ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจราชมนู กองกำลังนเรศวร เผยสอบ 16 คนไทย ช่วยออกจากขบวนการสแกมเมอร์ที่เมียวดี ฝั่งเมียนมา พบบางส่วนตั้งใจไปทำงานเอง มีคดีบัญชีม้าและฉ้อโกงติดตัว หลายคนเชื่องานสบาย รายได้ดี เตือนไม่เป็นอย่างที่คิด เฝ้าระวังด่าน-สนามบินแม่สอดเข้ม หลังต่างชาติใช้เครื่องบินเช่าเหมาลำหนีตรวจสอบ
วันนี้ (8 ต.ค.) พ.อ.ชนกานต์ แสงศร ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจราชมนู กองกำลังนเรศวร เปิดเผยถึงภารกิจช่วยเหลือคนไทย 16 คนจากเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ที่ผ่านมา ว่า การดำเนินการเป็นไปอย่างรวดเร็ว เพราะได้รับความร่วมมือจากทุกหน่วย ทั้งฝ่ายตำรวจ ปกครอง ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ภาคเอกชน รวมถึงทหารเมียนมาและกองกำลังท้องถิ่น จึงสามารถช่วยเหลือผู้ตกค้างกลับไทยได้โดยปลอดภัย
ทั้งนี้ กองกำลังนเรศวร ยังคงใช้ 4 มาตรการสกัดเข้ม ตามนโยบายแม่ทัพภาคที่ 3 เพื่อดูแลความปลอดภัยชายแดน ขณะที่มาตรการ 3 ตัด ของรัฐบาล ได้แก่ ตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน ก็ยังดำเนินต่อเนื่อง โดยจากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า คนไทยบางส่วนตั้งใจเดินทางไปทำงานในพื้นที่เมียวดีเอง และบางรายมีประวัติคดีบัญชีม้า หรือคดีฉ้อโกง ซึ่งตำรวจจะเร่งสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมาย
“หลายคนหลงเชื่อว่าจะได้งานสบาย รายได้ดี แต่สุดท้ายกลับไม่เป็นอย่างที่คิด บางคนเมื่อไม่ได้ผลประโยชน์ก็ขอกลับ จึงอยากเตือนพี่น้องคนไทยว่า ไม่มีงานง่ายที่ได้เงินดีในต่างแดน โดยเฉพาะเมียนมา” พ.อ.ชนกานต์ กล่าว
ขณะที่ หน่วยเฉพาะกิจราชมนูยังคงเข้มงวดตรวจสอบชาวต่างชาติ ทั้งที่จุดตรวจความมั่นคงบ้านห้วยหินฝน ถนนตาก-แม่สอด และสนามบินแม่สอด จ.ตาก โดยล่าสุดพบว่ามีชาวต่างชาติบางกลุ่มเช่าเครื่องบินเหมาลำ เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจแบบเที่ยวบินพาณิชย์ ศูนย์สั่งการชายแดนไทย–เมียนมาฝั่งจังหวัดตาก จึงเสนอให้ตรวจสอบตั้งแต่ต้นทาง เพื่อสกัดขบวนการสแกมเมอร์ไม่ให้ใช้ไทยเป็นเส้นทางผ่าน
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า สำหรับปฎิบัติการช่วยเหลือดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคง ได้รับการประสานงานเพื่อเข้าช่วยเหลือกลุ่มคนไทยจำนวน 16 คน ที่ได้ลักลอบข้ามไปยังประเทศเมียนมาในช่วงเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา เพื่อทำงานในบ่อนคาสิโน ในเขตกลุ่มธุรกิจจีนเทาของฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ตามโฆษณาในสื่อโซเชียลมีเดีย แต่เมื่อทำงานไปแล้ว ได้รับผลตอบแทนที่ไม่ตรงตามโฆษณาไว้ จึงได้ติดต่อประสานเพื่อต้องการกลับมายังประเทศไทย
ทางหน่วยเฉพาะกิจราชมนู พร้อมหน่วยงานความมั่นคงจังหวัดตาก ได้วางแผนประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าให้การช่วยเหลือ กระทั่งเวลา 18.30 น. จึงได้รับตัวบุคคลชาวไทยดังกล่าว จำนวน 16 คน เป็นชาย 10 คน หญิง 6 คน กลับเข้ามายังฝั่งประเทศไทยอย่างปลอดภัย จากนั้นได้นำตัวทั้งหมดส่งให้กับส่วนที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกฏหมายต่อไป
ก่อนหน้านี้ นายกัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า ได้รับหนังสือขอความช่วยเหลือด่วนมาจาก น.ส.กฤติญา จันทนะมาฬะกะ ผู้ประสานงานเครือข่ายภาคประชาสังคมเพื่อช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์ แจ้งว่า เมื่อวันที่ 3 ต.ค. เวลา 23.00 น. ได้รับการติดต่อจาก 2 คนไทย ชาวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และนครศรีธรรมราช ว่าถูกแก๊งสแกมเมอร์ พาไปยังเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา และถูกขังอยู่ในตึกแห่งหนึ่ง ซึ่งมีคนไทยมาจาก จ.กระบี่ 9 คน และ จ.ลำพูนอีก 4 คน รวม 15 คน
เครือข่ายภาคประชาสังคมฯ ให้ข้อมูลว่า บริษัทดังกล่าวเพิ่งเปิดตัวในพื้นที่เมียวดี ภายใต้เขตการปกครองของกลุ่มกองกำลัง BGF คาดว่าย้ายมาจากแหล่งสแกมเมอร์ในประเทศลาว ภายหลังจากถูกกวาดล้าง ภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน สามารถหลอกลวงคนไทยจากจังหวัดต่างๆ ได้มากถึง 15 คน และยังตั้งค่าหัวคนไทยที่ถูกหลอกมาเพิ่ม หัวละ 10,000 บาท โดยกระทําอย่างโจ่งแจ้งในโรงแรมและผ่านการเดินทางโดยรถโดยสารปรับอากาศไปยัง อ.แม่สอด จ.ตาก
บริษัทดังกล่าวยังตั้งเป้าใช้คนไทยเพื่อหลอกคนไทยด้วยกันผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ทั้งเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ติ๊กต็อก และไลน์ เจาะกลุ่มผู้หญิงอายุ 50 ปี ขึ้นไป ชวนให้มาลงทุน และเล่นเว็บลักษณะคล้ายเว็บพนัน
ภายหลังจากหน่วยเฉพาะกิจราชมนูให้ความช่วยเหลือ นายกัณวีร์ กล่าวว่า ยินดีกับคนไทย 16 คนที่ถูกช่วยเหลือจากสแกมเมอร์ในเมียวดี ได้กลับบ้านแล้ว พร้อมขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยกันอย่างรวดเร็ว