เสนาธิการกองทัพภาคที่ 1 โวยฝ่ายกัมพูชาใช้เด็ก ผู้หญิง และพระเป็นโล่มนุษย์ ยั่วยุให้เกิดการปะทะ สร้างละครฟ้องชาวโลก บิดเบือนว่าเป็นพื้นที่กัมพูชา เตือนเลิกเป็นอีแอบอยู่หลังผู้หญิง ระบุเป็นผู้ใหญ่ใจดีมามากแล้ว เตรียมใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก จับกุมผู้รุกล้ำดินแดนไทย ดำเนินคดีตามกฎหมายสูงสุด
วันนี้ (18 ก.ย.) ที่ศูนย์ปฎิบัติการกองทัพภาคที่ 1 พล.ต.สุรวิชญ์ แดงจันทร์ เสนาธิการกองทัพภาคที่ 1 แถลงข่าวชี้แจงเหตุการณ์ที่ชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนามที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว และทำร้ายเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เห็นความไม่จริงใจของฝ่ายกัมพูชาที่ไม่ทำตามกติกา แม้จะผ่านการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย-กัมพูชา (GBC) 2 ครั้ง และคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย-กัมพูชา (RBC) อีก 1 ครั้ง ซึ่งเป็นการพิสูจน์ความจริงใจของทั้งสองประเทศ ตามข้อตกลงหยุดยิงที่เกิดขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว หรือบ้านหนองจานที่ผ่านมา เป็นบทพิสูจน์ความจริงใจของฝั่งกัมพูชาให้ประชาชนคนไทยเห็นแล้ว
ระหว่างนั้น พล.ต.สุรวิชญ์ ได้เปิดวีดีโอคลิปที่ฝ่ายกัมพูชานำมวลชนเข้ามาทำการยั่วยุ และรื้อลวดหนาม เมื่อวันที่ 16-17 ก.ย. พร้อมกล่าวว่า สิ่งที่กองทัพภาคที่ 1 ได้พูดทุกครั้ง คือ การพูดคุยกันด้วยกติกาอันจะนำไปสู่สันติวิธี แต่การนำมาซึ่งการยั่วยุ โดยใช้มวลชน เด็ก ผู้หญิง พระสงฆ์ ไม่ใช่เรื่องของอารยะประเทศที่ปฏิบัติต่อกัน ขอประณามไปถึงผู้นำของประเทศกัมพูชา ที่ปล่อยให้เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่อธิปไตยของไทย ขอยืนยันว่าเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ตามที่เราได้ให้ข้อมูลอย่างต่อเนื่องถึงการวางแนวรั้วลวดหนามหลังจากปฎิบัติการช่วงที่ผ่านมา เพื่อป้องกันตนเองและมีข้อตกลงร่วมกันมาว่าจะไม่มีการดำเนินการใดๆ ทั้งสองฝ่าย จนกว่าข้อตกลงหยุดยิง ถอนทหาร เก็บกู้วัตถุระเบิด การปราบปรามสแกมเมอร์ และการจัดระเบียบพื้นที่หมู่บ้านตามแนวชายแดนกลับไปสู่พื้นที่อธิปไตยของแต่ละฝ่าย
"ภาพที่ประชาชนเห็นเมื่อวาน (17 ก.ย.) เป็นบทพิสูจน์ให้พวกเราเห็นแล้วว่า สิ่งที่ผู้นำกัมพูชาปล่อยให้เกิดขึ้น แล้วยังนำไปบิดเบือนต่อการออกข่าวอย่างต่อเนื่องที่ผ่านมา ว่าเป็นการทำร้ายประชาชนของฝ่ายกัมพูชา อ้างว่าเป็นพื้นที่ของประเทศ (กัมพูชา) เป็นข้อบิดเบือนโดยแท้จริง" พล.ต.สุรวิชญ์ กล่าว
