“รมว.อว.” เดินหน้าปฏิรูปใน 4 เดือน สั่งเร่งสอบ-สางปัญหาทุจริตในมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ เน้นความโปร่งใส ตรวจสอบได้ กำชับทุกกรณีต้องมีกรอบเวลาชัดเจน พร้อมลุยเอาผิดผู้แอบอ้างโครงการ อว. ยันไม่ปล่อยปัญหาทุจริตบั่นทอนความเชื่อมั่นการศึกษาไทย
นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า ตนมีนโยบายชัดเจน ในเรื่องการตรวจสอบปัญหาทุจริตต่าง ๆ ต้องดำเนินการด้วยความโปร่งใส เป็นธรรม รวมถึงช่วยกันปราบปรามการทุจริต ต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นทั้งในอว. และในมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทั่วประเทศ ซึ่งเชื่อว่าจะมีเรื่องร้องเรียนต่าง ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง
นายสุรศักดิ์กล่าวว่า โดยจากนี้ ตนจะมอบหมายให้ นายศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดอว. เร่งรัดการสอบสอนมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ที่มีเรื่องร้องเรียน ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
“จากนี้การตรวจสอบปัญหาทุจริตต่าง ๆ ต้องมีการติดตามผล และมีกำหนดระยะเวลาการสอบสวนข้อเท็จจริงที่ชัดเจน ทั้งเรื่องการใช้งบประมาณ ที่ต้องตรงไปตามวัตถุประสงค์ โดย 4 เดือนนี้ต้องมีความชัดเจน ซึ่งเป็นข้อดีของรัฐบาลที่รู้เวลาของตัวเอง ทำให้การดำเนินงานต่าง ๆ ทั้งเรื่องการตรวจสอบทุจริต การเดินหน้านโยบายควิกวิน ซึ่งสอดรับกับนโยบายของนายอนุทิน ชาญวีรกุล นายกรัฐมนตรี ก็ต้องดำเนินการอย่างมีกรอบระยะเวลาที่ชัดเจน เพื่อการการดำเนินการเป็นไปอย่างรวดเร็ว” นายสุรศักดิ์ กล่าว
นายสุรศักดิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนความคืบหน้ากรณีสมาชิกวุฒิสภา ตั้งข้อสังเกตุกรณี สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ดำเนินการจัดซื้อและกระจายเครื่องผ่าตัดสมองด้วยรังสี หรือ Gyroscopic Radiosurgery จำนวน 10 เครื่อง ไปยังโรงเรียนแพทย์ต่างๆ ทั่วประเทศ โดยที่โรงเรียนแพทย์ไม่ได้ร้องขอนั้น ที่ผ่านมาตนได้สั่งการให้ ปลัดอว. ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง ให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน เบื้องต้นจากการสอบถามไปยังสกสว. พบว่าข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง แต่มีกลุ่มบุคคลไปแอบอ้างกับโรงเรียนแพทย์ต่างๆ ว่าเป็นโครงการของ อว. ดังนั้น ทางอว.จะดำเนินการทางกฎหมาย เพราะมีการนำตราสัญลักษณ์ของอว.ไปใช้โดยไม่มีการยินยอม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดอันดับสถาบันอุดมศึกษาของไทยในระดับโลกที่จัดอันดับโดย Times Higher Education World University Rankings (THE)นั้นพบว่าหลายสถาบันการศึกษาอยู่ในระดับมาตรฐานโลกเเละขยับอันดับขึ้นอย่างต่อเนื่อง เเต่พบว่า ยังพบการทุจริตหลายวาระที่เกิดขึ้น เช่นข่าวอดีตผู้ช่วยรมต.ให้ตำรวจคนหนึ่งเข้าเรียนเเละเข้าสอบด้านภาษาอังกฤษเเทน เเต่สถาบันการศึกษาจับทุจริตเเละลงโทษผู้กระทำผิดไปเเล้วเเละวางมาตรการป้องกันในอนาคต หรือข่าวจับกุมดำเนินคดีดร.ผู้หญิงคนหนึ่งเเละอดีตตำรวจบางคนร่วมลักข้อสอบเพื่อช่วยเหลือนิสิตคนหนึ่งให้สอบผ่าน เเต่สถาบันการศึกษานั้นกลับไม่ดำเนินการสอบข้อเท็จจริงให้สังคมรับทราบว่ามีความคืบหน้าในการดำเนินการเอาผิดกับขบวนการนี้อย่างไร เป็นต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีข้างต้นเป็นภารกิจที่รมว.อุดมศึกษาฯต้องเร่งขับเคลื่อนเเละวางมาตรการกับสถาบันการศึกษาทั่วประเทศในการป้องกันไม่ให้เหตุเเบบนี้เกิดขึ้นอีกเพราะจะส่งผลเสียกับภาพลักษณ์การศึกษา/ความโปร่งในในการปราบปรามการทุจริตของประเทศ ซึ่งรมว.อุดมศึกษาฯต้องขับเคลื่อนให้เกิดผลโดยเร็วที่สุดในข่วงสี่เดือนนี้เเละยุบสภาตามที่นายอนุทินประกาศไว้