ดาเนียล โนโบอา ประธานาธิบดีเอวาดอร์ รอดจากการได้รับบาดเจ็บ หลังขบวนรถของเขาถูกโจมตีโดยพวกผู้ประท้วงในเมืองชนบทแห่งหนึ่งเมื่อวันอังคาร(7ต.ค.) ในสิ่งที่ทางรัฐบาลประณามว่าเป็นความพยายามลอบสังหาร ตอกย้ำถึงความตึงเครียดทางการเมืองที่หนักหน่วงขึ้นในประเทศแห่งนี้
ในวิดีโอพบเห็นพวกผู้ประท้วงขว้างปาก้อนหินใส่ขบวนรถ ทำกระจกเป็นรอยร้าว กระตุ้นให้คนขับเร่งเครื่องยนต์หลบหนี รัฐบาลเปิดเผยในเวลาต่อมา ว่ามี 5 คนถูกควบคุมตัวตามหลังเหตุการณ์ดังกล่าว และมีหลักฐานว่ารถยนต์ของโนโบอา ได้รับความเสียหายจากกระสุนปืน
"ระดับความก้าวร้าวที่ขบวนคาราวานถูกโจมตี แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่ามันเป็นความพยายามลอบสังหาร และเป็นก่อการก่อการร้ายกับประธานาธิบดี" กิอาน คาร์โล ลอฟเฟรโด รัฐมนตรีกลาโหม ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นในตอนเช้าวันพุธ(8ต.ค.)
"ชัดเจนว่าเรามีพวกแกนนำการประท้วง ปลุกเร้าความเดือดดาลบนท้องถนน คนเหล่านี้เรียกร้องให้ยึดเมืองต่างๆ" รัฐมนตรีกลาโหมเอวาดอร์กล่าว
โนโบอา เจ้าพ่อธุรกิจกล้วยที่ผันตัวเข้าสู่แวดวงการเมือง ได้รับเลือกตั้งกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย จากคำสัญญาว่าจะจัดการอัตราอาชญากรรมที่เลวร้ายลงเรื่อยๆของประเทศ ขณะเดียวกันก็บังคับใช้มาตรการรีดเข็มขัด เพื่อปรับปรุงสถานะทางการเงินของภาครัฐ
บ่อยครั้งที่ประธานาธิบดีรายนี้ใช้อำนาจฉุกเฉินต่างๆนานา ในนั้นรวมถึงส่งทหารเข้าประจำการบนท้องถนน จัดการกับอัตราอาชญากรรมที่เลวร้ายของประเทศ
อย่างไรก็ตามการประท้วงในครั้งนี้ในเอวาดอร์ ปะทุขึ้นมาในช่วงกลางเดือนกันยายน หลังจาก โนโบอา ยุติโครงการอุดหนุนน้ำมันดีเซล และจากนั้นมันก็ลุกลามขยายวงออกไปเรื่อยๆ จนทำให้ประธานาธิบดีรายนี้ต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน 60 วัน ใน 10 จังหวัด จากกทั้งหมด 24 จังหวัด ทั่วประเทศ เมื่อวันอาทิตย์(5ต.ค.)
โนโบเอา บอกว่าเงินอุดหนุนน้ำมันดีเซล 1,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จะถูกโยกย้ายไปยังโครงการทางสังคมต่างๆนานา ขณะที่เหตุโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่างที่เขาเดินทางทัวร์ภูมิภาคชนบทของประเทศในวันอังคาร(7ต.ค.) เพื่อทำพิธีเปิดโครงการโครงสร้างพื้นฐานหลายโครงการ ในพื้นที่ห่างไกล
สหพันธ์ชนพื้นเมืองแห่งชาติ CONAIE ซึ่งเริ่มต้นประท้วงเมื่อ 17 วันก่อน กล่าวโทษรัฐบาลสำหรับความรุนแรงที่ปะทุขึ้นในเอล แทมโบ บริเวณที่ขบวนรถของโนโบอาถูกโจมตี โดยพวกเขาอ้างว่าหญิงชราหลายคนเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่ถูกตำรวจและทหารทำร้ายอย่างป่าเถื่อน ก่อนการเดินทางมาเยือนของประธานาธิบดี
ในเดือนกรกฏาคม เอกวาดอร์ รายงานมีเหตุฆาตกรรมเพิ่มขึ้น 40% จาก 1 ปีก่อนหน้านี้ มีผู้คนถูกสังหารกว่า 5,000 คน ในประเทศที่มีประชากรราวๆ 18 ล้านคน
ความพยายามครั้งก่อนๆของรัฐบาลในการยกเลิกอุดหนุนเชื้อเพลิง ได้โหมกระพือการประท้วงเช่นกัน และสถานการณ์ความไม่สงบรอบปัจจุบันทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 รายและบาดเจ็บหลายคน
ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนท้องถิ่นในวันพุธ(8ต.ค.) จอห์น ไรม์เบิร์ก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย บอกว่าทางกระทรวงฯได้เปิดการสืบสวนเพื่อหาข้อสรุปว่า มีความจำเป็นที่ต้องยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยในการคุ้มครองประธานาธิบดีโนโบอาหรือไม่
ไรม์เบิร์ก ยังได้พูดถึงการประท้วง โดยบอกว่ารัฐบาลจะหาทางควบคุมตัวพวกที่เกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีในวันอังคาร(8ต.ค.) เพิ่มเติม "เราจับกุมตัวได้แล้ว 5 คน แต่ไม่ได้หมายความว่ามันมีเฉพาะพวกเขา" เขากล่าว พร้อมระบุพวกเจ้าหน้าที่มีวิดีโอต่างๆที่จะช่วยระบุตัวผู้ต้องสงสัยเหล่านั้น "โลกได้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ พวกเขาต้องรับผิดชอบต่อเหตุยุ่งเหยิงและการกระทำรุนแรง"
(ที่มา:รอยเตอร์)