พล.ต.สุรวิชญ์ กล่าวว่า ฝ่ายไทย กองทัพภาคที่ 1 กองกำลังบูรพา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว ได้ใช้ความอดทนมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตนขอประนามซ้ำไปยังผู้นำฝั่งกัมพูชา ที่ใช้เด็ก ผู้หญิง และพระสงฆ์ มายั่วยุอย่างต่อเนื่อง ต้องการสร้างภาพลักษณ์การปฎิบัติการทำร้ายออกไป ขอเรียนว่า เราไม่ได้หลงทางตามที่แม่ทัพภาคที่ 1 เคยชี้แจงไว้ตอนลงพื้นที่บ้านหนองจาน เรารู้และทราบว่าเขาจะใช้วิธีนี้ แต่เราได้พยายามบอกแล้วว่าอย่า สุดท้ายเหตุการณ์ก็เกิดขึ้น แต่กองทัพภาคที่ 1 ไม่ได้หวั่นไหวแต่อย่างใด จึงได้มีการเตรียมกำลังกองร้อยควบคุมฝูงชน ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ฝั่งตรงข้ามไม่ได้ใช้กำลังทหาร
ขอเรียนว่าทหารก็ต้องปฎิบัติต่อทหาร ความหมายก็คือจะสู้กับทหาร เป็นสิ่งที่ยึดถือปฎิบัติ แต่ไม่ใช่เอาประชาชน โดยไม่สนใจความรู้สึกหรือร่างกายของประชาชน เอาเข้ามารุกล้ำอธิปไตยแนวชายแดน ซึ่งทุกอย่างได้ประกาศแจ้งตามกติกาสากลอยู่แล้ว ขอฝากถึงพระสงฆ์กัมพูชาด้วยว่าถ้าจะต่อสู้เช่นนี้ให้ไปสึกและสมัครเป็นทหาร แล้วมาปฎิบัติต่อกัน กองทัพภาคที่ 1 มีการปฎิบัติที่มีอารยะ มีขั้นตอนต่างๆ ซึ่งการปลุกระดมยั่วยุมวลชนของกัมพูชา พบว่ากำลังตำรวจและทหารกัมพูชาช่วยดึงช่วยรื้อลวดหนาม ถามว่าคืออะไร เมื่อตกลงกันแล้วว่าแนวรั้วลวดหนามเพื่อป้องกันตน อยู่ตรงไหนก็อยู่ตรงนั้น นอกจากไม่ช่วยห้ามปรามแล้วยังมาผสมโรง สิ่งที่พบเห็นคือวัยรุ่น ชายฉกรรจ์ 100-200 คนพร้อมไม้เป็นอาวุธ ที่สำคัญสถานการณ์ที่ฝ่ายไทยต้องระมัดระวังเพิ่มขึ้น เพราะฝ่ายกัมพูชาไม่ได้ดำเนินการแบบสันติวิธี สิ่งที่ทำร้ายเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยคือหนังสติ๊ก ถามว่าถ้าลองถูกยิงด้วยหนังสติ๊กดูแล้วจะเป็นอย่างไร ความรุนแรงยิ่งกว่ากระสุนยาง เราต้องมีความรอบคอบและมีการป้องกันตนเองของเจ้าหน้าที่
โดยเมื่อวานนี้ใช้กองร้อยควบคุมฝูงชน 2 กองร้อย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารพราน ตำรวจหญิง อส. ดำเนินการตรึงกำลังและผลักดันตามขั้นตอนสมควรแก่เหตุ แต่ปัจจุบันฝ่ายกัมพูชานำไปบิดเบือนว่าถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยทำร้ายร่างกายถึงขั้นบาดเจ็บสาหัส ถามว่าแก๊สน้ำตาจะบาดเจ็บสาหัสตรงไหน ฝากถึงสื่อมวลชนกัมพูชาให้ข้อมูลที่ถูกต้อง
อีกประการหนึ่ง คือ ความจริงใจที่เห็นคือคณะผู้สังเกตการณ์ (IOT) ของทั้งสองประเทศนำโดยประเทศมาเลเซียลงพื้นที่ ฝ่ายไทยกลับเวลาประมาณ 15.00 น. ผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซียได้ชื่นชมการเตรียมการของฝ่ายไทยนอกจากมีความอดทนแล้ว ยังมีการเตรียมการเหมาะสมตามที่นานาอารยประเทศทำกัน แล้วเดินทางกลับไป หลังจากนั้นอีก 1 ชั่วโมง สิ่งที่เกิดขึ้นตามภาพข่าว พระ เด็กผู้หญิง วัยรุ่น เข้ามาในพื้นที่ ตนถามว่านั่นคืออะไร ความจริงใจที่่ฝ่ายกัมพูชาแสดงออก ตอนที่ผู้สังเกตการณ์ออก ตนบอกว่ามันคือละคร สร้างละครไม่จบไม่สิ้น ตนถามความจริงใจถึงผู้นำกัมพูชา ข้อตกลงต่างๆ อย่าให้เป็นแค่กระดาษหรือคำเขียน แต่ให้นำไปสู่การปฎิบัติ
