xs
xsm
sm
md
lg

“อนุทิน1”ได้คุ้มเสีย !? ครม.ยี้-ต่างตอบแทน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:


โสภณ ซารัมย์ - อนุทิน ชาญวีรกูล - พิพัฒน์ รัชกิจประการ
ในท่ามกลางข่าวคราวที่บอกว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เกิดอาการ “สะดุด” นั่นคือ มีบางรายชื่อถูก “ตีกลับมา” เนื่องจากมีปัญหาในเรื่องคุณสมบัติที่ยังไม่เคลียร์ ทำให้ต้องมีการทบทวนใหม่ในบางตำแหน่ง แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 18 กันยายน นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรียังยืนยันว่า “ไม่มี”

ที่สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต้องปรับเปลี่ยน เพราะรัฐมนตรีบางคนมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ โดยระบุเพียงว่า วันนี้มาพูดคุยเรื่องการค้า เรื่องผู้ประกอบการ

เมื่อถามย้ำว่า จะปฏิเสธกระแสข่าวลือเมื่อคืน (17 ก.ย.) ที่ออกมาหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ก็ไม่มีอะไรนี่“

ก่อนหน้านั้น ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางมาที่อาคารรัฐสภา แล้วไม่ได้ให้สัมภาษณ์สื่อ นายกรัฐมนตรีได้เดินเข้าห้องประชุมสภาทันที ซึ่งขณะนั้นเป็นการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ล้มละลาย ซึ่งคณะกรรมาธิการสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว

ทันทีที่นายกรัฐมนตรีเข้าห้องประชุม ก็เจอกับนายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เป็นคนแรก ซึ่งนายกัณวีร์ได้ยกมือไหว้ และได้มีการพูดคุยกัน ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด โดยคาดว่าน่าจะเป็นเรื่องส่วยสัญชาติ ซึ่งนายกัณวีร์ได้รับร้องเรียน จากประชาชนและได้ลงพื้นที่ไปที่จังหวัดเชียงใหม่

ภายหลังจากการพูดคุยกับนายกัณวีร์ นายกรัฐมนตรีได้เข้าไปทักทาย สส. พรรคภูมิใจไทยที่อยู่บริเวณหลังห้องประชุม และไปนั่งที่ประจำของตนเอง และคุยโทรศัพท์ส่วนตัว ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ใช้อยู่ที่สภาประมาณ 40 นาที

จากนั้นเวลา 14.02 น. นายอนุทิน เดินทางออกจากรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าได้ทูลเกล้าฯรายชื่อครม.เรียบร้อยแล้วหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “รอ” เมื่อถามว่าดูเหมือนพรรคภูมิใจไทยเนื้อหอม มีกลุ่มสส. และสจ.จังหวัดชุมพร แห่มาสมัครเป็นสมาชิกกันมาก นายอนุทิน หันมายิ้มแต่ไม่ตอบคำถามใดๆ

แน่นอนว่าข่าวเรื่อง “โผครม.สะดุด” ดังกล่าวทำให้หลายคนต้องหันมาจับตามองทันที เพราะเมื่อพิจารณาจากรายชื่อคณะรัฐมนตรีมีหลายคนที่ถูกตั้งข้อสงสัยในเรื่องคุณสมบัติ และเรื่องจริยธรรมที่ติดตัวมานาน และก่อนหน้านี้ก็มี นายสันติ พร้อมพัฒน์ จากพรรคพลังประชารัฐ ที่ยอมรับว่า ตัวเองมีกรณีเกี่ยวกับการศึกษาในอดีต ทำให้ต้องสละตำแหน่งรัฐมนตรีให้กับลูกชายเข้ามาแทน โดยมีชื่อดำรงตำแหน่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รวมไปถึงยังมีรัฐมนตรีอีกหลายคนที่ถูกตั้งข้อสงสัย แต่ยังมีรายชื่อเป็นรัฐมนตรีในตำแหน่งสำคัญ

ขณะเดียวกันมีความเคลื่อนไหวจากพรรคฝ่ายค้าน คือพรรคประชาชน ที่โหวตหนุน นายอนุทิน ให้ได้เป็นายกรัฐมนตรี โดย นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรคประชาชน ได้ให้ข้อมูลว่า กรณีโผรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีพฤติการณ์ต้องสงสัยว่าทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ในอดีต ว่า เหตุใดจึงมีการเสนอชื่อให้เป็นรัฐมนตรี เหตุการณ์นี้มีการชี้มูลความผิดโดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อช่วงปี 2565 และมีการลงเลขรับเรียบร้อยพร้อมรายงานไต่สวน เอกสารประกอบ ซึ่งภายหลังที่มีการไต่สวนชี้มูลความผิดเรียบร้อยแล้ว ได้มีการส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามเอกสารที่ตนนำมาวันนี้มีการระบุว่าผู้ที่ถูกป.ป.ช.ชี้มูลนั้น มีพฤติการณ์ทุจริตเบิกจ่ายงบประมาณโครงการและมีการจ่ายเงินทั้งที่ยังไม่แล้วเสร็จ มีความประพฤติทำให้เสื่อมเสียแก่ศักดิ์ศรีและตำแหน่ง รวมถึงมีผลกระทบต่อประชาชน ทั้งนี้ ตนขออนุญาตยังไม่เปิดเผยว่าบุคคลดังกล่าวเป็นผู้ใดแต่ยืนยันำได้ว่าบุคคลผู้นี้ เป็น 1 ในชื่อของโผครม.ที่นำขึ้นทูลเกล้าฯ ไป

