"อนุทิน" งดประชุม UN เลือกถกนโยบายรัฐสภา ชี้ไปแบบอำนาจไม่เต็ม เสียเปรียบเจรจาผู้นำโลก ย้ำเชื่อมั่นรัฐบาลอยู่ที่การทำงาน ไม่ใช่เวทีต่างประเทศ
ท่ามกลางกระแสความตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา และการจับตาของประชาคมโลกต่อสถานการณ์ดังกล่าว การประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ กลายเป็นประเด็นที่ถูกถามถึงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะเดินทางไปร่วมเวทีนี้หรือไม่ โดยมีเสียงเรียกร้องจากหลายฝ่ายที่เห็นว่าการปรากฏตัวของผู้นำรัฐบาลใหม่ของไทยในเวทีสำคัญระดับโลกจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นและสื่อสารจุดยืนของประเทศไทยได้อย่างชัดเจน
อย่างไรก็ตาม นายอนุทินยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมได้ เนื่องจากติดภารกิจสำคัญในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งกำหนดไว้ในวันที่ 29–30 กันยายนนี้ โดยระบุว่า แม้ฝ่ายกฎหมาย รวมถึงคณะกรรมการกฤษฎีกาจะมีความเห็นว่านายกรัฐมนตรีสามารถเดินทางไปได้หากมีความจำเป็นเร่งด่วน แต่สิ่งสำคัญกว่าคือความพร้อมของรัฐบาลไทยในการบริหารราชการแผ่นดินอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งต้องเริ่มจากการได้รับการรับรองจากรัฐสภาเสียก่อน
นายอนุทิน ระบุว่า ประชาคมโลกได้รับข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว อีกทั้งการไปร่วมประชุมโดยที่ยังไม่มีอำนาจเต็มในฐานะหัวหน้ารัฐบาล อาจกลายเป็นข้อเสียเปรียบในการพบปะเจรจากับผู้นำประเทศอื่น ๆ มากกว่าจะเป็นประโยชน์ เพราะหากถูกตั้งคำถามว่าเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีอำนาจเต็มหรือไม่ แล้วต้องตอบในลักษณะที่ไม่ชัดเจน อาจกระทบต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของรัฐบาลใหม่
เมื่อถูกถามว่าการที่นายกรัฐมนตรีไม่เดินทางไปด้วยตัวเองจะทำให้ประเทศไทยเสียโอกาสในการเรียกความเชื่อมั่นจากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา นายอนุทิน ยืนยันว่าา เรื่องความเชื่อมั่นอยู่ที่การจัดการของรัฐบาล และการสนับสนุนจากประชาชน และกองทัพ ไม่ได้อยู่ที่เวทีไหน ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับบ้านเรา ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องประชาชนให้ความสนับสนุนแนวทางต่าง ๆ ของรัฐบาล นี่คือความเชื่อมั่น
ด้าน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กลเปิดเผยว่า การประชุมและกิจกรรมคู่ขนานระดับสูงในช่วงสัปดาห์ผู้นำของการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 (UNGA 80 High-level Week) ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 23-29 ก.ย.2568 มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งและถือเป็นเวที พหุภาคีที่ใหญ่ที่สุดที่เกิดขึ้นในทุกๆปี เพื่อให้ผู้นำและผู้แทนระดับสูงของแต่ละประเทศได้กล่าวอภิปรายแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับประเด็นสำคัญที่ประสงค์จะผลักดันในเวทีระหว่างประเทศ โดยในปีนี้ ประธานของการประชุมสมัชชา ได้กำหนดหัวข้อของการประชุมสมัชชา สมัยสามัญครั้งที่ 80 ว่า "Better Together: 80 years and more for peace, development and human rights" ให้รัฐสมาชิกสะท้อนถึงประโยชน์และผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นจากพลังการขับเคลื่อนสันติภาพการพัฒนาและสิทธิมนุษยชนรวมกัน
สำหรับประเด็นที่ไทยจะให้ความสำคัญ ในสมัยการประชุมสมัชชาครั้งนี้ จะประกอบด้วยเรื่องการส่งเสริมสันติภาพ และความมั่นคงที่ยึดกฎบัตรสหประชาชาติ กฎบัตรอาเซียน และกฎหมายระหว่างประเทศเป็นที่ตั้ง การร่วมกันกำหนดทิศทางและเครื่องมือสำคัญเพื่อรับมือกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก บทบาทของไทยในการเสริมสร้างความมั่นคงของมนุษย์และการพัฒนาที่ยั่งยืน พร้อมกับการปกป้องและส่งเสริมสิทธิมนุษยชนโดยยึดหลักการมนุษยธรรม