กองทัพภาคที่ 1 และผู้ว่าฯ สระแก้วมีความจริงใจในการนำไปสู่สันติวิธี แต่ต้องการการตอบรับเหมือนกัน ตนไม่ได้หวั่นไหว ตนเป็นผู้ใหญ่ใจดีมามากแล้ว ตลอดระยะเวลา 30-40 ปี อยู่กันแบบอารยะบ้านใกล้เรือนเคียง มีความสุขร่วมกัน แต่กลับออกนอกกติกาอย่างต่อเนื่อง ตนสังเกตว่าเรื่องใดก็ตามที่มีการลงพื้นที่ ก็จะมีการยั่วยุทุกครั้ง แสดงถึงการไม่ยึดมั่นสันติวิธีในการตอบรับซึ่งกันและกัน ซึ่งจะยังคงพูดคุยหารือเหมือนเดิม แต่จะไม่เป็นผู้ใหญ่ใจดีอีกแล้ว ได้ทำหนังสือแจ้งกัมพูชาตามลำดับ และประกาศให้ทราบแล้วว่าหากมีการละเมิดอธิปไตยหรือผิดข้อตกลง จะมีขั้นตอนจากเบาไปหาหนัก ใช้กฎหมายไทยดำเนินการกับผู้ที่รุกล้ำเข้ามาอย่างสุขุม รอบคอบ ขอฝากผู้นำกัมพูชาว่าอย่ามายั่วยุอีกเลย เลิกยืนข้างหลังผู้หญิงได้แล้ว หมดเวลาแล้ว
อีกด้านหนึ่ง หลังเหตุการณ์ปะทะในช่วงเย็น กัมพูชานำคณะผู้สังเกตการณ์ลงพื้นที่อีกครั้งเวลา 19.00 น. ถามว่าคืออะไร พามาดูและรุกล้ำเกินอำนาจ ยืนยันว่าแนวลวดหนามคืออธิปไตยของไทย ไอโอทีไม่มีสิทธิ์เดินถึงแนวลวดหนาม ฝากถึงผู้แทนไอโอทีด้วย ยืนยันว่าแผ่นดินของเราต้องเป็นของเราต่อไป ซึ่งจะทำหนังสือผ่านกรมข่าวทหารว่า คณะไอโอทีต้องยึดถือหลักเกณฑ์และกติกาในฐานผู้สังเกตการณ์ ส่วนการประชุม RBC ที่ผ่านมา ได้สร้างกลไกเอาไว้ว่าต้องมีผู้บังคับหน่วยทหารในพื้นที่ต่อสายเพื่อพูดคุยไม่ให้เหตุการณ์บานปลาย เมื่อเช้าวานนี้ (17 ก.ย.) ได้พบกันและกำชับไว้แล้ว แต่ฝ่ายทหารกัมพูชาตอบกลับมาคือ ยืนเฉยๆ ยืนนิ่งๆ ฟังเฉยๆ ไม่ตอบอะไร จึงเตรียมการและติดตามสถานการณ์เมื่อเย็น
พล.ต.สุรวิชญ์ กล่าวว่า กองทัพภาคที่ 1 ไม่หลงกลที่ฝั่งตรงข้ามต้องการภาพเด็กและผู้หญิงที่มีกำลังทหารเข้าไปประชิด สร้างภาพว่าฝ่ายไทยใช้กำลังทหารต่อเด็ก สตรี พลเรือน นี่คือละครที่กำลังจะถูกสร้างขึ้น ยืนยันว่าทหารปฎิบัติด้วยความเข้มแข็ง โดยมีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่งกองร้อยควบคุมฝูงชนและวอร์รูมเพื่อดำเนินการอย่างเหมาะสม หวังว่าฝั่งกัมพูชาจะไม่เกิดภาพเช่นนี้เกิดขึ้นอีก วันนี้ยกระดับความเข้มข้น ไม่ยอมให้ฝ่ายกัมพูชายั่วยุและละเมิดอธิปไตย โดยจะใช้กองร้อยควบคุมฝูงชน พร้อมภาพถ่ายและเครื่องมือที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้เกิดการละเมิด และจะจับกุมไปดำเนินคดีฝั่งไทยโดยใช้กฎหมายสูงสุด ถ้าจะยั่วยุอย่างไรก็เลิกเสีย อย่าทำเป็นเด็กงอแงขี้ฟ้อง เอาภาพไปบอกประเทศต่างๆ เป็นละคร ขอให้จบได้แล้ว สัปดาห์หน้าจะเปิดการประชุม RBC ขอให้สถานการณ์เหมาะสมกับการเจรจา และขอความจริงใจจากกัมพูชาด้วย