xs
xsm
sm
md
lg

ยื่นตรวจสอบคำสั่่ง 'ลุงตู่' พบมือที่มองไม่เห็น แทรกแซง 'คดีโฮปเวลล์'

เผยแพร่:   ปรับปรุง:



อดีต สส. 3 ราย ยื่นจดหมายถึง “อนุทิน” ขอเร่งตรวจสอบคำสั่งนายกฯ ที่ 143/2562 สมัย “พล.อ.ประยุทธ์” ตั้งคณะทำงานคดีโฮปเวลล์ หวั่นใช้อำนาจฝ่ายบริหารแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม หลังพบข้อเท็จจริงขัดคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ชี้คล้ายกรณี “เขากระโดง” ที่ยังไม่บังคับคดีตามคำพิพากษา จ่อร้องถึงประธานศาลฎีกาและองค์กรอิสระทุกฝ่าย ฟื้นความเชื่อมั่นระบบนิติรัฐ–นิติธรรมไทย

คดีโฮปเวลล์ เวลานี้อาจไม่ได้เป็นกระแสหลักที่หลายฝ่ายให้ความสนใจเท่าใดนักเมื่อเทียบกับกรณีของเขากระโดง แต่ทั้งสองประเด็นนี้มีแง่มุมที่คล้ายกัน คือ แม้ศาลจะมีคำพิพากษาเป็นที่สุดแล้ว แต่ข้อพิพาทกับยังไม่จบเหมือนกัน ทำให้ต้องมีการเรียกร้องให้ฝ่ายบริหารเร่งดำเนินการให้เป็นไปตามคำพิพากษา โดยนายวิชิต ปลั่งศรีสกุล นายอันวาร์ สาและ และนายสัญญา สถิรบุตร อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร ได้ร่วมกันเข้าชื่อทำหนังสือถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้ดำเนินการตรวจสอบคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 143/2562 เรื่อง แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบและรวบรวมพยานหลักฐานกรณีโฮปเวลล์ ที่ลงนามโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และตรวจสอบบันทึกรายงานการประชุมคณะทำงานที่ตั้งขึ้นตามคำสั่งดังกล่าวอย่างละเอียด เนื่องจากมีลักษณะที่อาจเข้าข่ายใช้อำนาจฝ่ายบริหาร เข้าแทรกแซงอำนาจตุลาการ โดยขอให้นายอนุทินเร่งรัดดำเนินการสอบสวนความจริงกรณีคณะทำงานตามคำสั่งที่ 143/2562 มีมติอันเป็นเท็จ และแย้งกับคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ซึ่งส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือ ในกระบวนการยุติธรรม และกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน

ทั้งนี้เนื้อความในหนังสือได้อ้างถึงคดีเขากระโดง ที่มีคำพิพากษาศาลฏีกาซึ่งเป็นศาลสูงสุดแล้ว แต่กลับมีการใช้กลไกอำนาจฝ่ายบริหารหลีกเลี่ยงการบังคับคดีให้เป็นไปตามคำพิพากษา และมีการอ้างถึงคดีโฮปเวลล์ ที่มีคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดไปแล้ว แต่ก็มีการใช้กลไกอำนาจฝ่ายบริหาร บิดเบือนข้อเท็จจริง โดยไม่เกรงกลัวต่อการละเมิดอำนาจศาล ซึ่งทั้งสองกรณีล้วนทำให้เกิดข้อสงสัยในความศักดิ์สิทธิ์ของระบบยุติธรรมไทย และเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการต้องทำให้เกิดความชัดเจน เพื่อทำให้ประชาชน รวมทั้งนักลงทุนมีความเชื่อมั่นของการตรวจสอบถ่วงดุล โดยไม่แทรกแซงกันระหว่างอำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร และอำนาจตุลาการ

นายสัญญา ระบุว่า นอกจากการเข้าชื่อกันร้องต่อนายกรัฐมนตรีแล้ว ยังจะมีการเข้าชื่อกันทำหนังสือถึงประธานศาลฎีกาเพื่อพิจารณาแก้ไขให้เกิดความเชื่อมั่นต่อประชาชนทั่วไป และนักลงทุน ว่าสัญญาทางธุรกิจในประเทศไทย โดยเฉพาะกับการลงทุนกับภาครัฐจะดำเนินไปตามหลักนิติรัฐ หลักนิติธรรม และพร้อมกันนั้นจะยื่นหนังสือเนื้อหาเดียวกันนี้ถึงประธานศาลปกครองสูงสุด ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง รวมถึงประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน และประธานองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญทุกองค์กรเพื่อร่วมพิจารณาหาทางให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อความเชื่อมั่นในระบบยุติธรรมของประเทศต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น