกับประเทศไทย มีการมองกันว่าฝ่ายกัมพูชากำลังได้รับผลกระทบอย่างหนัก เพราะส่วนใหญ่ต้องพึ่งพาไทย ไม่ว่าจะเป็นด้านสินค้าอุปโภคบริโภค นักท่องเที่ยวทั้งไทยที่มีเปอร์เซ็นต์มากที่สุด และชาติอื่นที่ต้องข้ามแดนผ่านจากไทย หรือแม้แต่ “บ่อนกาสิโน” ตามแนวชายแดนกัมพูชา นักพนันส่วนใหญ่ก็เป็นคนไทย ดังนั้นเมื่อมีการปิดด่านนั่นย่อมหมายถึงต้องขาดรายได้มหาศาล ทั้งรัฐบาล และธุรกิจสีเทา และสีดำที่เคยสนับสนุนครอบครัวฮุนเซนย่อมได้รับผลกระทบด้านรายได้อย่างหนัก จนเริ่มมีการคาดกันว่าอีกไม่นานหากสถานการณ์ความขัดแย้งไม่ดีขึ้น อาจส่งผลกระทบไปถึงขั้นเปลี่ยนการเมืองในกัมพูชาที่ “ระบอบฮุนเซน” ผูกขาดอำนาจมากว่า 30 ปี ต้องพังครืนกันเลยทีเดียว

นั่นเป็นความขัดแย้งด้านชายแดนกับไทย ที่กำลังขยายบานปลายไปเรื่องอื่น และที่ผ่านมาฝ่ายรัฐบาลฮุนเซน มักจะใช้วิธี “ฟ้องชาวโลก” ว่าตัวเอง “เป็นเหยื่อ” ถูกฝ่ายไทยที่เป็นประเทศใหญ่กว่ารังแก รวมทั้งสร้างความน่าเชื่อถือต่างๆนานา แต่ล่าสุดเมื่อเกิดกรณีนักศึกษาชาวเกาหลีใต้ถูกแก๊งสแกมเมอร์ในกัมพูชาลักพาตัวและถูกซ้อมฆ่าตายอย่างทารุณ รวมไปถึงยังมีชาวเกาหลีใต้ถูกลักพาตัว และถูกหลอกหลวงมาที่กัมพูชาอีกนับร้อยคน ทำให้รัฐบาลเกาหลีใต้ไม่พอใจอย่างมาก มีการกดดันให้รัฐบาลกัมพูชาให้ความร่วมมือปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ และจัดการปัญหาอย่างรวดเร็วและโปร่งใส

นอกเหนือจากนี้แรงกดดันเข้าใส่รัฐบาลเกาหลีกใต้เกิดจากประชาชน และสมาชิกสภาทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลต่างเรียกร้องให้รัฐบาลเกาหลีกแก้ปัญหาโดยเร็วถึงขั้นให้ส่งกำลังทหารเข้ามาช่วยเหลือชาวเกาหลีใต้ที่ถูกลักพาตัวในกัมพูชาอีกด้วย

ฝ่ายค้านเกาหลีใต้ยังเรียกร้องให้ประธานาธิบดีอี แจ มยอง ระดมทุกช่องทางด้านการทูต ในนั้นรวมถึงจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจฉุกเฉินระหว่างหน่วยงาน ส่งทูตพิเศษไปยังกัมพูชา และโทรศัพท์พูดคุยโดยตรงระหว่างผู้นำทั้ง 2 ชาติ เพื่อกระตุ้นความเคลื่อนไหวที่เป็นรูปธรรมจากฝ่ายกัมพูชา

ความเห็นของ ซอง ใกล้เคียงกับข้อเสนอของ ลี วอน-จู สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคประชาธิปไตยเกาหลี พรรครัฐบาล ซึ่งเป็นสมาชิกสภาสูงสุดของพรค โดย ลี เชื่อว่ารัฐบาลไม่ควรตัดความเป็นไปได้ของมาตรการทางทหาร หากรัฐบาลกัมพูชาล้มเหลวในการดำเนินการอย่างจริงจัง

“เราต้องโชว์ให้โลกเห็นว่าทุกคนที่ก่ออาชญากรรมหรือก่อการร้ายกับชาวเกาหลี จะถูกลงโทษในท้ายที่สุด ถ้ากัมพูชานิ่งเฉยไม่ตอบสนองใดๆ เราก็ควรพิจารณามาตรการช่วยเหลือตนเอง ในนั้นรวมถึงปฏิบัติการทางทหาร เพื่อปกป้องพลเมืองของเรา" เธอเขียนบนเฟซบุ๊ก เมื่อวันอาทิตย์(12ต.ค.)