นายชุติพงศ์ กล่าวว่า ส่วนที่นายอนุทิน ระบุว่ารายชื่อไม่มีปัญหาอะไร ตนจึงตั้งคำถามไปยังนายอนุทิน ในฐานะฝ่ายค้านว่าได้ตรวจสอบดีแล้วหรือไม่ กับรายชื่อบุคคลที่ได้เสนอชื่ออย่างชัดเจน เพราะกรณีนี้ มีการชี้มูลไปแล้วโดยป.ป.ช.เหตุใดจึงยังมีการแต่งตั้งบุคคลคนนี้ขึ้นไปเป็นรัฐมนตรีในครม.ชุดนี้ รวมถึงขอตั้งคำถามไปยังป.ป.ช. ว่า เมื่อมีการส่งเอกสาร การชี้มูลของป.ป.ช.ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว เหตุใดจึงยังไม่มีการดำเนินคดีหรือมีการดำเนินการอยู่แล้วติดอยู่ที่ขั้นตอนใดในกระบวนการยุติธรรม และขอตั้งคำถามไปยังบุคคลนี้และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องซึ่งตนสามารถยืนยันได้ว่าบุคคลดังกล่าวเป็นบุคคลที่มาจากกลุ่มโควตาเหตุใดคนจากกลุ่มโควตาและคนที่นำชื่อในโควตาเสนอขึ้นไป จึงได้มีการเสนอชื่อบุคคลซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อการตั้งครม.ชุดนี้ของนายกรัฐมนตรีอนุทิน

“ยืนยันว่าเอกสารที่นำมาโชว์เหล่านี้ ถ้าหากทางนายอนุทิน ไม่มีการปรับปรุงหรือตรวจสอบให้ชัดเจนหรือยืนยันจะตั้ง ครม.ชุดนี้ขึ้นมาให้ได้ ผมจะเปิดเผยเอกสารชุดนี้ และก็ต้องตอบคำถามสังคมให้ดีว่าเหตุใดจึงตั้งบุคคลที่ ถูกป.ป.ช.ชี้มูลว่ามีพฤติกรรม ทุจริตและมีมติเอกฉันท์ไปแล้ว ไปดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม ในการทำหน้าที่ฝ่ายค้านในการตรวจสอบรัฐบาลของนายกอนุทินเป็นการให้ข้อมูลเบื้องต้นและทำหน้าที่อย่างต่อไปตรงมาไม่มีออมมือ แต่หากไม่มีการปรับโผครม.ครั้งนี้และยืนยันที่จะใช้ครม.ชุดนี้ต่อไปข้อมูลชุดนี้ทั้งหมดจะถูกเปิดเผยในวันที่มีการแถลงนโยบาย” เขาระบุ

เขายังให้ข้อมูลอีกว่า บุคคลคนนี้เป็นผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือข้าราชการการเมือง และอยู่ในโควตาของกลุ่ม และเคยเป็นนักการเมือง แต่ไม่เคยเป็นรัฐมนตรี โดนชี้มูลว่ามีพฤติกรรมทุจริตประพฤติมิชอบ

นอกจากนียังรัฐมนตรีที่ถูกจับตามองอย่างมากก็คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมว่าจะเป็นใคร มีความน่าเชื่อถือได้หรือไม่ ล่าสุด มีการเปลี่ยนแปลงมาเป็น พล.ต.ท.รุทธพล เนาวรัตน์ หรือแม้แต่ นายโสภณ ซารัมย์ ที่ถูกดึงมาเป็นรองนายกรัฐมนตรีเป็นรายล่าสุด ซึ่งเป็นรัฐมนตรีครบทั้ง 36 คน เต็มโควตา

อย่างไรก็ดีมีรัฐมนตรีที่ถูกจับตามองก็มีอยู่สองสามตำแหน่ง เช่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งนายอนุทิน นั่งควบด้วยตัวเอง ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ นั่งว่าการ และล่าสุดก็คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งสามตำแหน่งสำคัญดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีสำคัญ คือ “เขากระโดง” ที่เกี่ยวข้องกับการรถไฟฯ มีกระทรวงคมนาคมกำกับดูแล กระทรวงยุติธรรม ที่กำกับดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ซึ่งสอบสวนคดีดังกล่าว รวมไปถึงคดี “ฮั้ว ส.ว.” ที่มี นายอนุทิน และแกนนำพรรคภูมิใจไทย ถูกกล่าวหาด้วย

รัฐมนตรีสำคัญดังกล่าวจึงถูกมองว่า “รัฐมนตรีบุรีรัมย์” ที่สะท้อนภาพให้เห็นถึงความเชื่อมโยงกับคดีที่อยู่ในความสนใจของสังคม ดังนั้นแน่นอนว่า พวกเขาย่อม “ไม่เป็นกลาง” ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของรัฐบาลอีกด้วย ดังนั้นรัฐมนตรีชุด “อนุทิน 1” หากถูกชี้หน้าว่าเป็นรัฐมนตรี “ยี้” ตั้งแต่ต้น ย่อม เป็นการเริ่มต้นที่ติดลบ ทั้งที่เป็นรัฐบาลเฉพาะกาล น่าจะสามารถเลือกเฟ้นรัฐมนตรีที่มีฝีมือเข้ามาได้ดีมากกว่าบรรยากาศการเมืองก่อนหน้านี้ แต่กลายเป็นว่านี่คือรัฐมนตรี “ต่างตอบแทน” เต็มขั้น !!
กำลังโหลดความคิดเห็น