รัฐมนตรีกลาโหม ต่ง จิว์น ของจีน เน้นย้ำความพยายามของปักกิ่งที่จะปรับเปลี่ยนรูปโฉมการบริหารจัดการโลกกันใหม่ ออกมากล่าวปราศรัยในวันพฤหัสบดี (18 ก.ย.) เตือนโลกเรายืนอยู่ตรงทางแยก โดยกำลังมุ่งไปสู่การแตกแยกกันมากขึ้นและถูกปกครองด้วยกฎแห่งป่า เนื่องจากถูกครอบงำด้วยแนวคิดช่วงชิงอำนาจแบบยุคสงครามเย็น การมุ่งเป็นเจ้าเหนือใคร และลัทธิกีดกันการค้า ขณะเดียวกันก็ยืนยันว่ากองทัพจีนที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ จะเป็นกองกำลังเพื่อสันติภาพ
ต่ง กล่าวเช่นนี้ระหว่างปราศรัยเปิดเวทีประชุมด้านความมั่นคงประจำปี “ปักกิ่ง เซียงซาน ฟอรัม” ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงปักกิ่ง พร้อมกับย้ำว่า โลกจำเป็นต้องเลือกที่จะสนทนากันมากกว่าการเผชิญหน้า
“การแทรกแซงด้วยกำลังทหารจากภายนอก การแสวงหาทางสร้างเขตอิทธิพลของตนขึ้นมา และการใช้กำลังบีบบังคับประเทศอื่นๆให้ต้องเลือกเข้าข้างตนเอง จะนำประชาคมระหว่างประเทศไปสู่ความโกลาหลวุ่นวาย” ต่ง สำทับ
คำพูดเหล่านี้ของเขาเห็นชัดว่าเป็นการพุ่งเป้าโจมตีใส่สหรัฐฯอย่างอ้อมๆ และดูมีความแข็งกร้าวยิ่งกว่าคำปราศรัยของเขาในเวทีเดียวกันนี้เมื่อปีที่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหัวข้อเกี่ยวกับไต้หวัน ที่ปักกิ่งยืนยันว่าเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตน
“ความหมกมุ่นอยู่กับความเหนือชั้นกว่าใครๆ อย่างสัมบูรณ์ในด้านความแข็งแกร่งทางการทหาร และวิธีการจัดการปัญหาแบบ “อำนาจคือความถูกต้องชอบธรรม” จะนำไปสู่โลกที่แตกแยกกันซึ่งถูกปกครองโดยกฎแห่งป่าและความไร้ระเบียบ” ต่ง กล่าว
รัฐมนตรีกลาโหมจีนแสดงความคิดเห็นเช่นนี้ หลังจากที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าปราศรัยในพิธีสวนสนามครั้งใหญ่เมื่อต้นเดือนนี้เพื่อรำลึกชัยชนะของจีนต่อการรุกรานของญี่ปุ่นในปี 1945 โดยย้ำว่า จีนต่อต้านการวางตัวเป็นเจ้าเหนือใครๆ และต่อต้านการเมืองแบบใช้อำนาจบังคับ
ทางด้าน ชาน ชุน ซิง รัฐมนตรีกลาโหมสิงคโปร์ ขึ้นพูดขานรับคำเตือนเกี่ยวกับกฎแห่งป่าของต่ง โดยกล่าวว่า การบ่อนเซาะค่านิยมที่มีร่วมกัน ทำให้โลกเผชิญความเสี่ยงที่จะเข้าสู่วงจรอุบาทว์ของความวุ่นวายทางเศรษฐกิจและลัทธิการเมืองแบบสุดโต่งที่เคยนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 2
ขณะที่ โมฮาเม็ด คาเล็ด นอร์ดิน รัฐมนตรีกลาโหมมาเลเซีย ตั้งข้อสังเกตว่า ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับทะเลจีนใต้ที่หลายชาติพิพาทช่วงชิงกรรมสิทธิ์กันอยู่ อาจลุกลาม และทำให้มาเลเซียกับจีนไม่ไว้ใจกัน
นอร์ดินเสริมว่า ความมั่นคงร่วมกันจะเกิดขึ้นได้ ย่อมขึ้นอยู่กับการทำให้เส้นทางเดินเรือเสรี เปิดกว้าง และปลอดภัย พร้อมเรียกร้องทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องยึดถือกฎหมายระหว่างประเทศเพื่อแก้ไขข้อพิพาทอย่างสันติ รวมทั้งจัดการความขัดแย้งอย่างรับผิดชอบเพื่อไม่ให้การแข่งขันระหว่างมหาอำนาจบ่อนทำลายสันติภาพภายในภูมิภาค
ทั้งนี้ ขณะที่กล่าวว่า จีนเปิดกว้างในเรื่องการร่วมส่วนเพื่อส่งเสริมสนับสนุนระเบียบระหว่างประเทศ แต่รัฐมนตรีกลาโหมแดนมังกรก็ย้ำด้วยว่า กองทัพปลดแอกประชาชนจีนจะไม่ยอมให้กลุ่มแบ่งแยกดินแดนไต้หวันประกาศเอกราชสำเร็จ และเน้นว่า การที่ไต้หวันหวนคืนสู่จีนถือเป็นส่วนหนึ่งของระเบียบโลกยุคหลังสงคราม และจีนพร้อมตอบโต้การแทรกแซงด้วยกำลังทหารจากภายนอกตลอดเวลา
ต่งยังกล่าวถึงประเด็นทะเลจีนใต้ว่า “เรื่องที่เรียกกันว่าเสรีภาพการเดินเรือ” ซึ่งบางประเทศนอกภูมิภาคกล่าวอ้าง รวมทั้ง “เรื่องการตัดสินของอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ” ซึ่งบางประเทศที่อ้างสิทธิ์ในทะเลจีนใต้ให้การสนับสนุนนั้น “เป็นการท้าทายอย่างโจ่งแจ้งต่อบรรทัดฐานระดับพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ”
เวลาเดียวกัน เขายืนยันว่า การที่จีนกำลังปกป้อง “อธิปไตยเหนือดินแดนและสิทธิตลอดจนผลประโยชน์ทางทะเล ...คือการปกป้องระเบียบโลกหลังสงครามโลกครั้งที่ 2และหลักนิติธรรมระหว่างประเทศอย่างหนักแน่นมั่นคง”
การประชุมปักกิ่ง เซียงซาน ฟอรัม ซึ่งถูกมองว่าจีนจัดขึ้นเพื่อเป็นตัวเลือกประชันกับการประชุมแชงกรี-ลาที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่สิงคโปร์นั้น สำหรับปีนี้มีเจ้าหน้าที่ทหารและนักวิชาการราว 1,800 คนจาก 100 ประเทศเข้าร่วม และจัดขึ้นขณะที่วอชิงตันและปักกิ่งกำลังวุ่นกับการดำเนินมาตรการทางทูตก่อนที่ประธานาธิบดีของสองประเทศอาจจะนัดพบกันในช่วงปลายปีนี้
สัปดาห์ที่แล้ว ต่ง หารือทางโทรศัพท์กับพีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการพูดคุยกันโดยตรงครั้งแรก ขณะที่คาดว่า สีและทรัมป์จะคุยโทรศัพท์กันในวันศุกร์นี้ (19 )
(ที่มา: รอยเตอร์/เอเอฟพี)