เธอให้คำจำกัดความเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติที่ปฏิบัติการอยู่ในกัมพูชา ว่า “เสมือนเป็นมาเฟียข้ามชาติ หรือกลุ่มก่อการร้าย”และร้องขอ “ปฏิบัติการปราบปรามร่วม ภายใต้ความร่วมมือกับองค์กรระหว่างประเทศทั้งหลายและบรรดารัฐบาลชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่นเดียวกับจีนและญี่ปุ่น”

ขณะเดียวกันล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา(14 ตุลาคม) สื่อต่างประเทศ อย่าง “ฟ๊อกนิวส์” ซึ่งเป็นสื่อที่สนับสนุนประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ได้รายงานว่ารัฐบาลสหรัฐฯ และอังกฤษเมื่อวันอังคาร(14ต.ค.) แถลงปราบปรามครั้งใหญ่เครือข่ายสแกมทางไซเบอร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ล่อลวงคนหางานด้วยโฆษณาจ้างงานแบบหลอกๆ หรือหลอกให้รัก บีบบังคับให้คนเหล่านั้นหลอกล่อเอาเงินหลายพันล้านดอลลาร์จากทั่วโลก ผ่านการต้มตุ๋นต่างๆ นานา จากนั้นก็นำไปเข้าสู่กระบวนการฟอกเงิน

โดยกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ เปิดเผยว่าพวกเขาเล็งเป้าเล่นงานบุคคล 146 รายใน Prince Group กลุ่มบริษัทสัญชาติกัมพูชามูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ในนั้นรวมถึง นายเฉิน จื้อ วัย 38 ปี ทั้งนี้รายงานข่าวดังกล่าวของเรดิโอฟรีเอเชีย ได้ใช้ภาพประกอบที่นายเฉิน ถ่ายรูปคู่กับนายฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีผู้ทรงอิทธิพลของกัมพูชา และประธานวุฒิสภาในปัจจุบัน ครั้งเข้ารับบรรดาศักดิ์ออกญาเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2020

“การฉ้อโกงข้ามชาติที่เติบโตอย่างรวดเร็ว ก่อความเสียหายแก่พลเมืองชาวอเมริกาหลายพันล้านดอลลาร์ เงินเก็บทั้งชีวิตต้องมลายหายไปในพริบตา" สกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯระบุในถ้อยแถลง ทั้งนี้จากข้อมูลพบว่าแค่ปี 2024 ปีเดียว พลเมืองสหรัฐฯสูญเสียเงินให้พวกสแกมเมอร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไปกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์

เฉิน ถูกกล่าวหาสมคบคิดกับเครือข่ายฉ้อโกงและฟอกเงิน ในคำฟ้องเปิดผนึกที่ยื่นต่อศาลกลางแห่งหนึ่งในบรูคลินเมื่อวันอังคาร(14ต.ค.) สหรัฐฯ ยึดเหรียญบิตคอยน์มูลค่าราว 15,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 5 แสนล้านบาท) ที่ว่ากันว่าใช้ในปฏิบัติการฟอกเงิน และทางกระทรวงยุติธรรมอเมริการะบุในถ้อยแถลง เรียกความเคลื่อนไหวนี้ว่ามีการดำเนินคดีเพื่อริบทรัพย์สิน ครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา

แน่นอนว่า ทั้งสองกรณีดังกล่าวย่อมส่งผลกระทบอย่างรุนแรงในทุกด้านกับรัฐบาลกัมพูชา นายฮุนเซน ทั้งด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว โดยเฉพาะทางด้านภาพลักษณ์ และเครดิตต่างๆในสายตาชาวโลก ที่ทางรัฐบาลกัมพูชาพยายามปิดบัง และสร้างความน่าเชื่อถือกับทั้งโลกมาก่อนหน้านี้ต้องพังครืน ที่เห็นได้ชัดก็คือถูกทางการเกาหลีใต้ตัดความช่วยเหลือ ทันที และทำให้นักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ระงับไปเที่ยวกัมพูชา ซึ่งที่ผ่านมาความช่วยเหลือจากเกาหลีใต้ต่อกัมพูชามีปีละนับหมื่นล้านบาท รวมไปถึงนักท่องเที่ยวมีจำนวนมากเช่นกัน และเมื่อเกิดกรณีสหรัฐและสหราชอาณาจักร ได้แถลงจัดการริบทรัพย์สิน และอายัดทรัพย์สินของบริษัทของเศรษฐีกัมพูชาเชื้อสายจีน และมีความใกล้ชิดกับ นายฮุนเซน ซึ่งเป็นการยึดเหรียญประเภท “บิตคอยน์”เป็นการทรัพย์สินประเภทนี้ครั้งใหญ่ที่สุดอีกด้วย

ดังนั้น นี่คือข่าวร้ายของจริงสำหรับ “ฮุนเซน” เพราะนี่ไม่ต่างจากหายนะกำลังมาเยือน เพราะนี่คือการทำลายทั้งภาพลักษณ์ และเศรษฐกิจของประเทศครั้งใหญ่ที่สุด และหากจะต้องมีการแก้ไขจะต้องใช้เวลานานมาก ทำให้กัมพูชากลายเป็นประเทศที่ไม่มีเครดิตในสายตาชาวโลกอีกต่อไป !!
กำลังโหลดความคิดเห็น